เดอะมอลล์กรุ๊ป เตรียมเปิดบริการด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด สร้างสังคมไร้สัมผัสครั้งแรกในไทย กับธุรกิจรีเทล -พร้อม 100 มาตรการ
เดอะมอลล์ กรุ๊ป เตรียมความพร้อมและจำลองการเปิดให้บริการศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในเครือ ตามมาตรการปลดล็อกดาวน์ของภาครัฐ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุด ตอบรับ NEW NORMAL พร้อมสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้ง แบบไร้สัมผัส TOUCHLESS SOCIETY ครั้งแรกในประเทศไทย และตอกย้ำความมั่นใจด้วยที่สุดของมาตรการความปลอดภัยสู้ โควิด-19 ครอบคลุมทุกมิติรวม 100 มาตรการ
นายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดิ เอ็มโพเรี่ยม กรุ๊ป และกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ได้กล่าวถึงภาพรวมของวงการค้าปลีกว่า “ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ธุรกิจค้าปลีกเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จนถึงปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกมีการชะลอตัวทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป และอเมริกาที่มีการระบาดอย่างหนักของโรคโควิด-19 โดยสหภาพยุโรปคาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปใน ปี 2563 จะติดลบที่ 1.1% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 1.4% ในขณะที่ ยอดค้าปลีกใน สหรัฐอเมริกา และจีน ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่ผ่านมา ลดลงอย่างต่อเนื่องกว่า 20-25%
ในขณะที่สถานการณ์ธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย จากข้อมูลของศูนย์ ECONOMIC INTELLIGENCE CENTER (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์ว่า ตลาดค้าปลีก 2563 จะหดตัวราว 14% หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่หายไปราว 5 แสนล้านบาท จากมูลค่าตลาดค้าปลีกปี 2562 ที่อยู่ราว 3.5 ล้านล้านบาท โดยมีผลกระทบจาก 3 ปัจจัยหลักๆ คือ จำนวนนักท่องเที่ยวที่หดตัวลง, กำลังซื้อที่ลดลง และสต๊อกสินค้าที่ขาดแคลน อาทิ สินค้านำเข้าจากจีน และกำลังการผลิตที่หดตัวลง เป็นต้น
นอกจากในเรื่องของผลกระทบทางเศรษฐกิจแล้ว การระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปหรือที่เรียกว่า NEW NORMAL ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการต้องตระหนักถึง ยกตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น, การใส่หน้ากาก ตรวจวัดอุณหภูมิเป็นเรื่องปกติ, การเว้นระยะห่างทางสังคม กลายเป็นเรื่องที่ต้องปฎิบัติทุกคน, รวมถึง Digital life ดิจิทัลจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตของคนทุกคน, ระบบการจ่ายเงินแบบ TOUCHLESS PAYMENT
มีผลกับชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งเป็นหลักสำคัญในการบริหาร ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในยุคใหม่
ต้องมองความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยของ ศูนย์การค้า ร้านค้า ผู้บริโภคและพนักงานเป็นอันดับแรก จึงจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้
ในส่วนศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเดอะมอลล์ จากการปิดบริการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเราได้รับผลกระทบมากพอสมควรในหลายๆด้าน อย่างไรก็ตามเราก็ยังมีการให้บริการอยู่ ในบาง SEGMENT ที่สามารถเปิดบริการได้ โดยเฉพาะในส่วนของซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ยังมียอดขายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าในชีวิตประจำวันต่างๆ นอกจากนี้ในช่วงปิดบริการชั่วคราว ทางเรามีมาตรการช่วยเหลือร้านค้าและคู่ค้าต่างๆ โดยยกเว้นการเก็บค่าเช่าแก่ร้านค้าที่ไม่สามารถเปิดบริการได้ รวมถึงช่วยเหลือร้านค้าโดยจัดทำบริการ M CHAT & SHOP ผ่านทางไลน์ และทำโปรโมชั่นต่างๆเพื่อให้ร้านค้ายังสามารถขายสินค้าได้
