แซมพ์ บิลเดอร์ ติดปีก “คราวน์” หวังต่อยอดธุรกิจรับสร้างบ้าน ลุยบ้านระดับ 3 ลบ.อัพ ตั้งเป้ายอดจองปีแรก500 ล้าน


แซมพ์ บิลเดอร์ (SAMPS Builder) บริษัทรับสร้างบ้าน ที่มุ่งเน้นสร้างบ้าน สร้างอาคารทุกประเภท ที่มีมาตรฐานระดับสากล ส่งน้องใหม่ “คราวน์ (CROWN)” ลุยธุรกิจรับสร้างบ้าน หวังติดปีกให้ บ.แม่และธุรกิจในเครือ ก้าวสู่บริษัทรับสร้างบ้านอันดับต้นๆ ของไทย นำจุดแข็งด้านการออกแบบรูปแบบบ้านที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย พร้อมลุยสร้างแบรนด์ผ่าน online และ offline เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านเองในระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป นอกจากนี้ ยังเตรียมพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อความสะดวกสบายให้กับลูกค้า CROWN โดยเฉพาะ หวังยอดจองปีนี้ 500 ลบ. ยอดทำสัญญา 375 ลบ.

นายพิสิษฐ์ เจียราภิรมย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซมพ์ ไอคอน ไทยแลนด์ จำกัด (SAMPS Icon Thailand) เปิดเผยว่า สถิติจากสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน คาดการณ์ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในปี 63 น่าจะมีมูลค่าประมาณ 13,000 – 13,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 5 – 7% โดยบ้านระดับ 3 – 10 ล้านบาท ยังเป็นตัวนำตลาดในกรุงเทพและปริมณฑล ในขณะที่มีการขยายตัวไปสู่ต่างจังหวัดในหัวเมืองใหญ่ เช่น อยุธยา อุบลราชธานี ประจวบคีรีขันธ์ ฯลฯ ขณะเดียวกัน คราวน์ ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภค พบว่า กลุ่มลูกค้าจะใช้เงินออมหรือเงินสดในการสร้างบ้าน เฉลี่ยประมาณ 65% ส่วนที่เหลือ 35% จะเป็นลูกค้าที่ขอสินเชื่อหรือกู้ยืมธนาคารหรือสถาบันการเงิน ซึ่งจากการสำรวจตลาดยังพบว่า บ้านในระดับ 3 – 5 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่ลูกค้าส่วนใหญ่ตั้งงบประมาณไว้สำหรับการสร้างบ้านเพื่อการอยู่อาศัย

ดังนั้น จากเดิมที่ บ. แซมพ์ บิลเดอร์ ภายใต้ SAMPS Icon Thailand ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มุ่งเน้นสร้างบ้าน สร้างอาคารทุกประเภท โดยมีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งมีฐานลูกค้าที่นิยมสร้างบ้านในระดับแสนปลายถึง 2.5 ล้าน ขณะเดียวกันลูกค้าก็มีความต้องการบ้านในขนาดใหญ่ขึ้น ในระดับที่หรูหรามากขึ้น บริษัทฯ จึงวางแผนขยายฐานลูกค้าเพื่อรองรับกับความต้องการดังกล่าว ไปยังกลุ่มขนาดกลางและใหญ่ โดยได้เปิดตัวบริษัทรับสร้างบ้านในเครือขึ้นมาภายใต้ชื่อ “CROWN” มารองรับความต้องการของลูกค้า โดยมองว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกและความผันผวนของเศรษฐกิจไทย โอกาสของธุรกิจรับสร้างบ้านที่เห็นได้ชัดเจนในขณะนี้คือ การขยายตัวของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม (สายสีส้ม สีชมพู สีเหลือง) ในทางกลับกับต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นก็เป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ บริษัทพบว่า ปัจจุบันบ้านสร้างเองจะตอบโจทย์ลูกค้าในเรื่องไลฟ์สไตล์ ดีไซน์การออกแบบและปรับรูปแบบบ้านตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย รวมไปถึงการเลือกวัสดุที่ใช้ ข้อดีที่ผู้บริโภคยังคงเลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์ คือ ความต่อเนื่องในการก่อสร้าง ลดความเสี่ยงเรื่องการทิ้งงาน ความสะดวกสบายในด้านการประสานงานกับหน่วยงานราชการ เป็นต้น

