เรื่องจริงต้องรู้…/ช. พิทักษ์ .. สิงคโปร์จากเมืองกุ๊ยสู่ประเทศเจริญสุด ๆ (6)
ยังไม่กลับสิงคโปร์ ยัง ๆ ๆ ๆ ยังอยากจำแนกแจกแจงเรื่องราวเมืองคอสโมโพลิตัน อยากให้เมืองแบบนี้เกิดในไทย ให้ไทยเป็นเมืองคอสโมโพลิแทน ไม่ใช่เมืองสมาร์ทหรือเมืองอัจฉริยะ บังเอิญฉุกคิดขึ้นได้คำภาษาอังกฤษคอสโมโพลิแทนน่าจะแปลว่า เฟื่องวัฒนธรรม
คือมีความอิ่มเอิบในวัฒนธรรมจนมีวัฒนธรรมแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการอยู่กิน การเที่ยวเตร่ การบันเทิงเริงรมย์ การอ่าน การเขียน การวาด รวมทั้งถ่ายภาพ ปรุงอาหาร ทั้งหมดนี้เป็นวัฒนธรรมที่มีความเฉพาะทุกพื้นที่ ๆ ไหนรวบรวมวัฒนธรรมเหล่านี้
แล้วเชิดชูรวมทั้งเทิดทูน พื้นที่นั้นจะเป็นพื้นที่เจริญ ตัวอย่างบอกให้รู้แล้ว กรุงลอนดอนกับกรุงปารีส เพียงเอ่ยชื่อก็สามารถมองเห็นพิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ หอสมุด รวมท้้งร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชั้นสูงที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน
(https://www.museumslondon.org/museum/178/free-museums-in-london) (https://qz.com/quartzy/1643408/who-was-mona-lisa-why-da-vincis-masterpiece-still-fascinates/)
แนะนำไปบ้างแล้ววิธีบันดาลเมืองคอสโมโพลิแทนให้เกิดในไทย วิธีคือ ให้เริ่มจากพื้นที่ขนาดไหนก็ได้ จะเป็นหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ เมือง หรือมหานครเป็นได้ทั้งนั้น เพราะไทยมีศักยภาพในการสร้างสรรค์เมืองเฟื่องวัฒนธรรม
แต่เอ้อ ๆ ขอหยุดจำแนกสักพัก เนื่องจากต้องการเตือนผู้ที่หวังจะสร้างชุมชนของตนให้เป็นเมืองเฟื่องวัฒนธรรม ต้องการเตือนเพราะว่า คนไทยเวลาจะทำอะไรร่วมกันย่อมต้องมีคนจ้องหาผลประโยชน์ และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ไทยเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยการทุจริตคดโกงคิดมิชอบ
จนคนต่างชาติเคยเปรียบเทียบไทยเหมือนประเทศหลายแห่งในทวีปอเมริกาใต้ ประเทศที่มีการโกงทุกหย่อมหญ้าจนกระทั่งมีสองประเทศแล้วที่ล่มสลาย แห่งแรกก็คือ อาร์เจนติน่า ซึ่งร่ำรวยมังคั่งจากการค้าเนื้อสัตว์กับทวีปยุโรป หลังสงครามโลกทั้งสองครั้ง
(http://3.bp.blogspot.com/_6aQVsGpSJ4A/TOGA52bMkPI/AAAAAAAAB4o/ec_jucNLMP4/s1600/kirchner.jpg)
แต่หลังครั้งแรกและครั้งที่สองชาวประเทศนี้ที่อู้ฟู่อยู่ดีกินดี ต่างพากันกาบัตรเลือกตั้งเลือกรัฐบาลสุดโกงจนประเทศต้องพินาศ ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้วสำหรับชาวประเทศนี้จนกระทั่งทุกวันนี้ ส่วนเวเนซูเอล่าสุดมั่งคั่งจากการเป็นขุมน้ำมันดิบ
ซึ่งช่วยให้ทวีปอเมริกาเหนือและใต้ไม่ต้องพึ่งน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง เงินไหลมาเทมามหาศาล แต่ด้วยการมีรัฐบาลขึ้ฉ้อติดต่อกัน ทุกวันนี้เวเนซูเอลาเลยพังไม่เหลือ ๆ แม้แต่ประชาชนที่พากันเดินออกพรมแดนเพื่ออพยพหนีภัย
(https://en.mercopress.com/data/cache/noticias/72946/0x0/exodus.jpg)
อยู่ประเทศตัวเองต้องอดตายเพราะร้านค้าทุกร้านต่างปิดสนิท ไม่มีอะไรขายไม่มีอะไรให้ซื้อ ทั้งนี้เคยมีสถานทูตตะวันตกแห่งหนึ่งในไทยเคยเปิดเผยนานมาแล้ว คนประเทศเขาที่อาศุัยในกรุงเทพฯ ทุกคนต่างเคยโดนขโมยขึ้นบ้าน ขึ้นแม้กระทั่งจ้างยามไว้เฝ้าบ้าน
โดนจนกระทั่งต้องให้คำแนะนำ อย่า ๆ เวลาย้ายบ้านอย่าให้คนไทยช่วยย้าย รวมทั้งช่วยจัดของ เพราะคนไทยมองเห็นอะไร เป็นต้องคิดเป็นของเขาเสมอ และเมื่อมีโอกาสจะต้องหาทางหยิบฉวยสิ่งนั้น
