ทีเอ็มบี-ธนชาต ส่ง “บริการประกันธุรกิจ” ลดเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกันองค์กรธุรกิจ รับมือทุกสถานการณ์
ทีเอ็มบีและธนชาต ผสานจุดแข็ง ส่ง “บริการประกันธุรกิจ” ที่จำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงให้กับลูกค้าธุรกิจ ได้แก่ บริการการบริหารกรมธรรม์รถ บริการให้คำปรึกษาเพื่อการบริหารต้นทุน และบริการประกันภัยลูกหนี้การค้า ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับธุรกิจพร้อมรับทุกสถานการณ์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการสร้างโซลูชันใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนลูกค้าธุรกิจให้มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นและเติบโตอย่างยั่งยืน
นายพีรพงศ์ นิธิไกรวุฒิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อธุรกิจ ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจมีความผันผวน องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องมีเครื่องมือในการเตรียมความพร้อมรองรับกับทุกสถานการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงและให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ และจากการรวมกิจการของทีเอ็มบีและธนชาต ทำให้เรานำจุดแข็งของทั้ง 2 ธนาคารมาเสริมกันเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินต่าง ๆ ที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้ลูกค้าธุรกิจ โดยครั้งนี้ได้นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของบริษัท ธนชาตโบรกเกอร์ มาร่วมสร้างสรรค์นำเสนอบริการประกันธุรกิจหลายรูปแบบที่มีความจำเป็น ซึ่งได้แก่
1.บริการด้านการบริหารกรมธรรม์รถสำหรับลูกค้าธุรกิจ (Motor Fleet Insurance)
องค์กรธุรกิจทั่วไปย่อมมีการใช้งานรถหลากหลายประเภท เช่น รถขนส่งสินค้า รถยนต์ทั่วไป รวมถึงรถมอเตอร์ไซค์ และมักประสบกับความยุ่งยากในการจัดการงานประกันภัยที่มีหลากหลายประเภท ซึ่งเกิดจากการซื้อที่ไม่พร้อมกันและจากบริษัทประกันหลายแห่ง ทำให้เกิดความยุ่งยากไม่ว่าจะเป็นเรื่องความคุ้มครอง การจ่ายค่าเบี้ยประกัน การบริหารกรมธรรม์ ฯลฯ ทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
ในฐานะที่เป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารธนชาต เราจึงมีความเข้าใจในปัญหาและรู้ว่าลูกค้าธุรกิจต้องการอะไร ซึ่งเรื่องต้นทุนและความสะดวกน่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ ทีเอ็มบีและธนชาตจึงพัฒนาบริการบริหารกรมธรรม์รถแบบกลุ่มให้กับลูกค้าธุรกิจที่ต้องใช้รถหลายประเภท ซึ่งทำได้มากกว่าแค่การซื้อประกันภัยรถในราคาพิเศษ แต่ให้การดูแลบริการด้านการบริหารกรมธรรม์รถแบบกลุ่มแก่ลูกค้าธุรกิจ ซึ่งบริการนี้องค์กรสามารถเลือกชำระค่าเบี้ยประกันเป็นรายเดือน หรือรายไตรมาส รวมทั้งบริการรายงานสรุปกรมธรรม์ที่จะครบกำหนดพร้อมระบุการต่ออายุประกันภัย และเบี้ยประกันภัยที่ต้องชำระ ทำให้ธุรกิจมีความสะดวก ประหยัดเวลา และลดต้นทุน เพิ่มความคล่องตัวในการวางแผนและบริหารจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.บริการประกันภัยลูกหนี้การค้า (Trade Credit Insurance)
จากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ทำให้ความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับเงินจากคู่ค้ามีความเป็นไปได้สูง ด้วยบริการประกันภัยลูกหนี้การค้า จะช่วยคุ้มกันความเสี่ยงให้องค์กรธุรกิจในกรณีลูกหนี้ไม่ชำระค่าสินค้าตามกำหนด หรือลูกหนี้ล้มละลาย โดยสามารถวิเคราะห์เครดิตลูกหนี้ รวมไปถึงบริการติดตามหนี้โดยมืออาชีพ ช่วยให้องค์กรธุรกิจประหยัดเวลาและต้นทุนในการติดตามหนี้ เพิ่มศักยภาพเพื่อขยายธุรกิจได้เต็มกำลัง
3. บริการให้คำปรึกษาเพื่อการบริหารความเสี่ยงทรัพย์สิน (Risk Advisory)
ปัญหาที่ลูกค้าธุรกิจมักประสบอีกเรื่องก็คือ เมื่อเกิดเหตุขึ้นจริงกลับพบว่าประกันภัยที่มีไม่ครอบคลุมทรัพย์สิน หรือไม่สามารถเคลมความเสียหายได้ ธนาคารจึงมีบริการให้คำปรึกษาจากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญจากบริษัท ธนชาตโบรกเกอร์ ในการให้คำปรึกษาเรื่องการทำประกัน เพื่อการบริหารต้นทุนและความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับจัดทำข้อเสนอประกันภัยที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าธุรกิจ โดยจะมีวิศวกรความเสี่ยงภัยซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางให้คำแนะนำเงื่อนไขความคุ้มครอง เพื่อป้องกันปัญหาก่อนเกิดเหตุและเมื่อเกิดเหตุ อีกทั้งยังมีบริการที่ปรึกษาด้านสินไหมทดแทน เข้ามาดูแลประสานงานกับบริษัทประกัน พร้อมการวิเคราะห์และเจรจา เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้แก่ลูกค้าองค์กรอีกด้วย
“ทีเอ็มบีและธนชาต มั่นใจว่า บริการประกันธุรกิจดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดความเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกค้าธุรกิจได้โดยไม่ต้องรอให้เกิดวิกฤต สะท้อนความมุ่งมั่นในการยกระดับความเป็นผู้นำของทีเอ็มบีและธนชาตในการผนึกกำลังเพื่อนำจุดแข็งของ 2 ธนาคารมารวมกัน เพื่อสร้างโซลูชันใหม่ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าธุรกิจของเรา เพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ พร้อมรับกับทุกสถานการณ์ สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นต่อไป” นายพีรพงศ์ กล่าวสรุป