นายธาราพล ศุระศรางค์ ผู้อำนวยการสายงานขาย กล่าวเสริมว่า CROWN ใช้สโลแกน Build for The Future มาต่อยอดจากคอนเซ็ปต์เดิมของแซมพ์ ซึ่งเป็นการติดปีกให้กับ SAMPS Icon Thailand ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ในการเป็นบริษัทรับสร้างบ้านอันดับต้นๆ ของไทย สำหรับแผนการดำเนินงานของ CROWN ใช้ 3 กลยุทธ์หลักในการทำตลาดและเข้าถึงกลุ่มลูกค้า คือ 1) การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ซึ่ง CROWN มี SAMPS เป็นเครื่องหมายการันตีถึงประสบการณ์และความชำนาญงานก่อสร้าง 2) คุณภาพงาน ด้วยความโดดเด่นของแบบบ้าน ที่สถาปนิกสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้าภายใน 3 วันทำการ และ 3) บริการหลังการขาย CROWN ได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อลูกค้าของ CROWN โดยเฉพาะ โดยให้บริการ เช่น การเช็คสถานะความคืบหน้าในการก่อสร้างแบบเรียลไทม์ การชำระค่างวด การตรวจสอบงวดงาน การขอมิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ถาวร และการขอเลขบ้าน เป็นต้น


ปัจจุบัน CROWN มีศูนย์รับสร้างบ้าน 3 สาขาด้วยกัน ได้แก่ อ่อนนุช กัลปพฤกษ์ และชลบุรี ส่วนในอนาคตภายในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนการขยายสาขาเพิ่มอีก 1-2 สาขา ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล เพื่อเป็นแผนการรองรับการขยายตัวของธุรกิจรับสร้างบ้านไปสู่ต่างจังหวัดโดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ ส่วนงบการลงทุนโดยรวมที่วางไว้ในปีนี้ ประมาณ 20 ล้านบาท แบ่งเป็นงบการตลาดประมาณ 50% และงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ผ่านเครื่องมือสื่อสารทั้ง online และ offline ประมาณ 50% ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดจองของ CROWN ประมาณ 500 ล้านบาท เป้าของยอดทำสัญญา ประมาณ 375 ล้านบาท


“เรามุ่งหวัง “CROWN” จะเป็นบริษัทฯ ชั้นนำในธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยการผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุดในทุกกลุ่ม จากจุดแข็งที่เรามีประสบการณ์ในการสร้างบ้านกับ SAMPS ด้วยความเป็นมืออาชีพมาตลอด 10 ปี เราคลุกคลีกับลูกค้ามาโดยตลอด ทำให้เราทราบถึงความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี ตาม Concept เดิมของแซมพ์ที่เรามีคือ “สร้างบ้านตามความคิดคุณ” และมาต่อยอดด้วยแนวคิดใหม่ของ “คราวน์ (CROWN)” ที่ว่า “Built For The Future” เมื่อรวมกันใน 2 เรื่องดังกล่าว ทำให้เราเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถออกแบบบ้านได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ในสไตล์บ้านที่ตอบโจทย์ในปัจจุบันและไม่ล้าสมัยในอนาคต ความแข็งแรง คุณภาพของบ้านที่จะอยู่กับลูกค้าไปตลอด รวมถึงนวัตกรรม Application ที่เรานำมาใช้ให้บริการลูกค้าของเราและจะได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าของเราเป็นอย่างดี”