ในส่วนร้านอาหารต่างๆ เรามีการจัดทำ จุดสั่ง และ รับอาหารในบริเวณ ศูนย์การค้า อย่างมีระบบ รวมถึงการจัดบริการส่งอาหารถึงบ้าน นำร้านอาหารไปแนะนำใน LINEMAN รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจต่างๆ เช่น แสนสิริ และ โรงพยาบาลสมิติเวช ขยายฐานลูกค้า DELIVERY อาหารจากร้านค้าไปยังฐานลูกค้าของพันธมิตร เพิ่มโอกาสในการขาย นอกจากนี้ยังได้เปิดบริการผ่านไลน์ EMLUXESOCIETY ซึ่งเป็นบริการช้อปสินค้าแฟชั่นแบรนด์ดังระดับโลก เอาใจคนรักแฟชั่น ซึ่งผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ มีลูกค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
ทางเดอะมอลล์ กรุ๊ป ยังได้ ให้การสนับสนุนนโยบายภาครัฐในเพื่อลดกระแพร่กระจายของโรค โดยมีการจัดมาตราการ ป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าของเดอะมอลล์ กรุ๊ป อย่างเข้มข้นสูงสุด มีการจัดการภายในองค์กร โดยจัดระเบียบการทำงานให้มีระยะห่างทางสังคม เช่น การจัดโต๊ะทำงาน เป็นต้น รวมถึงการจัดสรรการทำงาน โดยส่วนใหญ่ ให้พนักงาน WORK FROM HOME ประชุมทางออนไลน์ โดยพนักงานที่เข้าปฎิบัติงาน จะเป็นพนักงานที่มีความจำเป็น และสลับสับเปลี่ยน วัน เวลา การทำงาน เพื่อหลีกเลี่ยง การมีคนหมู่มากในที่ทำงาน เพื่อรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
ด้าน นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด (MISS VORALAK TULAPHORN ; CHIEF MARKETING OFFICER, THE MALL GROUP CO., LTD.) กล่าวว่า “หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องยอมรับว่าได้เกิด “NEW NORMAL” หรือ ชีวิตวิถีใหม่ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัย ซึ่งนับเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องให้ความสำคัญเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดและเพื่อให้เราสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งจะยังส่งผลให้สังคมและเศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ เดอะมอลล์ เองได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้เร่งเดินหน้าคิดค้นและพัฒนามาตรการต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับ NEW NORMAL ที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด เราจึงได้เตรียมความพร้อมแบบรัดกุมและรอบด้านเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและภาครัฐว่าห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ทุกสาขา มีความสะอาดและปลอดภัยด้วยมาตรการความปลอดภัยและสุขอนามัยเชิงรุกขั้นสูงสุด แบบครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งประกอบด้วย 5 มาตรการหลัก 34 มาตรการย่อย สำหรับลูกค้า และ 6 มาตรการเสริม 66 มาตรการย่อย สำหรับ 5 กลุ่มธุรกิจ รวม 100 มาตรการ โดยกลยุทธ์หลักที่เราทุ่มเทและให้ความสำคัญคือมาตรการสร้าง TMG TOUCHLESS SOCIETY หรือสังคมไร้สัมผัส ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ของ TOUCHLESS RETAIL โดยเราพร้อมดูแลความปลอดภัย ให้ลูกค้าได้มั่นใจ ไร้การสัมผัสตลอดการช้อปปิ้ง ด้วยมาตรการที่เข้มข้นตั้งแต่เข้าศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า อันได้แก่
- TOUCHLESS FACILITIES หรือบริการไร้การสัมผัส โดยเดอะมอลล์ พร้อมให้บริการ
เพื่ออำนวยความสะดวกด้วยมิติใหม่ของบริการแบบไร้การสัมผัส อาทิ TOUCHLESS PARKING การสแกนเพื่อจอดรถผ่านแอพลิเคชั่นแบบไม่ต้องรับบัตร, WORRY-FREE WAITING AREAในห้างสรรพสินค้า, บริการกดลิฟท์ทุกตัวให้กับลูกค้าโดยลูกค้าไม่ต้องสัมผัสลิฟท์เอง, จัดพนักงานบริการเปิด – ปิดประตูศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ฯลฯ - บริการช้อปปิ้งแบบไร้เงินสด หรือ TOUCHLESS PAYMENT การสัมผัสธนบัตรเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่อาจมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิด โอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ โดยองค์การอนามัยโลกได้ออกประกาศให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการหยิบจับสัมผัสธนบัตรและเหรียญเพื่อใช้ซื้อสินค้าและบริการ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากธนบัตรและเหรียญถูกเปลี่ยนมือไปอย่างรวดเร็ว และอาจมีเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียติดอยู่เป็นเวลานาน และในช่วงนี้ทางเดอะมอลล์ กรุ๊ป จึงมีการรณรงค์ให้ลูกค้าเปลี่ยนเป็นการใช้จ่ายแบบออนไลน์แทน TOUCHLESS PAYMENT จึงเป็น ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัส เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในสภาวะที่ผู้คนนั้นมีความระมัดระวังมากขึ้นในการสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ โดยการชำระเงินแบบไร้สัมผัสนี้จะใช้เทคโนโลยีแบบไร้สายในพิกัดสั้นเพื่อทำการชำระเงินอย่างปลอดภัย ผ่านหลายช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่