เป็นยังไงขโมยขโจรเมืองไทย มีตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับบน ดังนั้นจึงต้องเตือนชุมชนที่อยากเป็นเมืองเฟืองวัฒนธรรมให้ระวัง วิธีเท่าที่เคยทราบจากหนังสารคดีก็คือ การจัดประเพณีมอบรางวัล Crook of the Year Award ให้แก่ชาวชุมชนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นคนประพฤติไม่ดีแห่งปี
หนังไม่ได้บอกประเพณีนี้จัดที่ไหน บอกเพียงเป็นพื้นที่ ๆ หนึ่งในอเมริกาใต้ จัดเป็นประจำทุกปี และจัดโอฬารเหมือนงานแจกรางวัลอ๊อสการ์ คือมีการเดินพรมแดงด้วย คำว่า crook ถ้าจะแปลตรง ๆ ก็คือ คนชั่ว
แต่มักใช้กับคนบ้าน ๆ ทีหากินลักเล็กขโมยน้อย รวมทั้งคดโกงคิดมิชอบ จนเคยรับกรรมในคุก แต่เมือออกมาก็ยังกระทำความชั่วเหมือนเดิม ไม่ทิ้งนิสัย อย่างไรก็ดี ถ้าจะเอามาใช้กับชุมชนและเมืองเฟื่องวัฒนธรรมในไทยอยากจะเปลี่ยนคำแปลเป็นคนประพฤติไม่ดี
ประชุมเลยชาวชุมชนและชาวเมืองเฟื่องวัฒนธรรม ประชุมเพื่อคัดเลือกคนที่จะได้รับรางวัลดังกล่าว เริ่มจากคนประพฤติไม่ดีด้านต่าง ๆ อย่างยอดขึ้เมา ยอดทวงหนี้ ยอดเบี้ยวหนี้ ยอดหยิบฉวย ยอดพูดปด ยอดขี้เกียจ ยอดสกปรกโสมม ฯลฯ
แล้วถ้าใครระหว่างนั้นลุกขึ้นจะเอาเรื่อง ให้เลยรางวัลยอดคุกคาม ได้คนประพฤติไม่ดีเหล่านี้แล้ว เอาชื่อมาวางเรียง แล้วคัดเลือกอีกครั้งเพื่อจะได้คนรับรางวัลคนประพฤติไม่่ดีแห่งปี ที่เล่ามานี้คงแปลกใจแล้วทำไมไม่เคยได้ยินประเพณีนี้ ทำไมไม่เป็นข่าวดังไปทั่วโลก
คำตอบคือ ประเพณีได้ยุติไปแล้ว เพราะชุมชนนั้นไม่มีแล้วคนประพฤติไม่ดี ครั้นจะจัดการแจกรางวัลคนประพฤติดีแห่งปีก็กลัวคนดี ๆ จะทะเลาะกัน จนกลายเป็นการวิวาทสร้างความแตกแยก
เขียนแล้วถึงเคล็ดความสำเร็จของลี กวน ยู มหาบุรุษผู้ทำสิงคโปร์ให้พ้นจากการเป็นเมืองกุ๊ย เคล็ดแรกคือ ทำบ้านเมืองให้สะอาด ๆ ทั้งภูมิทัศน์และการทำมาหากิน เคล็ดที่สองการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีงานทำ มีไฟฟ้าน้ำประปาใช้ มีสถานศึกษาให้ลูกหลานศึกษา
มีสถานพยาบาลคอยให้การรักษา ยก ๆ ๆ ๆ จนระดับความเป็นอยู่ของคนสิงคโปร์ปัจจุบันเทียบเท่าคนในประเทศที่เจริญสูงสุดมีความสงบสันติ ทีนี้มาถึงเคล็ดที่สามที่เป็นการสร้างงาน ทั้งนี้ในยุคที่มหาบุรุษผู้นี้ขึ้นมาเป็นใหญ่ คนสิงคโปร์ต่างมีงานทำกันอยู่แล้ว
แต่ล้วนเป็นงานประเภทนั่งโต๊ะ เพราะการค้าและธุรกิจมักเป็นประเภทใช้กระดาษติดต่อ สิงคโปร์ยังไม่มีอุตสาหกรรม หรือมีก็ขนาดเล็ก ลีมองสิงคโปร์ต้องมีอุตสาหกรรม เพื่อประเทศจะได้คนเก่งคนมีความสามารถเข้ามาพำนัก
ประกอบกับในช่วงนั้นญี่ปุ่นกำลังรุกขยายอุตสาหกรรม ด้วยการออกไปเปิดโรงงานในประเทศต่าง ๆ ที่พร้อม ลีมองนี่เป็นโอกาสที่จะทำให้สิงคโปร์ก้าวสู่ความเจริญทันโลก ดังนั้นจึงส่งเสริม และวิธีก็ไม่ต่างจากที่เคยทำ นั่นคือ ให้การทำอุตสาหกรรมในสิงคโปร์มีความสะอาดหมดจด
(http://www.sembcorpae.com/showcase/master-plan/46-wuxi-singapore-industrial-park)
ทำอย่างไรจะเล่าตอนหน้า ตอนนี้ขอจบด้วยการร่วมประกาศไทยจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นวันอาทิตย์นี้ ไป ๆ กัน ชวนคนรุ้จักทุกคนให้ไปด้วย ท้องถิ่นไทยเจริญเมื่อไหร่ ประเทศเจริญเมื่อนั้น แต่อย่าลืมการจะได้คนดี ๆ ไปทำท้องถิ่นให้เจริญ อยู่ที่คนที่จะไปใช้สิทธิ์
อย่าไปโทษคนอื่น ให้โทษตัวเอง คนที่บ่นไทยมีแต่นักการเมืองไม่ดี ๆ อยู่ที่คนเลือก ๆ ไม่ดี นักการเมืองย่อมไม่ดี อย่าลืมข้อเท็จจริงที่ไม่เคยมีใครแย้งสำเร็จ รัฐบาลเป็นอย่างไร ประชาชนเป็นอย่างนั้น
…