เรื่องจริงต้องรู้…/ช. พิทักษ์ .. ไทยควรเปลี่ยนอย่างไรหลังโควิด-19
หยุดเขียนสัปดาห์ที่แล้ว เพราะต้องทำงานหนักตอบข้อสงสัยจากผูัที่อยากรู้สหรัฐอเมริกาจะเป็นอย่างไรหลังวิกฤตโควิด-19 ก็บอกทุกคนให้ลืมประเทศนี้ไปเลย เพราะไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีต้นเดือนหน้า
โจ ไบเดน หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯก็คงจะดิ่งลงมหาสมุทรลึก เพราะทัศนะคนอเมริกันเปลี่ยน ๆ เหมือนคนเยอรมันและคนญี่ปุ่นสมัยก่อนสงครามโลกครั้งทื่ 2 คือ ถูกกระแสอนุรักษ์นิยมครอบงำ จนบานปลายเป็นกระแสรักชาติและคลั่งชาติ
คลั่งแล้วลุกขึ้นจับอาวุธทำสงครามเพื่อโชว์ความยิ่งใหญ่ ซึ่งสหรัฐฯเดิมจะทำในรูปแบบจับอาวุธ แต่ขณะนี้กำลังใช้การค้า ซึ่งถ้าใช้การค้าในการรบบอกได้เลยประเทศนี้จะต้องวิบัติ ทำไมหรือหลายคนคงถาม
คำตอบคือ เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่กับการค้า ทั้งส่งออกและนำเข้า อะไรที่กระเทือนการค้าเศรษฐกิจจะถูกกระทบ ตัวอย่างที่กำลังเห็นก็คือ การห้ามนำเข้ารถหรูที่โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ
(https://thesource.com/2018/05/31/president-trump-to-impose-total-ban-on-german-luxury-cars/)
แต่กลับเป็นว่ารถหรูที่จำหน่ายในสหรัฐฯล้วนมีชิ้นส่วนผลิตในประเทศ ยิ่งกว่านั้นการประกอบยังทำในประเทศ และทั้งผลิตและประกอบมีการจ้างแรงงานหลายหมื่น ทุกคนเป็นแรงงานมีทักษะดังนั้นจึงมีรายได้สูงกว่าเกณฑ์
โอ ๆ แล้วอย่างนี้สหรัฐจะทำอย่างไร แต่ที่จะตอกย้ำความพินาศก็คือ การระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งระบาดรุนแรงจนสหรัฐฯเป็นประเทศที่มียอดผูู้ป่วยสูงสุด มิหนำซ้ำถึงขณะนี้ยังไม่มีวี่แววการระบาดจะยุติ
เพราะล่าสุดมีหลายพื้นที่ ๆ ไม่เคยเจอการระบาดกลับมีการระบาด และคงจะเป็นเช่นนี้อีกมาก เมื่อเป็นเช่นนี้จึงตรงคำทำนายโควิด19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นของสหรัฐฯ ทำนองเดียวกับโรคมาลาเรียโรคเท้าช้างในประเทศยากจนสมัยที่ผ่านมา
เป็นโรคประจำถิ่นจนไม่มีคนนอกอยากเข้า อีกทั้งยังคนในยังอยากออก เห็น ๆ โอกาสประเทศไทยหรือยัง ทำไมเราไม่เตรียมรับคนอเมริกันความประพฤติดีมีฐานะให้อพยพเข้ามาพำนักในประเทศแบบถาวร
(https://www.cavalierassociates.com/2016/08/15/wealthy-families-losing-it-all-in-3-generations/)
เข้ามาเลยและให้อยู่ราวกับเป็นพลเมืองคนหนึ่ง เสนอแบบนี้คงมีคนค้านเพราะมองว่า พวกนี้จะเข้ามาแย่งที่พัก แย่งอาชีพ และแย่งความอยู่ดีกินดี ค้านทั้ง ๆ ที่น่าจะรู้ไทยมีคนต่างชาติแอบเข้ามาอาศัยมากมาย ทั้งหัวแดงหัวดำ