- จ่ายผ่าน APPLICATION ของธนาคาร ผ่าน PROMPTPAY หรือ QR-CODE เพียงมีบัญชีเงินฝากใน ธนาคาร หรือ บัตรเครดิต ของธนาคาร ก็สามารถสมัครบริการ MOBILE BANKING ของธนาคารนั้นๆ เพื่อใช้งาน โดยสามารถเลือกจ่ายเงินผ่าน QR PROMPTPAY ซึ่งหักค่าใช้จ่ายจากบัญชีเงินฝากที่ผูกไว้ หรือชำระผ่าน QR CREDIT CARD ซึ่งหักค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับ APPLICATION ของธนาคารนั้น
- จ่ายผ่าน TAP & GO ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกจ่ายผ่าน TAP & GO ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต รวมถึงมือถือบางแบรนด์ เช่น SAMSUNG มีบริการ SAMSUNG PAY ซึ่งเป็นบริการจ่ายเงินผ่านมือถือ สมาร์ทโฟน โดยการผูกบัตรเครดิต แล้วนำมือถือไป “แตะ” กับเครื่องรูดบัตรที่ร้านค้ารับชำระค่าสินค้า/บริการ
- บริการ E-WALLET หรือกระเป๋าเงินออนไลน์สามารถเติมเงินเข้าสู่กระเป๋าสตางค์ออนไลน์ เพื่อนำเงินที่โอนมาใช้ชำระค่าสินค้า/บริการผ่านบนมือถือได้ เช่น APPLICATION TRUEMONEY WALLET และ RABBIT LINE PAY โดยลูกค้าสามารถเติมเงิน (TOP UP) เข้ากระเป๋า E-WALLET ได้ด้วยวิธีการต่างๆ จากบัญชีธนาคาร เงินสด รวมทั้งบัตรเครดิต/เดบิตต่างๆที่ผูกบริการไว้
- บริการชำระผ่าน APPLICATION รองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน สามารถรับชำระเงิน ผ่าน ALIPAY , WECHAT PAY , UNIONPAY APPLICATION
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับมาตรการคัดกรองเข้มงวด (INTENSIVE SCREENING) โดย
การลงทะเบียนก่อนเข้าพื้นที่ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ลูกค้าทุกคนจะมีการ (CHECK IN-OUT) เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังในด้านความปลอดภัยทุกคนที่จะเข้าห้างฯ และ ศูนย์ฯ
ในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป ทั้งหมด ต้องลงทะเบียนและให้ข้อมูลส่วนตัวซึ่งเปรียบเสมือนประตูด่านแรกที่สำคัญในการคัดกรองในเบื้องต้นและสามารถติดตามได้ในกรณีที่มีความจำเป็น โดยลูกค้าผู้ลงทะเบียนมีทางเลือก 3 ช่องทาง ได้แก่
- ผ่านแอปพลิเคชัน M CARD ซึ่งสามารถทำได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า (PRE-REGISTRATION) จากที่บ้านได้ ซึ่งจะช่วยลดการเข้าคิวของ
จุดคัดกรองบริเวณทางเข้าห้างฯได้ หรือผ่านแอปพลิเคชัน EM AR สามารถทำได้สะดวก รวดเร็ว โดยกดปุ่ม EM CHECK IN เพื่อลงทะเบียนผ่านระบบได้ทันที (เฉพาะที่ ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์) - ผ่าน QR CODE หรือ LINE @THE MALL GROUP สามารถสแกน QR CODE และลงทะเบียนผ่านระบบได้ทันที
- ลงทะเบียน ยื่นบัตรประชาชน พร้อมให้ข้อมูลที่จำเป็นกับเจ้าหน้าที่ อาทิ ชื่อและเบอร์ติดต่อ หรือที่พักใน PASSPORT ในกรณีที่เป็นชาวต่างชาติ
และนอกจากมาตรการสังคมไร้สัมผัส (TOUCHLESS SOCIETY) และมาตรการคัดกรองเข้มงวด (INTENSIVE SCREENING) แล้ว เดอะมอลล์ กรุ๊ป ยังให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยด้านอื่นๆ ด้วย ได้แก่
-มาตรการลดความแออัด (PHYSICAL DISTANCING) คือ ขั้นตอนการจัดการและจัดระเบียบพื้นที่ทั้งในห้างฯ, ศูนย์ฯ และร้านค้าทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด มีการเว้นระยะห่างทางสังคมในทุกพื้นที่ รวมถึง จัดพื้นที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ากลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้สูงอายุ, ผู้พิการ หรือสตรีมีครรภ์ ให้ได้รับความสะดวกสบายและลดความเสี่ยงมากที่สุด
