รัฐปลุกท่องเที่ยวไทยอัดฉีดงบ 22,400 ล้าน
ข่าวดีสำหรับภาคท่องเที่ยวไทย เมื่อรัฐบาลเดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กับเตือนไม่ให้การ์ดตก หลังการระบาดของโรคโควิด-19 ของไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ถือว่า ควบคุมได้ โดยล่าสุดที่ประชุมครม.อัดฉีดงบประมาณ 22,400 ล้านบาท เพื่อกระตุ้น “ไทยเที่ยวไทย” ผ่าน 3 โครงการ ให้พี่น้องชาวไทยได้มีความสุขหลังต้องหยุด อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติมานานกว่า 2 เดือน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.) เพื่อฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศภายใต้วงเงิน 22,400 ล้านบาท โดยใช้เงินเยียวยาเศรษฐกิจและสังคมวงเงิน 400,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องไปจัดทำรายละเอียดการใช้จ่ายอย่างโปร่งใสตามความประสงค์ของนายกรัฐมนตรี
ทั้ง 3 โครงการมีระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่เดือน กรกฎาคม-ตุลาคม 2563 รวมเวลา 4 เดือน ได้แก่
“โครงการกำลังใจ” รัฐสนับสนุนค่าเดินทางของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวม 1.2 ล้านคน ให้เดินทางท่องเที่ยวโดยใช้บริการบริษัทนำเที่ยว และรัฐจะสนับสนุนงบประมาณเดินทางไม่เกินคนละ 2,000 บาท สำหรับการเดินทางที่ไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืน วงเงิน 2,400 ล้านบาท
“โครงการเราไปเที่ยวกัน” รัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรมที่พักในลักษณะร่วมจ่าย (Co-pay) จำนวน 5 ล้านคน ในอัตรา 40% ของค่าห้องพักแต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน และสนับสนุนค่า อาหารและค่าใช้จ่ายสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งททท.จะแจ้งรายชื่อแก่ธนาคารกรุงไทยจำนวน 600 บาทต่อห้องต่อคืน โดยส่วนนี้ใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารและค่าสถานที่ท่องเที่ยว เป็นการเดินทางไปจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดในทะเบียนบ้านของประชาชนผู้จองที่พัก วงเงินรวม 18,000 ล้านบาท
“โครงการเที่ยวปันสุข” สนับสนุนการเดินทางของประชาชนไม่น้อยกว่า 2 ล้านคนโดยการ จำหน่ายบัตรโดยสารของผู้ประกอบการขนส่งด้านการท่องเที่ยว 3 กลุ่ม ได้แก่ สายการบินในประเทศ รถขนส่งไม่ประจำทางข้ามจังหวัด-รถเช่าในอัตรา 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาท โดยผู้ที่จองตั๋วเครื่องบินที่ลงทะเบียนโครงการเราไปเที่ยวกันจะได้สิทธิในการลดราคาตั๋วเครื่องบินในแพ็กเกจนี้ด้วย รวมวงเงินทั้งหมด 2,000 ล้านบาท
สำหรับวิธีลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ จะมีการยืนยันอีกครั้ง คาดว่า จะอยู่ในรูปแบบของเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน คล้ายกับโครงการ “ชิมช้อปใช้” หรือโครงการการท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่จัดขึ้นเมื่อปี 2562
ขอบคุณภาพประกอบจาก : www.thaigov.go.th