และไทยเองก็เคยมีประวัติรับคนจีนลี้ภัยเข้ามาในประเทศ รับอย่างอ้าแขนและให้ทั้งที่อยู่ที่ทำกิน จนคนจีนสามารถปรับตัวเข้ากับคนไทย มีความใกล้ชิดสนิทสนม จนกลายเป็นพลังสร้างไทยให้มั่นคงถาวรเช่นทุกวันนี้
ควรรับคนอเมริกันประพฤติดีมีฐานะให้เข้ามาตั้งรกราก ทั้งนี้คนอเมริกันระดับนี้มีธรรมเนียมอยู่แล้วที่จะย้ายที่อยู่ หากอยู่ที่เดิมไม่มีความสุข ตัวอย่างคือ คนวัยเกษียณที่มักขายบ้านเพื่อย้ายไปอยู่พื้นที่ ๆ เหมาะสำหรับคนสูงวัย
คือมีทั้งคนวัยเดียวกันอาศัย สนามกอล์ฟสนามเทนนิสสโมสรพักผ่อนและออกกำลัง โดยไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่หรูหราโอ่อ่ากว่าหลังเดิม ส่วนถ้าไม่ซื้อบ้านใหม่ก็ซื้อรถบ้าน หรือ mobile home เพื่อขับไปยังสถานที่ ๆ อยากไป
ไปแล้วจะนำรถไปจอดใน mobile home park ลานพักรถบ้าน
จอดจนพอใจจึงขับรถออก แล้วตระเวณ ๆ ถึงสถานทื่ ๆ อยากไปอีกแห่ง จากนั้นทำแบบเดียวกัน
(https://hardmoola.com/ab-519/)
เพราะมีธรรมเนียมเช่นนี้ไทยจึงควรใช้ภัยโรคระบาดที่คนอเมริกันกำลังเผชิญรับคนอเมริกันมีฐานะมีระดับให้เข้ามาพำนัก ซึ่งอาจรวมทั้งคนยุโรปก็ได้ ส่วนคนญี่ปุ่นไม่ต้องห่วงมากันแล้ว
ขณะที่คนจีนไม่ต้องพูดถึง ถ้ายังปล่อยให้เข้ามาแบบสะเปะสะปะมีการประเมินแล้วว่า อีกต่อไปพื้นที่ดี ๆ ทรัพย์สินดี ๆ ที่ไทยมีจะตกเป็นของคนจีน
ทั้งนี้ในการรับคนอพยพจากสหรัฐฯและประเทศอื่นไทยควรดูแคนาดาเป็นตัวอย่าง ประเทศนี้ใหญ่แต่พลเมืองน้อย ดังนั้นที่ผ่านมาจึงเปิดประเทศรับผู้อพยพ โดยในการรับมีวิธีคัดกรองที่ทรงประสิทธิภาพ
(https://iamamigrant.org/blog/filipinos-preparing-life-canada)
อย่าไปโกหกทรัพย์สินที่มีจริง และได้มาโดยสุจริต ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ เพราะถึงอย่างไรก็จะถูกจับได้
และนอกจากเปิดประเทศรับผู้อพยพมีหน้ามีตามีฐานะดี ไทยควรสร้าง marina ท่าเทียบเรือสำราญ เพื่อรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก อย่างที่ทราบกันคนตะวันตกกระเป๋าหนักต่างนิยมมีเรือยอทช์
และชักใบนำเรือตระเวณไปพักผ่อนยังสถานที่ ๆ มีท่าเทียบสุดหรูและอลังการ ไทยมีพื้นที่ชายฝั่งหลายพันกิโลเมตร อีกทั้งหลายพื้นที่ยังเจริญ ซึ่งถ้ามีการจัดการให้เป็นพื้นที่พิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวระดับมหาเศรษฐี
ที่เดินทางมาด้วยเรือยอทช์ หรือเครื่องบินเจ๊ตส่วนตัว ไทยจะได้เมืองท่องเที่ยวระดับโลกหลายเมือง การสร้างมารีน่าควรทำ เพราะไทยพร้อม ขาดแต่คนในพื้นที่ ๆ ยังไม่พร้อมต้อนรับและรับรองคนมีระดับเหล่านี้