-มาตรการสุขอนามัยเชิงรุก (HYGIENIC CLEANING) เราให้ความสำคัญกับมาตรการด้านสุขอนามัยเชิงรุกในระดับสูงสุด โดยได้คิดค้นและพัฒนามาตรการแบบบูรณาการครอบคลุมทุกมิติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า พนักงาน คู่ค้า และทุกภาคส่วนอย่างดีที่สุด ประกอบด้วย 15 มาตรการย่อย โดยมาตรการที่ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ทุ่มเทดำเนินการเป็นพิเศษ คือ การจัดให้มีระบบถ่ายเทอากาศภายในอาคารมากกว่า 10 เท่าต่อชั่วโมง (10 ACH) และทำการอบฆ่าเชื้อระบบปรับอากาศส่วนกลางเป็นประจำทุกคืนด้วยรังสี UV ซึ่งนับเป็นมาตรการความปลอดภัยที่เข้มข้นไปอีกขั้นที่จะสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคและถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี
-มาตรการเฝ้าระวังติดตาม (COMPREHENSIVE INFORMATION TRACKING) รัดกุมยิ่งขึ้นด้วยขั้นตอนการเฝ้าระวังและติดตาม คือ พนักงานทุกคน รวมถึง พนักงานร้านค้า และพนักงานคู่ค้า ต้องมีบันทึกข้อมูลประวัติสุขภาพ รวมถึง ลูกค้าและผู้เข้ามาใช้บริการทุกคน ต้องลงทะเบียนและให้ข้อมูลที่จำเป็นก่อนเข้าห้างฯ และ ศูนย์ฯ ทุกครั้ง เพื่อจะสามารถ มีข้อมูลและติดตามได้ในกรณีที่มีความจำเป็น
ทั้งนี้ นายณัฐพงศ์ กิจนิจชีวะ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัดได้กล่าวถึง มาตรการและการเตรียมความพร้อมของห้างสรรพสินค้า ในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป และการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดศูนย์ฯ และห้างฯ เพิ่มเติมว่า “ขอให้เชื่อมั่นว่าเดอะมอลล์ กรุ๊ป มีความรับผิดชอบต่อสังคมและพร้อมเปิดให้บริการด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดอย่างแท้จริง โดยเราได้ออกมาตรการด้านความปลอดภัยที่รัดกุมมากที่สุดแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยมาตรการที่ทางห้างสรรพสินค้าจัดเตรียมไว้ ได้แก่
1. STAFF POLICY มาตรการสำหรับพนักงานขาย PC/BA
– พนักงาน PC/BA ทุกคน ต้องแสดงใบรับรองแพทย์ก่อนกลับมาปฏิบัติงาน
– พนักงาน PC/BA ทุกแบรนด์ สวมใส่หน้ากากอนามัย และ FACE SHIELD ขณะปฏิบัติงาน
– พนักงาน PC/BA ทุกแบรนด์ สวมถุงมือผ้า, ถุงมือยางสีขาว ตามความเหมาะสมของประเภทสินค้า 0ทุกครั้งที่ให้บริการลูกค้า
– พนักงาน PC/BA ทุกแบรนด์ ต้องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย 2 ครั้งต่อวัน
2. COUNTER BRAND & SHOP มาตรการสำหรับ COUNTER BRAND และ SHOP
– พนักงาน PC/BA ทำความสะอาดเคาน์เตอร์, ห้องลอง, ลูกบิด, มือจับ, ราวแขวนผ้า, เก้าอี้ , ตะกร้าช้อปปิ้งและอุปกรณ์ในการบริการต่างๆ ด้วยน้ำยาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ทุก 30 นาที และทุกครั้งหลังจากลูกค้าเข้าลองสินค้า
– SOCIAL DISTANCING กำหนดระยะห่างในการบริการลูกค้าอย่างน้อย 1.0-1.5 เมตร ในการให้บริการ โดยห้างฯจะจัดเตรียมสื่อเพื่อบอกระยะในจุดให้บริการต่างๆทั่วห้าง
- แผนก BEAUTY HALL จำกัดจำนวนให้บริการลูกค้าไม่เกิน 2 ท่าน/เคาน์เตอร์
- แผนก FASHION จำกัด 1 ท่าน/ราวเสื้อผ้า
- งดกิจกรรม WORKSHOP หรือหากจำเป็นให้จัดที่นั่งห่างกันอย่างน้อย 1.0-1.5 เมตร
- สินค้าอาหาร, เครื่องดื่ม งดให้บริการทดลอง และชิมสินค้าทุกประเภท
3. PRODUCT CLEANING BEFORE & AFTER TESTING มาตรการสำหรับการดูแลความสะอาดสินค้า
– พนักงาน PC/BA ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อสินค้า อุปกรณ์ และสินค้าทดลอง ทั้งก่อนและหลังที่ลูกค้าสัมผัสสินค้าทุกครั้ง
- STEAMING IRON สินค้าประเภทเสื้อผ้า เมื่อลูกค้าลองสวมตัวโชว์แล้ว พนักงานจะต้องนำเสื้อที่ลูกค้าทดลองแล้วมารีดอบไอน้ำอีกครั้ง เพื่อใช้ความร้อนฆ่าเชื้อโรคเบื้องต้น
- UV-C STERILIZING CHAMBER นำสินค้าที่ลูกค้าลองสวมแล้วไปผ่านการฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสี UV-C STERILIZING ในห้องที่ทางห้างฯจัดเตรียมไว้ ซึ่งลูกค้ามั่นใจได้ในความปลอดภัยสูงของห้อง UV-C STERILIZING CHAMBER ไม่ต้องกังวลว่าลูกค้าจะโดนแสง UV-C เพราะติดตั้ง motion censor ภายในห้องและมี limit switch ที่ประตูห้องเพื่อจับความเคลื่อนไหว หากมีการเคลื่อนไหวในห้อง วงจรไฟ UV-C จะถูกตัดทันที
