เรื่องจริงต้องรู้…/ช. พิทักษ์ .. สิงคโปร์จากเมืองกุ๊ยสู่ประเทศเจริญสุด ๆ (5)
กลับ ๆ ๆ ๆ ๆ สิงคโปร์ แต่เอ๊ะไทยจะมีเลือกตั้งท้องถิ่นในอีก 9 วัน เอาอย่างนี้ดีกว่าเขียนเรื่องเลือกตั้งท้องถิ่นไทย โดยจะสอดเนื้อหา “สิงคโปร์จากเมืองกุ๊ย….” รวมทั้งเคล็ดความสำเร็จของยอดผู้นำลี กวนยูในบางช่วง
อยากเขียนเลือกตั้งท้องถิ่นวันที่ 20 ธันวาคม เพราะเห็นผู้สมัครหลายรายชูประเด็นสร้างพื้นที่ ๆ หาเสียงให้เป็น smart city หรือเมืองอัจฉริยะ เป็นไปไม่ได้ ๆ ถ้าเป็นในขณะนี้ แต่เป็นไปได้ในอนาคต และที่เป็นไปไม่ได้เพราะไทยยังไม่พร้อม
เนื่องจากไทยยังไม่มี home working การทำงานจากบ้าน และ home learning การเรียนจากบ้าน คือคนไทยคงยังต้องไปทำงานที่สำนักงาน และไปเรียนที่โรงเรียน ดังนั้นอุปสงค์หลักของการเป็นเมืองอัจฉริยะจึงไม่มี
นอกจากนี้ เรายังไม่สันทัดเรื่องการใช้คลื่นโทรศัพท์ 5จี เพราะคนไทยยังค้าขายในร้านและตามแผงริมถนนและในตลาด และเรื่องนี้ต้องขอบคุณรัฐบาลชุดนี้จากการจัดทำโครงการคนละครึ่ง ยิ้ม ๆ ๆ ๆ กันใหญ่บรรดาแม่ค้า ๆ ที่ใช้โทรศัพท์มือถือสั่งของให้มาส่ง
(https://www.tnnthailand.com/content/61749)
จากนั้นวางจำหน่าย มีคนเข้ามาซื้อทุกระยะ ทั้งทางออนไลน์และทางตรง จัดของเรียบร้อยเรียกคนรับจ้างส่งให้มารับ ครั้นแล้วเช้าวันรุ่งขึ้นสะดุ้งสุดตัว เมื่อกระทรวงการคลังโอนเงินที่ผู้ซื้อยังค้างร้อยละ 40 เงิน ๆ ๆ ๆ ๆ ที่ได้เป็นกอบเป็นกำและรวดเร็ว
แทนที่จะพัฒนาพื้นที่ให้เป็นเมืองอัจฉริยะ ควรพัฒนาให้เป็น cosmopolitan city สองคำนี้แปลว่า เมืองที่เจริญทัดเทียมโลก คือโลกเจริญเท่าไร เมืองจะเจริญเท่านั้น ตัวอย่างที่นิยมให้ดูคือ กรุงลอนดอนกับกรุงปารีส
(https://traveltriangle.com/blog/london-vs-paris/)
ทั้งสองมหานครได้ชื่อเป็นเมืองคอสโมโพลิแทนตั้งแต่โลกยุคใหม่เริ่ม ได้เป็นเพราะว่า มีสัญลักษณ์ความเจริญครบ เริ่มต้นจากโรงเรียน โรงพยาบาล ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ รวมทั้งมีสำนักออกแบบสินค้าแฟชั่นทั้งเสื้อผ้าและของใช้อื่นทุกชนิด
ซึ่งสำนักเหล่านี้ถึงกับฉุดชื่อเสียงกรุงปารีสให้กระฉ่อนจนทุกวันนี้ ยังไม่พูดถึงพิพิธภัณฑ์ที่แขวนภาพโมนา ลิซ่า ซึ่งทุกคนที่ไปเยือนนครหลวงแห่งนี้ต้องไปชม และภัตตาคารจำหน่ายอาหารชั้นเลืศจากฝีมือพ่อครัวชั้นเลิศ ซึ่งทุกคนต้องไปลิ้มรส
ส่วนกรุงลอนดอนสถานที่ ๆ ทุกคนต้องไปเห็นจะเป็นโรงละครเวที แม้ว่าคนไปชมจะไม่สันทัดและไม่เคยคิดจะชมละครเวที แต่ทว่าความดังและความมีเสน่ห์เลยต้องไปชม ยังไม่พูดร้านจำหน่ายเสื้อผ้าชุดลำลอง ซึ่งรวมทั้งรองเท้า ซึ่งแบรนด์อังกฤษเป็นเลิศมาช้านาน
(https://www.talontiew.com/west-end-theatre-district/) (https://www.trickers.com/row/)
เห็นตัวอย่างเมืองคอสโมโพลิแทน 2 แห่งนี้แล้ว ใครอยากพัฒนาพื้นที่ตัวเองให้เลิศเท่าสามารถทำได้ ทุกพื้นที่ในไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นเมืองแบบนี้ สิ่งที่เอื้ออันดับแรกคือ เพราะไทยเป็นประเทศที่ไปไหนมาไหนสะดวก
รองจากนั้น ยังมีอากาศไม่ร้อนไม่หนาวและไม่ชุ่มน้ำเกินไป สุดท้ายเพราะคนไทยมีจิตใจเบิกบานมีไมตรี ซึ่งทั้งสามสิ่งดึงดูดคนต่างชาติให้เข้ามาพำนัก แน่นอนการจะเป็นเมืองคอสโมโพลิแทนจะต้องมีคนมีระดับเข้าไปพำนัก ควรทำอย่างไรเพื่อคนมีระดับจะได้เข้าไป
