SME D Bank จับมือ มจธ.เสริมแกร่ง “เอสเอ็มอี-สตาร์ทอัพ” พลิกฟื้นธุรกิจก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 สู่การผลิตเชิงนวัตกรรม
ธพว. ผนึกกำลัง สำนักเคเอกซ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดโครงการ “SME-D Startup to Innovation ติดปีก SMEs & Startup สู่การพัฒนาธุรกิจเชิงนวัตกรรม” Inline image ปี 3 ช่วยพลิกฟื้นธุรกิจ หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย เปิดโอกาสพิเศษ! เฉพาะลูกค้าธนาคารสมัครเข้าร่วมโครงการยกระดับนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเสริมศักยภาพฟรี
นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เริ่มคลี่คลายและมีสัญญาณที่ดีขึ้นโดยลำดับ ดังนั้น ธพว.ในฐานะธนาคารหลักของรัฐ เพื่อการพัฒนา SMEsไทย ให้เติบโตและยั่งยืน พร้อมพัฒนาลูกค้าธนาคาร ทั้งกลุ่มเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันทางธุรกิจ ผ่านความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี(มจธ.) โดยสำนักเคเอกซ์ ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม จัดโครงการ“SME-D Startup to Innovation ติดปีก SMEs & Startup สู่การพัฒนาธุรกิจเชิงนวัตกรรม” เพื่อยกระดับลูกค้าธนาคารที่เข้าร่วมโครงการนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปต่อยอดธุรกิจ เพื่อร่วมกันสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
สำหรับโครงการนี้จัดต่อเนื่อง เป็นปีที่ 3 นับจากปี 2561 ภายใต้แนวคิดยกระดับธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตของผู้ประกอบการมุ่งไปสู่ระบบการผลิต4.0 เพื่อสร้างโอกาสการแข่งขันและสร้างความยั่งยืนต่อการดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพสูงสุด สะท้อนจากผลสำเร็จของการจัดโครงการ เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา สามารถสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการกว่า 40 ธุรกิจ ส่งผลให้เกิดการเพิ่มผลผลิตโดยรวม 79.41 ล้านบาท เกิดยอดขายเพิ่มขึ้น 70.08 ล้านบาท และต้นทุนการผลิตลดลง 2.93 ล้านบาท ตัวอย่างแห่งความสำเร็จ เช่น บจก.บิ๊กเบนซ์ เฮลธ์ โปรดักส์ ผู้รับผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้งให้บริการด้าน OEM ครบวงจร สามารถแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรได้จนสำเร็จ และช่วยให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 1 ล้านบาท
“การร่วมมือของ 2 หน่วยงานกันครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการตลอดเส้นทางธุรกิจเพิ่มศักยภาพเติบโตอย่างเข้มแข็ง เป็นไปตามแนวคิด “เติมความรู้คู่ทุน” ที่นอกจากจะสนับสนุนเงินทุนแล้ว ยังมีกระบวนการเติมความรู้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีและนวัตกรรมมีบทบาทต่อการประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพต้องเร่งปรับตัว เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว” นางสาวนารถนารี กล่าว
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการ SMEs และ Startup ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการอบรบ และถ่ายทอดความรู้จากที่ปรึกษาเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตลอดระยะเวลา 4 เดือนเต็ม (เดือนก.ค.-ต.ค.2563) ผ่านหลักสูตรเข้มข้นครบทุกขั้นตอน ทั้งการพัฒนาศักยภาพหรือความสามารถในการผลิต (Productivity Improvement), การเรียนรู้อุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างสู่โลกอินเทอร์เน็ต (Internet of Things) เพื่อต่อยอดความคิดการพัฒนาธุรกิจ พร้อมการลงมือทำอย่างจริงจัง ผ่านการประชุมเชิงปฏิบัติการ (workshop) และกิจกรรมรับฟังการวิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้น (Site Visit) จากที่ปรึกษาเทคโนโลยีร่วมกับผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ ซึ่งจะประเมินศักยภาพธุรกิจและความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีเพื่อรับทราบสภาพปัจจุบันของธุรกิจ รวมถึง ลงพื้นที่ให้คำปรึกษาแนะนำปัญหา ณ สถานประกอบการ เพื่อให้ลูกค้าและผู้ประกอบการนำคำแนะนำไปปรับปรุงธุรกิจได้ตรงจุดและสร้างProductivity เชิงธุรกิจต่อไป
ทั้งนี้ เปิดรับสมัครพิเศษสำหรับลูกค้า SME D Bank เท่านั้น ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสมัครเข้าอบรม พัฒนาและต่อยอดธุรกิจตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2563 โดยลงทะเบียนได้ที่ http://bit.ly/2TGE3Jn ผู้ที่ลงทะเบียนแล้วจะได้รับการสัมภาษณ์ เพื่อคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย รับจำนวนจำกัดเพียง 40 กิจการเท่านั้น
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการ โทร.02-265-0497