- ALCOHOL SPRAY & WIPE พนักงานขายเช็ดทำความสะอาด แล้วฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อหลังจากลูกค้าทดลองสินค้าทุกครั้ง ในกรณีที่เป็นสินค้าที่ไม่สามารถนำไปอบ UV-C ได้ เช่น LINGERIE, WATCH, BETREND, LIVING, POWER MALL เป็นต้น
– การทดลองสินค้าที่มีการสัมผัสกับผิวโดยตรง พนักงานจะต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน แบบใช้ครั้งเดียวทิ้งให้ลูกค้าสวมก่อนทำการทดลองสินค้า และเมื่อลูกค้าลองเสร็จต้องเปลี่ยนทิ้งทุกครั้ง เช่น ถุงเท้า, ถุงมือพลาสติก ยกเว้นอุปกรณ์ป้องกันบางชนิดที่ทางแบรนด์ต้องเตรียมมาเอง ผ้าคลุมหน้าบริการลูกค้าที่ลองเสื้อผ้า, กระดาษบางรองหมวก, คลุมผ้าสปันบอนด์บนสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์, เตียง, หมอน, เก้าอี้ แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
– ภายในเคาน์เตอร์แบรนด์ มีแอลกอฮอล์เจล และแบบสเปรย์น้ำ โดยพนักงานจะต้องพกสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัวเพื่อฉีดให้ลูกค้าทุกครั้งก่อนให้บริการลูกค้า
4. SERVICES มาตรการสำหรับงานบริการ
– WORRY-FREE WAITING AREA พนักงานขายช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าโดยไปชำระเงินและนำสินค้ามาให้ลูกค้าที่จุดนั่งรอรับบริการ WORRY-FREE WAITING AREA ที่ห้างฯ จัดเตรียมไว้ให้ทุกชั้น
– งดบริการแต่งหน้านวดหน้า หากจำเป็นต้องให้บริการแต่งหน้าจะต้องนัดหมายล่วงหน้าหรือจัดคิวเพื่อคุมปริมาณลูกค้าโดยให้บริการได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง งดสนทนาขณะให้บริการและต้องใช้อุปกรณ์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้งพร้อมทำความสะอาดมือต่อหน้าลูกค้าและสวมถุงมือผ้าก่อนให้บริการทุกครั้ง
– งดกิจกรรมในแผนกเด็กทั้งหมด เช่น โต๊ะบริการของเล่น, อุปกรณ์เสริมทักษะทุกประเภท, การทดลองสินค้า เป็นต้น กำหนดระยะห่างของเครื่องเล่นหยอดเหรียญไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร
นางสาววรลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เพื่อความปลอดภัยแบบครอบคลุมทุกมิติ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้เพิ่ม 6 มาตรการเสริม 66 มาตรการย่อย สำหรับ 5 กลุ่มธุรกิจ สำหรับร้านค้าและพนักงานในศูนย์การค้า ได้แก่ มาตรการสำหรับร้านค้าทุกประเภทและพนักงานทุกคนภายในศูนย์การค้า, มาตรการสำหรับร้านอาหาร, คลินิก, ร้านตัดผม, ร้านแฟชั่น , ร้านไลฟ์สไตล์ และธนาคาร เพื่อความมั่นใจของลูกค้าทุกท่านที่มาใช้บริการ”
จึงมั่นใจได้ว่า ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า ในกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ทุกสาขา พร้อมเปิดให้บริการด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด มีความสะอาด ปลอดภัย มั่นใจได้ในทุกตารางเมตร และจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อให้บริการด้วยหัวใจและมาตรฐานความปลอดภัยครอบคลุมทุกมิติ อีกทั้ง ขอสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างประเทศไทยและประชาชนคนไทยในทุกสถานการณ์ เพื่อให้เราก้าวข้ามผ่านวิกฤติการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างดีที่สุด ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ WWW.FACEBOOK.COM/THEMALLTHAILAND
FACTSHEET
100 มาตรการ เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด ของ เดอะมอลล์ กรุ๊ป
ปลอดภัย ใส่ใจสุขอนามัย 5 มาตรการหลัก 34 มาตรการย่อย สำหรับลูกค้า
1.คัดกรองเข้มงวด (INTENSIVE SCREENING)
- ตรวจวัดอุณหภูมิลูกค้า ผู้เข้าใช้บริการทุกคน รวมถึงพนักงานร้านค้า พนักงานคู่ค้า พนักงานรับ-ส่งสินค้า DELIVERY ด้วย THERMO SCAN และ THERMOMETER ณ ประตูทางเข้าศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า โดยต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส จึงจะอนุญาตให้เข้าพื้นที่
- ลูกค้า ผู้ใช้บริการ และพนักงานทุกคน ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อเข้าพื้นที่ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า