สำหรับประเด็นนี้ขอบอกนอกจากคนต่างชาติ คนไทยด้วยกันยังอยากเข้าไปพำนัก เห็นหลายปีแล้วคอนโดสูง และบ้านเดี่ยวหรูในหลายจังหวัด ที่ถูกสร้างเพื่อขายคนที่ย้ายบ้านจากกรุงเทพฯ ย้ายแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องการต้องไปทำบุญ ไปช่วยงาน
และไปร่วมงาน ที่ต้องไปแบบฉับพลัน เพราะทุกเมืองของไทยในขณะนี้มีสนามบิน แถมแต่ละวันยังมีหลายเที่ยวบินให้บิน เอาละ ๆ มาดู วิธีพัฒนาหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ หรือจังหวัด ให้เป็นเมืองคอสโมโพลิแทน
สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การนำเคล็ดความสำเร็จสองข้อแรกของอดีตนายกรัฐมนตรีลี กวนยูมาใช้
นั่นคือ การทำพื้นที่ให้สะอาด ๆ ทั้งภูมิทัศน์และการดำรงชีวิต กับการยกระดับความเป็นอยู่ ไม่เอาแล้วการอยู่แบบโทรม ๆ หน้าบ้านรกรุงรัง
แต่ ๆ ๆ ๆ ไม่ต้องควักกระเป๋าปรับปรุง ทำแค่ตัดหญ้า ล้างคราบสกปรกที่เกาะตัวบ้านหรือร้าน และเปลี่ยนป้ายให้ดูใหม่และทันสมัย จากนั้นจัดพื่นที่ให้มีสถานที่จำเป็น ในกรณีโรงเรียนโรงพยาบาลห้องสมุดคงไม่ต้องสร้าง เพราะทุกพื้นที่ในไทยน่าจะมีแล้ว
หรือถ้าไม่มีก็อยู่ไม่ไกล สร้างเฉพาะหอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ และร้านจำหน่ายของชั้นเลิศ ซึ่งรวมทั้งร้านอาหาร คงไม่ต้องสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน ไม่ต้อง ๆ วิธีสร้างคือ เข้าไปใช้บ้านและอาคารที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ ซึ่งในกรณีหลังยังอาจเป็นกุฎิวัด
(https://www.muangboranmuseum.com/landmark/the-thai-hamlet-from-the-central-plains/)
และพื้นที่ว่างในโรงเรียนโรงพยาบาล บอกวัตถุประสงค์คงได้รับความร่วมมือ ไม่ต้อง ๆ ๆ ๆ จ้่างพนักงานให้เข้าไปดูแล ให้ใช้ผู้ที่เข้าไปเช่าพื้นที่จำหน่วยของและเครื่่องดื่ม สถานที่ ๆ จะจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ควรมีพื้นที่จำหน่ายสิ่งที่คนอยากซื้อและอยากดื่ม
เพื่อจะได้มีรายได้ อีกทั้งถ้าจัดการดี ๆ ยังจะได้คนดูแล พิพฺิธภัณฑ์อะไร? หอศิลป์อะไร? ถามเหมือนไม่รู้ไทยมีของเก่า ของโบราณ ของมีค่า ล้นเหลือ เอาแค่ใบปริญญาบัตรที่ได้รับจากพระหัตถ์รัชกาลที่ 9 พร้อมภาพไปวางแสดง คนจะไปชมไม่ขาดสาย
แต่ที่ควรทำคือ ควรจัดการแสดงพิเศษเพื่อน้อมรำลึกบุคคลตัวอย่างที่เป็นคนในพื้้นที่ เอามาแสดงให้ครบทั้งรูปภาพ อัลบั้มรวบรวมภาพ ของใช้ประจำตัว หนังสืองานศพ หรือถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่จะเป็นคนพื้นที่ใกล้เคียงก็ได้
(https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1234222/)
หรือคนที่เป็นข่าวตามสื่อต่าง ๆ ทำ ๆ เพื่อยกระดับพื้นที่ให้มีความเจริญทัดเทียมโลก แต่แน่นอนทุกปีควรจัดสัปดาห์หรือเดือนพระเครื่อง ทุกพื้นที่ในไทยมีคนสะสมพระเครือง ควรให้คนพวกนี้เอาพระเครื่องรวมทั้งพระพุทธรูปมาแสดง
ทำเล็ก ๆ ปีแรก ๆ ถ้าประสบความสำเร็จขยับเป็นประกวดพระเครืองเพื่อคนจะได้มาดูพระเครื่องราคาหลักแสนและหลักล้าน ทำทั้งหมดนี้พื้นที่เป็นเมืองคอสโมโพลิแตนหรือยัง? ยังเพราะลี กวน ยูยังมีเคล็ดความสำเร็จข้ออที่ 3 นั่นคือ การสร้างงาน
สร้าง ๆ ๆ ๆ เพื่อให้สิงคโปร์เป็นประเทศคนมีงานทำ และดึงดูดคนชั้นเลิศในโลกให้เข้าไปพำนัก ติดตามตอนหน้าเพื่อจะได้รู้ทำอย่างไรคนมีระดับถึงจะย้ายบ้านไปอยู่พื้นที่ ๆ กำลังจะเป็นเมืองคอสโมโพลิแทน