พม. เชิญชวนสตรี ร่วมแสดงพลังพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ
นางสาวอุษณี กังวารจิตต์ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาสถานภาพสตรี (กสส.) ซึ่งมีคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ เป็นประธานกรรมการ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ โดยมีการหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเห็นถึงพลังของสตรีซึ่งเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในด้านต่างๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งพบว่า สตรีไทยมีบทบาทในด้านการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยในระดับชุมชน เช่น การทำอาหารและขนมไทย การแต่งกายแบบไทยที่เป็นเอกลักษณ์และมีความสวยงาม
ในด้านแรงงาน แม้ว่าสตรีต้องทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน แต่ยังเป็นกลุ่มแรงงานนอกระบบที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัว เช่น กลุ่มอาชีพสตรีทอผ้า กลุ่มอาชีพสตรีหัตถกรรมเครื่องเงิน ซึ่งแรงงานสตรีส่วนใหญ่มีความละเอียดอ่อน และในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อจำหน่ายสินค้าออนไลน์มากขึ้น
นอกจากนี้ กลุ่มสตรียังมีความมุ่งมั่นและมีจุดยืนในการเป็นเครือข่ายเพื่อคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรีด้านแรงงานอย่างเข้มแข็งด้วย
นางสาวอุษณี กล่าวต่อไปว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันการระบาดของ ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ Covid-19 ซึ่งมีแนวโน้มการแพร่กระจายที่เพิ่มมากขึ้น และรัฐบาลได้กำหนดมาตรการลดการแพร่ระบาดรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในการนี้ ที่ประชุมได้เชิญชวนให้สตรี เข้ามามีบทบาทอย่างแข็งขันในการร่วมกันปกป้องตนเองและการช่วยเหลือผู้อื่น รวมถึงเป็นผู้ให้กำลังใจและดูแลคนในครอบครัว
โดยปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัด เช่น การทำความสะอาดบ้านเพื่อให้ปลอดเชื้อ การจัดหาหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การจัดเตรียมเจลล้างมือ การจัดสำรับอาหารเฉพาะบุคคล การเว้นระยะห่างเพื่อไม่ให้มีความใกล้ชิดกัน การงดเว้นการออกงานสังคมที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก รวมถึงการเฝ้าระวังสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว และรีบแจ้งเหตุเมื่อพบว่ามีอาการผิดปกติ นอกจากนี้ สตรียังมีบทบาทสนับสนุนมาตรการเหลื่อมเวลาทำงานและการทำงานที่บ้าน มีการจัดเตรียมระบบอินเตอร์เน็ต เพื่อการประชุมทางไกล เป็นต้น
นางสาวอุษณี กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ได้ดำเนินโครงการ “สค รั้วครอบครัวป้องกันภัย COVID 19” ซึ่งดำเนินการโดยศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว 8 แห่ง ร่วมกับกลุ่มอาชีพสตรีในชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งได้เน้นย้ำการดำเนินการตามมาตรการของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด และได้ดำเนินการสอนและเย็บหน้ากากผ้า เพื่อแจกจ่ายให้กับภาคีเครือข่ายในชุมชน และส่วนราชการ รวมถึงการจัดทำหลักสูตรเย็บหน้ากากผ้าออนไลน์ ซึ่งเป็นการโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของ สค. ยังได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน Covid-19 โดยการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าภายในอาคาร และจัดให้มีเจลล้างมือแก่ผู้ปฏิบัติงานของหน่วยงานและผู้มาติดต่อ รวมถึงการกำหนดช่วงเวลาเหลื่อมการทำงาน และมอบหมายลักษณะงานที่จะไปทำที่บ้าน การจัดประชุมหรืออบรมบุคลากร จำนวนไม่เกิน 50 คน และมีการเว้นระยะห่างตามที่กำหนด
ท้ายสุดนี้ สค.เชื่อมั่นว่าพลังของทุกคนรวมถึงพลังของสตรีไทย จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการสนับสนุนมาตรการของรัฐบาล และขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน ทุกครอบครัวเดินหน้าผ่านวิกฤต Covid-19 นี้ไปได้