- ลูกค้า ผู้ใช้บริการ และพนักงานทุกคน ต้องลงทะเบียนผ่าน APPLICATION
- จัดให้มีบริการจำหน่ายหน้ากากอนามัย ในกรณีลูกค้ามิได้สวมใส่ หรือไม่ได้เตรียมหน้ากากอนามัยมา
- จัดเตรียมพรมเช็ดเท้าฆ่าเชื้อที่ประตูทางเข้า
2.ลดความแออัด (PHYSICAL DISTANCING)
- ลดความแออัด ด้วยการจำกัดจำนวนคน ในพื้นที่ 1 คน ต่อ 5 ตารางเมตร
- กำหนดทางเข้า-ออก อาคารศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า เพื่อให้ลูกค้า ผู้ใช้บริการ ผู้เช่า และพนักงานผ่านจุดคัดกรอง และลดการเดินสวนกันที่บริเวณทางเข้า – ออก
- ร้านค้าและพื้นที่ส่วนกลาง ต้องรักษาระยะห่าง ไม่น้อยกว่า 1 – 1.5 เมตร โดยจัดทำสัญลักษณ์กำหนดตำแหน่งยืนที่พื้นอย่างชัดเจน เช่น การเว้นระยะภายในลิฟท์ทุกตัว การใช้บันไดเลื่อนเว้นห่างกัน 2 ขั้น รวมถึงระยะการยืนเพื่อรับบริการที่จุดชำระเงิน เคาน์เตอร์บริการต่าง ๆ
- จัดทำช่อง PRIORITY LANE สำหรับคนชรา สตรีมีครรภ์ ผู้พิการ
- จัดเตรียมโซนพิเศษสำหรับพนักงาน DELIVERY ให้มีระยะห่าง ทั้งการรับสินค้า และการรอสินค้า
- งดกิจกรรมทางการตลาด ที่มีปริมาณคนต่อคิวมาก โดยยึดมาตรการ SOCIAL DISTANCING อย่างเคร่งครัด
- จัดให้มีบริการ DRIVE THRU & PICK UP ในห้างสรรพสินค้า
3.สร้างสังคมไร้สัมผัส (TOUCHLESS SOCIETY)
- จัดพนักงานบริการกดลิฟท์ทุกตัวให้กับลูกค้า และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ภายในลิฟท์ ทุก 10 นาที
- จัดพนักงานบริการเปิด – ปิดประตูศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า
- ส่งเสริมให้ลูกค้าใช้วิธีการชำระเงินแบบ TOUCHLESS PAYMENT
- จัดให้มีบริการ WORRY-FREE WAITING AREA ในห้างสรรพสินค้า
4.สุขอนามัยเชิงรุก (HYGIENIC CLEANING)
- ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม เช่น ปุ่มกดภายในลิฟท์ ราวบันไดเลื่อน ก๊อกน้ำ ลูกบิด กลอนประตู
ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 30 นาที
- ทำความสะอาดพื้นศูนย์การค้า ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 30 นาที พร้อมติดตั้งเครื่องฉีดพ่นอัตโนมัติเพื่อพ่นยาฆ่าเชื้อในห้องน้ำ ทุก 5 นาที
- ทำความสะอาดใหญ่ ด้วยการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ พื้นที่ขายและพื้นที่สำนักงานทุกสัปดาห์
- ทำความสะอาด ห้องลองสินค้า ห้องบริการ ห้องอุปกรณ์ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ก่อนและหลังให้บริการ
- ทำความสะอาด รถเข็นซูเปอร์มาร์เก็ต รถเข็นเด็ก รถเข็นคนพิการ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนให้บริการลูกค้า
- ทำความสะอาด โต๊ะ เก้าอี้ศูนย์อาหาร จุดแลกคูปอง FOOD COURT ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 30 นาที
- ทำความสะอาด บัตรศูนย์อาหาร บัตรจอดรถ รวมทั้งเมนูอาหาร ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนให้บริการลูกค้า
- เพิ่มมาตรการเข้มงวด ในการทำความสะอาดห้องบริการต่างๆ เป็นพิเศษ เช่น ห้อง PLATINUM ห้องแม่และเด็ก
- พนักงานที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดลูกค้า ต้องสวมหน้ากากอนามัย และ FACE SHIELD พร้อมทั้งติดตั้งGUARD SHIELD ในพื้นที่บริการทุกจุด เช่น จุดชำระเงิน เคาน์เตอร์บริการต่าง ๆ
- ติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ บริเวณจุดบริการต่างๆ อย่างทั่วถึง เช่น ประตูทางเข้า – ออก หน้าลิฟท์ จุดประชาสัมพันธ์ จุดชำระเงิน ทางเข้าห้องน้ำ ห้อง PLATINUM
- ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในพื้นที่จอดรถ DELIVERY ทุก 30 นาที
- จัดให้มีบริการอบฆ่าเชื้อสินค้าและถุงสินค้า ด้วยรังสี UV
- ทำความสะอาดฆ่าเชื้อสินค้าที่มีการลอง ด้วยรังสี UV
- จัดให้มีจุดแยกทิ้งหน้ากากอนามัย ภายในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า
- มีระบบถ่ายเทอากาศภายในอาคาร มากกว่า 10 เท่าต่อชั่วโมง (10 ACH) และทำการอบฆ่าเชื้อระบบปรับอากาศส่วนกลางเป็นประจำทุกคืน ด้วยรังสี UV
5.เฝ้าระวังติดตาม (COMPREHENSIVE INFORMATION TRACKING)
- หน่วยงานที่ดูแลพนักงาน พนักงานร้านค้า พนักงานคู่ค้า ต้องจัดทำประวัติข้อมูลสุขภาพของพนักงานทุกคนในสังกัด รวมถึงกรณีพนักงานที่ต้องถูกกักตัวก่อนเข้าปฏิบัติงาน