ซึ่งส่วนมากเป็นคนชั้นสูงมีรากเหง้าหลายช่วงอายุ ควรเตรียมคนในพื้นที่ให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นคนทำสะอาด ไปจนถึงคนขับรถ และคนครัว คนงานเหล่านี้ต้องเข้าใจคนที่จะรับใช้ไม่ใช่ฝรั่งธรรมดา
แต่เป็นฝรั่งชั้นสูง ซึ่งมีชีวิตความเป็นอยู่และธรรมเนียมที่มีความเฉพาะ จะต้องเข้าใจ ไม่เช่นนั้นโครงการที่ลงทุนด้วยเงินหลายพ้นล้านอาจล้มครืน
สุดท้ายที่อยากให้ไทยทำหลังวิกฤตโรคร้ายก็คือ การเปิดลานกัญชา หรือ ganja plaza เรียกกัญชาไปเลย อย่าเรียก marijuana มาริวานน่า หรือ cannabis แคนนายบิส เรียกกัญชาเพราะกำลังเป็นคำสากล และชูชื่อเสียงไทยให้เด่น
ต้องเข้าใจชาวต่างชาติทุกคนที่ผมไม่ดำล้วนเคยสูบกัญชา โดยสูบสมัยวัยรุ่น สูบเป็นประจำและอย่างสนุก สูบไม่ว่าผู้ชายผู้หญิง และหลายคนยังคงสูบหลังพ้นวัยรุ่น ซึ่งคนเหล่านี้เมื่อมาไทยสิ่งแรกที่มักถามก็คือ ที่ไหนมีกัญชาขาย
(https://dailyhive.com/mapped/travel-smoke-weed-2018)
ทั้งนี้ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขกำลังหาทางนำกัญชามาทำประโยชน์ แน่นอนสำเร็จเมื่อไหร่เงินจะไหลเข้าประเทศมโหฬาร แต่ขณะที่รออยากแนะให้กระทรวงใช้ประโยชน์โรงพยาบาลต่างจังหวัด
ซึ่งหลายแห่งมีพื้นที่ด้านหลังเป็นสวนสมุนไพร ปลูกสมุนไพรเพื่อนำไปทำยา อีกทั้งยังมีการว่าจ้างคนงานที่เป็นคนสูงวัยในท้องถิ่น ดังนั้นจึงช่วยแก้ปัญหาคนชราไร้ที่พึ่ง
(http://domino-or-photo.blogspot.com/2013/11/blog-post_1932.html)
เพราะมีพื้นที่อยู่แล้ว และพื้นที่มีขนาดพอให้ทำทั้งการปลูก และการต้อนรับนักนิยมกัญชา จึงอยากให้กระทรวงพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็นลานกัญชา หรีอชื่อเรียกภาษาอังกฤษ ganja plaza เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว
ที่อยากเสพย์กัญชาและรำลึกสมัยวัยรุ่น ทำเป็นลานเล็ก ๆ รายล้อมด้วยเรื่องราวกัญชา เช่นห้องแสดงภาพคนดังสูบกัญชา ทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ นักร้อง นักแสดง ฯลฯ แต่ระวังอย่าให้ลานเป็นสถานที่ดื่มเบียร์และสุรา
ให้คนที่เข้าไป ๆ เพื่อสูบกัญชาเท่านั้น รับรองถ้าทำลานให้เป็นสถานที่สูบกัญชาพักผ่อน ลานจะดังไปทั่วโลกจนดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาไทยอีกมาก และแน่นอนพวกนี้ต้องเป็นนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักมีคุณภาพ
อย่างที่วงการท่องเที่ยวไทยกำลังรณรงค์ให้เข้ามา
…
