รมว. พิพัฒน์ ดันท่องเที่ยวโดยชุมชนขึ้นแท่น Unseen ดึงคนไทย-เอ็กซ์แพทเที่ยวในประเทศ
“พิพัฒน์” ดันการท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นอันซีนไทยแลนด์เปิดแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวใหม่เสิร์ฟตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศ มั่นใจช่วยกระจายรายได้ลงสู่ชุมชนตอบโจทย์นโยบายรัฐบาล ประเดิมชวนคนไทยและเอ็กซ์แพทสัมผัสท่องเที่ยวเส้นทางแรก “คุ้งบางกระเจ้า” เล็งหารือบริษัทนำเที่ยวร่วมศึกษาจัดทำเส้นทาง ด้าน อพท.พร้อมรับนโยบาย ชู 80 แหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนศักยภาพรับการท่องเที่ยวทั่วประเทศ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับคณะทูต นักท่องเที่ยวกลุ่มเอ็กซ์แพท (Expat) และคณะสื่อมวลชน ที่เข้าร่วมกิจกรรม “เยี่ยมชมการท่องเที่ยวโดยชุมชนยั่งยืนพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า” อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจัดโดยองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกรมการท่องเที่ยวกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนและกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า ให้คณะทูตและเอ็กซ์แพท ได้สัมผัสประสบการณ์และกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน นำร่องเส้นทางท่องเที่ยวโดยชุมชนใน 6 เส้นทางของคุ้งบางกะเจ้าซึ่งมีความพร้อมตามมาตรฐานการท่องเที่ยว เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีชีวิตและธรรมชาติที่อยู่ติดกับพื้นที่กรุงเทพฯ และยังได้รับมาตรฐาน SHA
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวอีกว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน ถือเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกระจายรายได้ลงสู่ชุมชน และในมุมของการท่องเที่ยวนั้น แหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ถือเป็น Unseen ที่ควรส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้นักท่องเที่ยวได้เดินทาง เพราะประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนที่น่าสนใจมากมาย
“ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้เราต้องส่งเสริมคนไทยท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้ ชาวต่างชาติที่ทำงานและพำนักในประเทศไทยซึ่งมีถึง 2 ล้านคนทั่วประเทศ คนกลุ่มนี้เขาก็ปลอดเชื้อโควิด-19 เช่นเดียวกับคนไทย เพราะไม่ได้เดินทางไปไหน จึงเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งที่กระทรวงต้องการส่งเสริมให้ออกมาเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ เราจึงต้องมองหาสถานที่หรือแหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่น่าสนใจนำเสนอให้เขาได้รู้จัก”
โดยนอกจากทริปเส้นทางบางกะเจ้าในครั้งนี้ ยังเตรียมมองหาชุมชนอื่นๆ ที่จะนำคณะทูตและกลุ่มเอ็กซ์แพท ได้ทดลองไปเที่ยวอีก และเร็วๆนี้จะจัดกิจกรรมรูปแบบเดียวกันนี้ในเส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นการเดินทางไปโดยรถยนต์ และล่องเรือกลับมากรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม ยังได้หารือกับบริษัทนำเที่ยว เตรียมจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวภายในประเทศ นำเสนอขายให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มเอ็กซ์แพท และกลุ่มคนไทย แต่ต้องเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชน ที่ชุมชนต้องได้รับประโยชน์ เช่น เส้นทางท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว โดยมีกิจกรรมตีกอล์ฟให้กับกลุ่มพ่อบ้าน ส่วนกิจกรรมของกลุ่มแม่บ้านก็จัดให้เที่ยวชุมชนใกล้ๆ สนามกอล์ฟ เพื่อไปทำกิจกรรมท่องเที่ยวและเลือกซื้อสินค้าของชุมชน เพื่อให้ภาพรวมรายได้ของตลาด การท่องเที่ยวภายในประเทศรวมตลอดปีนี้แตะที่ 1.23 ล้านล้านบาท
ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รักษาการผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า ปัจจุบันชุมชนที่อพท. พัฒนาขึ้นตามหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวโดยชุมชน และตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก มีกว่า 80 ชุมชน ทั่วประเทศ ที่พร้อมส่งมอบให้ ททท. และบริษัทนำเที่ยว นำไปจัดทำเป็นเส้นทางเสนอขายต่อนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ล่าสุด อพท. ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และอีก 6 สมาคมด้านการท่องเที่ยว สำรวจ 40 ชุมชนจากจำนวนทั้งหมด 80 ชุมชนที่พร้อมขาย เพื่อนำมาจัดทำเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อขยายผลทางการตลาดต่อไป โดยคาดว่าจะได้เส้นทางการท่องเที่ยวโดยชุมชนจากโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 20 เส้นทางพร้อมเสนอขายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศทั้งกลุ่มคนไทย และเอ็กซ์แพท
นายซันจีฟ เชาเดอรีย์ ทูตพาณิชย์ประเทศแคนาดาประจำประเทศไทย ซึ่งได้ร่วมท่องเที่ยวเส้นทางคุ้งบางกะเจ้าในครั้งนี้ กล่าวว่า รู้สึกชื่นชอบและประทับใจในทุกกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ได้เข้ามาสัมผัสในครั้งนี้ โดยเฉพาะกิจกรรมปั่นจักรยานรอบคุ้งบางกะเจ้า เพราะไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีกิจกรรมแบบนี้อยู่ในพื้นที่นี้ และชื่นชอบอาหารและเครื่องดื่มที่ชุมชนนำมาเลี้ยงต้อนรับ ซึ่งแน่นอนว่ากลับจากทริปครั้งนี้จะไปชวนเพื่อนชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศและมาเที่ยวที่คุ้งบางกะเจ้าอีกแน่นอน และจะพาครอบครัวมาเที่ยวด้วย ส่วนสิ่งที่ต้องการแนะนำคือ ต้องการให้มีไกด์ท้องถิ่นสำหรับ นำเที่ยว โดยการเดินทางควรเป็นกลุ่มขนาดเล็ก เพราะดูแลง่ายและทั่วถึง