- ลูกค้า ผู้ใช้บริการ ผู้เช่า และพนักงาน ต้องได้รับการลงทะเบียนผ่าน APPLICATION ก่อนเข้าพื้นที่ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า เพื่อสามารถติดตามในกรณีที่มีความจำเป็น
- อบรมสร้างการตระหนักรับรู้และเน้นย้ำวิธีปฏิบัติกับพนักงาน เพื่อการดูแลรักษาสุขอนามัยและป้องกันตนเอง
และเพื่อความปลอดภัยแบบครอบคลุมทุกมิติ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้เพิ่ม 6 มาตรการเสริม 66 มาตรการย่อย สำหรับ 6 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ มาตรการสำหรับร้านค้าทุกประเภทและพนักงานทุกคนภายในศูนย์การค้า, มาตรการสำหรับร้านอาหาร, คลินิก, ร้านตัดผม, ร้านแฟชั่น , ร้านไลฟ์สไตล์ และธนาคาร เพื่อความมั่นใจของลูกค้าทุกท่านที่มาใช้บริการ
***********************************************************************
เดอะมอลล์กรุ๊ป
ปลอดภัย ใส่ใจสุขอนามัย 6 มาตรการเสริม 66 มาตรการ สำหรับ 5 กลุ่มธุรกิจ
1.มาตรการสำหรับร้านค้าทุกประเภท และพนักงานทุกคนภายในศูนย์การค้า
- พนักงานต้องแสดงใบรับรองแพทย์ ก่อนกลับมาปฏิบัติงาน กรณีเดินทางต่างจังหวัด สถานที่สุ่มเสี่ยง หรือใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ต้องกักตัวจนครบ 14 วัน จึงอนุญาตให้เข้าพื้นที่ศูนย์การค้าได้
- BIG CLEANING พ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
- ต้องวัดอุณหภูมิร่างกายวันละ 2 ครั้ง ก่อนเข้าพื้นที่ศูนย์การค้าและระหว่างวัน
- ต้องเตรียมเจลล้างมือ สำหรับบริการลูกค้าและพนักงานในร้านค้า
- พนักงานที่ปฏิบัติงาน ต้องสวมหน้ากากอนามัย, FACE SHIELD ตลอดเวลาและทำความสะอาดทุกวัน
- พนักงานที่ปฏิบัติงาน ต้องล้างมืออย่างสม่ำเสมอ ก่อนและหลังบริการลูกค้า
- ทำความสะอาดพื้นที่ให้บริการและจุดสัมผัสสาธารณะ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 1 ชั่วโมง
- จัดให้มีบริการ เปิด – ปิด ประตูร้านค้า เพื่อลดการสัมผัส
- เว้นระยะห่างของที่นั่งและการยืนต่อคิว อย่างน้อย 1 เมตร (PHYSICAL DISTANCING)
- ส่งเสริมให้ลูกค้าใช้วิธีการชำระเงินแบบ TOUCHLESS PAYMENT
- ส่งเสริมให้มีการจองคิวและเรียกรับบริการผ่าน APPLICATION (เลี่ยงการนั่งรอ)
- หากพนักงานมีไข้ ไอ จาม ให้หยุดปฏิบัติงานและพบแพทย์ทันที โดยให้แจ้งฝ่ายบริหารศูนย์การค้า เพื่อรับทราบข้อปฏิบัติที่ถูกต้อง
2.ร้านอาหาร
- จัดให้มีการใช้ระบบจองคิวล่วงหน้า (เลี่ยงการนั่งรอ)
- จัดเตรียมจุดวัดอุณหภูมิ, เจลล้างมือ สำหรับบริการลูกค้าและพนักงานในร้านค้า
- จำกัดจำนวนคนในร้าน โดยต้องจัดโต๊ะที่นั่งเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร
- จำกัดเวลาในการรับประทานอาหาร ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
- ติดตั้ง TABLE SHIELD ที่โต๊ะรับประทานอาหาร
- อาหารต้องปรุงสุกสะอาด เปลี่ยนช้อนสำหรับชิมทุกครั้ง และเข้มงวดในการจัดเก็บอาหาร และ อุปกรณ์ทำอาหารให้ถูกสุขอนามัย
- งดวางอุปกรณ์และชุดเครื่องปรุงทิ้งไว้บนโต๊ะ โดยจัดมีเครื่องปรุงชนิดซองแทนการใช้ร่วมกัน
- แยกหม้อต้ม เตาปิ้งย่าง และอุปกรณ์การรับประทาน 1 ชุด ต่อ 1 คน
- ร้านอาหารบุฟเฟต์ ต้องให้พนักงานเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะ งดการบริการตนเอง
- สำหรับอาหาร TAKE AWAY ต้องใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีฝาปิดมิดชิด ระบุชื่อร้าน สาขา วันที่ผลิต พร้อมชื่อพนักงานประกอบอาหารและจัดบรรจุภัณฑ์
- ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโต๊ะและที่นั่ง ก่อนและหลังให้บริการ
- ฆ่าเชื้อภาชนะต่าง ๆ ด้วยเครื่องรังสี UV และติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเพื่อฆ่าเชื้อโรค
3.คลินิก
- จัดให้มีการบันทึกข้อมูลผู้ใช้บริการ และใช้ระบบการจองคิวล่วงหน้า (เลี่ยงการนั่งรอ) เพื่อควบคุมปริมาณลูกค้าที่เข้ารับบริการ
- จัดให้มี ONLINE CONSULTATION หรือเหลื่อมเวลาการนัดหมาย
- วัดอุณหภูมิ สอบถามประวัติการเดินทางเพื่อประเมินความเสี่ยง ก่อนให้บริการ
- ให้บริการที่ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง
- อุปกรณ์ต้องฆ่าเชื้อด้วยเครื่องรังสี UV และทำความสะอาดพื้นผิวหลังสัมผัสด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ก่อนและหลังให้บริการทุกครั้ง
- พนักงานที่ปฏิบัติงาน ต้องสวมถุงมือยางขณะปฏิบัติหน้าที่ และทิ้งทันทีหลังให้บริการ โดยแยกทิ้งรวมขยะติดเชื้อและอุปกรณ์ที่ใช้แล้ว ในถังปิดมิดชิดและนำไปทิ้งทุกชั่วโมง
- งดการสนทนาขณะให้บริการ
- งดเว้นบริการนวด และหัตถการบางประเภท
- งดเว้นบริการที่ต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกัน ที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ เช่น อุปกรณ์แต่งหน้า
- ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ และอบโอโซนฆ่าเชื้อโรคภายในร้านทุกสัปดาห์
4.ร้านตัดผม
- จัดให้มีการบันทึกข้อมูลผู้ใช้บริการและใช้ระบบการจองคิวล่วงหน้า (เลี่ยงการนั่งรอ) เพื่อควบคุมปริมาณลูกค้าที่เข้ารับบริการ
- วัดอุณหภูมิ สอบถามประวัติการเดินทางเพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนให้บริการ
- ให้บริการที่ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง เช่น ตัด สระ ไดร์ เท่านั้น
- พนักงานที่ปฏิบัติงาน ต้องสวมถุงมือยางขณะปฏิบัติหน้าที่ และทิ้งทันทีหลังให้บริการ
- งดการสนทนาขณะให้บริการ
- จัดที่นั่งหรือเตียงสระ มีระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร (PHYSICAL DISTANCING)
- อุปกรณ์ต้องฆ่าเชื้อและบรรจุในซองปลอดเชื้อ ก่อนนำมาใช้งาน
- ต้องแยกทำความสะอาดผ้าคลุมตัดผมทันทีหลังใช้เสร็จ (ไม่ใช้ซ้ำ) พร้อมทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเตียงสระ อุปกรณ์ ก่อนและหลังให้บริการทุกครั้ง
- ต้องหยุดให้บริการเพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อ พื้นที่ให้บริการและจุดสัมผัสสาธารณะ ทุก 2 ชั่วโมง
- งดเว้นบริการที่ต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกัน ที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ เช่น อุปกรณ์แต่งหน้า
- ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ และอบโอโซนฆ่าเชื้อโรคภายในร้านทุกสัปดาห์
5.ร้านแฟชั่น
- จำกัดจำนวนคนในร้าน 1 คน ต่อ 2 ตารางเมตร
- จัดให้มีบริการถุงมือพลาสติกสำหรับลูกค้าเพื่อเลือกซื้อสินค้า
- ต้องทำสัญลักษณ์ กำหนดจุดเว้นระยะเลือกซื้อสินค้าชัดเจน
- เตรียมผ้าคลุมใบหน้าสำหรับการลองเสื้อผ้า และมีถุงเท้าสำหรับการลองรองเท้า และเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง
- จัดให้มี AR VISUAL APPLICATION เพื่อลดการลองสินค้า
- ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสินค้าที่มีการลองด้วยรังสี UV ทุกครั้งก่อนนำกลับไปที่ SHELF
- ทำความสะอาดห้องลอง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งหลังการใช้งาน หรือทุก 1 ชั่วโมง
- ติดตั้ง COUNTER SHIELD ณ จุดชำระเงิน
- ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ สินค้าและถุงสินค้า ด้วยรังสี UV
- ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ และอบโอโซนเพื่อฆ่าเชื้อโรคภายในร้านทุกสัปดาห์
6. ร้านไลฟ์สไตล์ และธนาคาร
- จำกัดจำนวนคนในร้าน 1 คน ต่อ 2 ตารางเมตร
- จัดให้มีผู้ช่วยเเนะนำและหาสินค้า (เพื่อความรวดเร็วและลดการสัมผัส)
- จัดให้มี AR VISUAL APPLICATION เพื่อลดการลองสินค้า
- จัดให้มีบริการถุงมือพลาสติกสำหรับลูกค้าเพื่อเลือกซื้อสินค้า
- ต้องทำสัญลักษณ์ กำหนดจุดเว้นระยะเลือกซื้อสินค้าชัดเจน
- ทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ สินค้าที่มีการลองหรือสัมผัสทุกครั้ง
- ติดตั้ง COUNTER SHIELD ณ จุดชำระเงิน
- ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสินค้าและถุงสินค้า ด้วยรังสี UV
- ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ และอบโอโซนเพื่อฆ่าเชื้อโรคภายในร้านทุกสัปดาห์
- สำหรับธนาคาร ต้องเพิ่มช่องให้บริการสำหรับผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ผู้พิการ หรือกลุ่มที่มีความเสี่ยงติดเชื้อง่าย
- สำหรับธนาคาร ต้องทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ปุ่มสัมผัสตู้ ATM ทุก 30 นาที