เรื่องจริงต้องรู้…/ช. พิทักษ์ .. “ทรัมป์” อาละวาดหลังไม่ได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัย
ยังอยู่กับการเมืองสหรัฐฯ เพราะยังมีเหตุการณ์ใหญ่อีกหลายเหตุการณ์หลังเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุด หนึ่งในนั้นคือ การอาละวาดของโดนัลด์ ทรัมป์ หลังพลาดไม่ได้เป็นผู้นำประเทศอีกสมัย
(https://www.bostonglobe.com/2020/05/08/opinion/congratulations-president-trump-youre-worst/)
การพลาดมักไม่เกิด ปกติเมื่อได้เป็นประธานาธิบดีสมัยแรกก็จะต้องได้เป็นสมัยที่สอง ย้อนดูสถิติผู้ที่ไม่ได้เป็นสมัยที่สองมีทั้งหมด 13 คน ๆ แรกย้อนไปปลายศตวรรษที่ 18 หลังก่อตั้งประเทศสหรัฐฯไม่นาน
คนสุดท้ายคือ จอร์จ ดับเบิลยู. บุชที่พ่ายบิล คลินตันปี 1992 ยัง ๆ ทรัมป์ยังไม่ได้เป็นคนล่าสุด เพียงแต่กำลังจะเป็น และนี่คือการอาละวาดของผู้นำคนนี้ การไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
อีกทั้งยังกล่าวหามีการทุจริต คำถามคือ ในเมื่อตัวเองเป็นถึงประธานาธิบดีคุมหน่วยงานลับหลายหน่วย ทำไมถึงไม่รู้การเลือกตั้งจะมีการตุกติก ยิ่งถ้าดูทีมงานหาเสียงที่ประกอบด้วยคนจำนวนไม่น้อย
(https://www.nationalbusinessmirror.com/facing-electoral-headwindsdonald-trump-brings-back-his-2016-team/)
แต่ละคนล้วนฝีมือเยี่ยม พวกนี้ไม่รู้เชียวหรือโจ ไบเดนมีแผนร้าย แผนที่จะโกงการลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดี โดยทำผ่านเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งตามพื้นที่ ๆ ทำสะดวกและได้ผล
ก่อนอื่นคงต้องรายงานผลการเลือกตั้งที่ประกาศเมื่อวันอังคาร หลังใช้เวลานับหลายวัน ผลคือ ไบเดนได้ 79,510,915 คะแนน หรือร้อยละ 51 ของคะแนนบัตรเลือกตั้งทั้งหมด
(https://www.voanews.com/2020-usa-votes/bidens-election-lead-grows-trump-disputes-results )
ส่วนคะแนนคณะเลือกตั้งคือ 290 คะแนน มากกว่า 270 คะแนนที่ผู้จะได้เป็นประธานาธิบดีจะต้องได้ ขณะที่ทรัมป์ได้คะแนนบัตร 73,599,393 หรือร้อยละ 47.2 ส่วนคะแนนเลือกตั้งได้ 232 คะแนน
ดูคะแนนเสียงแล้วใกล้เคียง โดยใน 12 มลรัฐคะแนนยังสูสี เริ่มจากจอร์เจีย เทกซัส นอร์ท แคโรไลนา เนวาดา เพนซิลเวเนีย ฟลอริดา มิชิแกน นิวแฮมเชียร์ วิสคอนซิน แอริโซนา โอไฮโอ
และไอโอวา ในจำนวนนี้สูสีที่สุดคือ แอริโซนาที่ไบเดนได้ 1,672,143 คะแนน หรือร้อยละ 49.4 ขณะที่ทรัมป์ได้ 1,661,686 หรือร้อยละ 49.1 ทั้งนี้ทั้งนั้นนี่เป็นคะแนนที่ยังไม่เป็นทางการ
(https://www.businessinsider.com/arizona-presidential-election-2020-live-vote-counts-results-2020)
ยังจะต้องมีการนับแล้วนับอีก ตรวจแล้วตรวจอีก เพื่อไม่ให้มีการท้วงติง หรือถูกผู้สมัครอย่างทรัมป์ขู่จะเอาเรื่อง อย่างที่กำลังทำขณะนี้
ก่อนหน้าทรัมป์และผู้สนับสนุนได้อ้างการโกงเลือกตั้งหลายพื้นที่ แต่ทันทีที่อ้างก็มีการลงไปตรวจสอบทุกพื้นที่ แต่ไม่พบ เรื่องนี้ต้องยกย่องนิวยอร์ก ไทมส์ สื่อทรงอิทธิพลของสหรัฐฯและโลก
ซึ่งพอได้ข่าวจะโทรศัพท์ไปยังเจ้าหน้าที่สูงสุดในพื้นที่นั้น เพื่อขอคำยืนยัน นิวยอร์ก ไทมส์ยืนยันไม่มีการโกงทั้ง ๆ ที่เป็นการเลือกตั้งระหว่างการระบาดโรคโควิด-19
(https://www.nytimes.com/2020/11/10/us/politics/voting-fraud.html)
มีผู้ไปลงบัตรมากเป็นประวัติการณ์ เพราะถือโอกาสใช้การลงคะแนนทางไปรษณีย์ ซึ่งเป็นครั้งแรก การลงคะแนนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกแทรกแซงเพื่อหวังผลในทางมิชอบ
และเพราะขาวสะอาดเช่นนี้ Cybersecurity and Infrastructure Security Agency หรือสำนักงานความมั่นคงทางไซเบอร์และโครงสร้าง
จึงออกคำแถลงเรียกการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 “the most secure in American history” “มั่นคงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ”
(https://www.theguardian.com/us-news/2020/nov/13/us-election-most-secure-history-voter-fraud-
false-claims)
หมายถึงปลอดจากการกระทำมิดีมิร้ายอย่างสิ้นเชิง โดยมองการเลือกตั้งมีความสำคัญเหมือนประเทศ ดังนั้นจึงต้องปกป้องรักษาไม่ให้มีใครก้าวล่วง ชมขนาดนี้เกิดอะไรขึ้นคงทราบแล้ว
ทรัมป์โกรธมาก เพราะเท่ากับไปชี้เขาโกหกที่กล่าวหาการเลือกตั้งไม่สุจริต โดยโกรธชนิดไม่ธรรมดา แต่สุดเลว เพราะเขาสั่งปลด Chris Krebs ผู้อำนวยการสำนักงาน ให้พ้นจากตำแหน่งทันที
(https://www.nytimes.com/2020/11/17/us/politics/trump-fires-christopher-krebs.html)
ทั้ง ๆ เขาเองเป็นคนแต่งตั้งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และที่ผ่านมาเครบส์ได้รับการยกย่องจากทุกฝ่ายด้านความสามารถและความเอาใจใส่ ถือกันว่าตำแหน่งนี้สำคัญในการดูแลการเลือกตั้งประธานาธิบดี
เพราะหลังการเลือกตั้งปี 2016 มีพูดถึงการแทรกแซงของรัสเซียทางไซเบอร์เพื่อไม่ให้ฮิลลารี คลินตันชนะ แต่เอาละปลดไปแล้ว ปลดทั้ง ๆ ที่ทรัมป์อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ไม่สมควรทำอะไรที่สำคัญ
ควรรอ ๆ จนพ้นการเปลี่ยนผ่าน จากนั้นดำเนินการสอบสวน จนได้ความกระจ่างจึงดำเนินการ เห็นหรือยังเรื่องเล็ก ๆ ขนาดนี้ทรัมป์ยังไม่รู้ เอาละ ทรัมป์รู้ แต่ยังทำ
ตอนนี้คนกำลังดูอะไรจะเกิดกับทรัมป์ ซึ่งไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง และไม่ยอมย้ายออกจากทำเนียบขาว ทำราวกับทำเนียบขาวเป็นของเขา และเขาจะต้องรักษา
(https://www.newyorker.com/culture/annals-of-appearances/the-pure-american-banality-of-donald-trumps-white-house-fast-food-banquet )
เรื่องไม่ยอมเป็นเหตุการณ์การเมืองสำคัญที่จะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ อยากให้คนไทยสนใจติดตามและศึกษาเหตุการณ์นี้ เพื่อสร้างจิตวิญญานรับรู้การกระทำที่ไม่ดีต่อระบอบประชาธิปไตย
รับรองถ้ามีจิตวิญญานนี้จะไม่มีคนไม่ดีเข้ามาเล่นการเมืองไทย ขณะเขียนเรื่องนี้ผู้เขียนไปที่ไหนเป็นต้องถูกห้อมล้อมด้วยผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่น ผู้เขียนพำนักในต่างจังหวัด
ดีใจที่เห็นคนลงสมัครล้วนเป็นคนหนุ่มสาว รวมทั้งคนรุ่นใหม่ ดูแล้วทุกคนมีการศึกษาและมีฐานะ ไม่มีแล้วผู้สมัครที่อ้างตัวเองเป็นคนจนแต่งตัวซอมซ่อเดินเซไปมาเวลาหาเสียง
(https://siamrath.co.th/n/197395)
เพื่อจะได้เรียกคะแนนสงสาร เห็นมีแต่คนแต่งตัวดีพูดจาดี แต่มีข้อสังเกตนโยบายพวกนี้ยังธรรมดา คืออาสาจะสร้างโน่นสร้างนี่ ให้เงินนั่นให้เงินนี่
ยังไม่พบคนที่ประกาศจะพัฒนาผลิตผลในพื้นที่ให้เป็นสินค้าโอทอปปรับปรุงยกระดับพื้นที่ให้เป็นที่พำนักของครอบครัวที่ประสงค์จะย้ายจากพื้นที่เดิม ทุกวันนี้คนทำงานออนไลน์กันแล้ว
ดังนั้นจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ และนอกจากครอบครัวยังมีชาวต่างชาติที่อยากเข้ามาใช้ชีวิตในไทยหลังเกษียณ ทำเถิดเพื่อพื้นที่จะได้เจริญ ทำจนถึงการน้อมรับอารยธรรม 5 จีเพื่อให้พื้นที่อยู่ถึงยุคหน้า
(https://www.chula.ac.th/cuinside/14783/)
พร้อม ๆ กับพบคนลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่น ยังได้ยินมีการเสนอจ่ายเงินซื้อเสียงกันแล้ว จำนวนมากถึง 2,000 บาทต่อหัว คนเสนอยอด ๆ ๆ ๆ เพราะทราบดีการโกงชาติสู้การโกงท้องถิ่นไม่ได้
จะโกงชาติขนาดไหน แต่จำนวนเงินไม่มีทางสู้ที่ได้จากการโกงท้องถิ่น เขียนถึงทรัมป์แต่จบที่ไทย เพื่อผู้อ่านจะได้รู้ผลร้ายของการเลือกคนไม่ดี
เลือกทั้ง ๆ ที่คนเลือกได้รับการยกย่องเป็นคนระดับยอด