วช. อวดผลงานธนาคารปูม้า ยกทัพปูม้า บุกไอคอนสยาม
ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช) เป็นประธานเปิดงาน “ตลาดนัด “ปูม้า…บุกกรุง” อย่างเป็นทางการ ซึ่งจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 16 – 19 มกราคม 2563 ณ บริเวณลานสุขสยาม ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร โชว์ผลผลิตโครงการ “ธนาคารปูม้า” สร้างความสมบูรณ์คืนปูม้าสู่ทะเลไทยได้สำเร็จ นำสู่การประมงยั่งยืน สร้างอาชีพ รายได้ สร้างความเข้มแข็งชุมชนและคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมกันนี้มีนักแสดงหนุ่มตัวแทนด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อเล็กซ์ เรนเดลล์ นักแสดง มาร่วมพูดคุยถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ เปิดเผยว่า ในช่วง 20 ปีก่อนเป็นช่วงที่ไทยจับปูม้าทั่วประเทศได้มากที่สุดถึง 46,000 ตัน ผลการจับและบริโภคมาก ทำให้จับปูได้น้อยลง โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจับได้เพียง 32,000 ตัน ผลจากการจับเป็นปริมาณมากและปูม้าโตไม่ทัน ออกลูกไม่ทัน เนื่องจากมีการจับปูขนาดเล็กและจับปูไข่มาขาย ไม่มีโอกาสได้ไปออกไข่ จากการเห็นปัญหาดังกล่าวทำให้ชาวประมงเริ่มหาวิธีแก้ไขปัญหา ด้วยการหลังจับปูไข่นอกกระดอง ได้ช่วยให้ปูมีโอกาสเขี่ยไข่ออก ซึ่งประสบความสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง จึงเกิดเป็นธนาคารปูม้าเกิดขึ้นในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา
วช. ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารจัดการการวิจัยเล็งเห็นปัญหาดังกล่าว จึงดำเนินการไปสร้างธนาคารปูม้าในหลายพื้นที่ ขณะที่มีอีกหลายหน่วยงานมาร่วมด้วยทำ รวมถึง ธนาคารออมสิน ต่อมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบหมายให้ วช.ขยายผลธนาคารปูม้า เพื่อ “คืนปูม้าสู่ทะเลไทย” ไปสู่ชุมชนชายฝั่งทะเลจำนวน 500 ชุมชน ภายในเวลา 2 ปี เพื่อเพิ่มทรัพยากรปูม้า ขับเคลื่อนและบูรณาการความร่วมมือด้านการตลาดและพาณิชย์ รวมถึงความร่วมมือในการใช้ทรัพยากรทางทะเล เช่น การฟื้นฟู การอนุรักษ์ โดยการปลูกจิตสำนึกและสร้างการรับรู้ ซึ่ง วช.ดำเนินการดังกล่าว ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมประมง และมหาวิทยาลัยเครือข่ายในพื้นที่ชายฝั่ง
ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ กล่าวต่อว่า หลักการของธนาคารปูม้าคือ ไม่จับปูตัวเล็ก และเมื่อจับปูไข่นอกกระดองให้หาวิธีเขี่ยไข่ออก ซึ่งแม่ปูมีไข่ประมาณ 1,000,000 ฟอง จะฟักได้เหลือ 500,000 ตัว 1,000 ฟอง จะรอด 1 ตัว หรือ 0.1% การวิจัยได้ช่วยเพิ่มอัตราการรอดของปู การวิจัยวิธีการปล่อย เวลาที่ปล่อยซึ่งพบว่า ปล่อยเวลาประมาณ 20.00 น.ได้ผลดีที่สุด จุดที่ปล่อย เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ที่ผ่านมาวช.ดำเนินการขยายผลไปแล้ว 531 แห่ง
“หากปล่อยเดือนละ 100 ตัว ทำทั่วประเทศ 500 แห่ง จะมีปูที่เติบโตเป็นตัวได้ประมาณ 25 ล้านตัว ชาวประมงสามารถขายได้ 300-400 บาทต่อกิโลกรัม แม่ปู1ตัวจะสร้างรายได้40,000 บาท ธนาคารปูม้าช่วยให้ชาวประมงมีรายได้เพิ่มขึ้นทั่วประเทศประมาณ 2,100 ล้านบาทต่อเดือน”
หลังการดำเนินงานขยายผลพบว่า ชาวประมงจับปูม้าได้เพิ่มมากขึ้น และพบลูกปูม้าวัยอ่อนบริเวณชายหาด และป่าชายเลนเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน ก่อให้เกิดการทำอาชีพปูม้าอย่างยั่งยืน ลดปัญหาการว่างงาน เกิดการเพิ่มรายได้ ชุมชนมีความเข้มแข็งและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“โครงการนี้สร้างความปลาบปลื้มยินดีแก่ชาวบ้าน ชาวประมง ที่นำความสมบูรณ์สู่ทะเล โดยมีชาวประมงเปิดเผยว่า จากที่เคยจับปูยากขึ้น ใช้เวลาหลายชั่วโมง ปัจจุบันเดินเล่นตามชายหาดก็มีปูมาเกาะที่ขา ซึ่งถือได้ว่า เป็นความสำเร็จของธนาคารปูม้า”
จากความสำเร็จดังกล่าว วช. จึงได้จัดงานตลาดนัด “ปูม้า…บุกกรุง ขึ้น ระหว่างวันที่ 16 – 19 มกราคม 2563 ณ บริเวณลานสุขสยาม ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมด้านการตลาดให้กับปูม้าและสินค้าประมงแปรรูป รวมถึงการเปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของชาวประมงพื้นบ้านในการทำธนาคารปูม้า เพื่อปลุกจิตสำนึกของประชาชนและเยาวชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรปูม้าด้วยการไม่จับ ไม่ซื้อ ไม่กิน แม่ปูไข่นอกกระดองและปูม้าตัวเล็ก
ภายในงานประกอบด้วย นิทรรศการผลการดำเนินงานโครงการธนาคารปูม้าเพื่อ “คืนปูม้าสู่ทะเลไทย” และกิจกรรมเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ใช้ในการขยายผลธนาคารปูม้าโดยชุมชนชาวประมง รวมถึงการเชื่อมโยงกับ BCG การแข่งขันการทำอาหารของผู้เข้าชมงาน จากวัตถุดิบปูม้า พร้อมสาธิตทำอาหารจากปูม้า โดยเชฟมืออาชีพ
การสาธิตเชิงปฏิบัติการ อาทิ บาติกเพ้นท์ ปูนพลาสเตอร์ระบายสี และถุงผ้ารักษ์โลก ชมฟรี Live Concert จากศิลปินชั้นนำอีกมากมาย อาทิ พลอย เดอะว้อยซ์ (16 ม.ค.) , หญิง ธิติกานต์ (17 ม.ค.) , ครูนนท์ อารัญ (18 ม.ค.) ,และปาลม์มี่ ก๊อปปี้โชว์ (19 ม.ค.)
วช. จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมงาน และเลือกชื้อปูม้าและสินค้าประมงแปรรูปจากชาวประมงในราคาพิเศษ ซึ่งเป็นการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล
สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน “ตลาดนัดปูม้า…บุกกรุง” มากินปูม้าสดโดยไม่ต้องไปไกลถึงแพ ได้ที่บริเวณลานสุขสยาม ชั้น G ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 16-19 มกราคม 2563 เวลา 10.00 น. – 22.00 น. เป็นต้นไป