‘ไบเดน’ ยกเครื่องนโยบายโควิด ฟื้นความไว้วางใจคนอเมริกัน เร่งฉีดวัคซีน เพิ่มบทบาทในเวทีนานาชาติ
อว. เผยไบเดนยกเครื่องนโยบายเรื่องโควิด ฟื้นความไว้วางใจของคนอเมริกัน เร่งฉีดวัคซีน ใส่หน้ากากอนามัย เพิ่มบทบาทนำในเวทีนานาชาติและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต พร้อมเซ็นคำสั่ง 12 ฉบับรวด
ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า เมื่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้มอบนโยบายและมาตรการของประเทศเกี่ยวกับโรคโควิด-19 เป็นเอกสารละเอียดถึง 200 หน้า ครอบคลุมนโยบายและทิศทางที่ชัดเจน ซึ่งมีเนื้อหาแตกต่างจากนโยบายของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ค่อนข้างมาก รวมทั้งได้มีคำสั่งและบันทึกการสั่งการดำเนินงานทันทีกว่า 12 ฉบับ
สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากที่สุดในโลก จนถึงวันนี้มีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 25 ล้านคน และเสียชีวิตแล้วกว่า 420,000 คน สถานการณ์ยังรุนแรงมากและอาจจะแพร่กระจายต่อได้อีก มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมทั้งของประเทศและของโลกอย่างมาก ซึ่งแนวทางการดำเนินงานเรื่องโควิด-19 จึงเป็นความสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลสหรัฐ และเป็นที่จับตามองของประชาคมโลก
นโยบายและแนวทางการดำเนินงานด้านโรคโควิด-19 ที่ประธานาธิบดีไบเดน ประกาศออกมานั้น มีพื้นฐานและเป้าหมายสำคัญ 7 ประการ ได้แก่
- ฟื้นฟูความไว้วางใจให้กับชาวอเมริกัน
- เร่งให้มีการฉีดวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพอย่างครอบคลุม
- ควบคุมการแพร่ระบาดผ่านมาตรการใส่หน้ากากอนามัย การตรวจ การรักษา ระบบข้อมูล ผู้ปฏิบัติงานและมาตรฐานด้านสาธารณสุขที่ชัดเจน
- ขยายมาตรการบรรเทาเหตุฉุกเฉินและบังคับใช้กฎหมายการผลิตสินค้าจำเป็นเพื่อความมั่นคงโดยทันที
- เปิดโรงเรียน ธุรกิจและการเดินทางอีกครั้งอย่างปลอดภัย ในขณะที่ดูแลคนทำงานไปพร้อมกัน
- ดูแลปกป้องผู้ที่มีความเสี่ยงมากที่สุด และคำนึงถึงความเสมอภาคทางเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ รวมทั้งพื้นที่เมืองและชนบท
- ฟื้นฟูความเป็นผู้นำของสหรัฐในเวทีโลก รวมทั้งสร้างความพร้อมต่อภัยคุกคามในอนาคตที่ดียิ่งขึ้น
ในการนี้ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ประธานาธิบดีไบเดน ได้เซ็นคำสั่ง 12 ฉบับรวด ประกอบด้วย คำสั่งทางการบริหาร 10 ฉบับ และบันทึกของประธานาธิบดีอีก 2 ฉบับ เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ นำไปดำเนินการ ได้แก่
คำสั่งทางบริหารของประธานาธิบดี (Executive orders)
- ให้หน่วยงานต่างๆ แก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัคซีนและ PPE โดยใช้อำนาจหน้าที่ทั้งหมดรวมทั้งกฎหมายการผลิตสินค้าจำเป็นเพื่อความมั่นคง (DPA)
- ให้สำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (OSHA) ประกาศแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยของแรงงานและผู้ปฏิบัติงาน
- จัดตั้งคณะกรรมการดูแลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา
- ให้นักวิทยาศาสตร์ของภาครัฐเร่งพัฒนาวิธีการรักษาใหม่ๆ สำหรับ COVID-19
- ให้กระทรวงสุขภาพและบริการประชาชน (HHS) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ให้คำแนะนำที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเปิดโรงเรียนอีกครั้งอย่างปลอดภัย
- ให้หน่วยงานต่างๆ เพิ่มขีดความสามารถในการรวบรวมข้อมูลและรายงาน
- จัดตั้งคณะทำงานด้านความเสมอภาคทางสุขภาพ มุ่งเน้นแก้ปัญหาความไม่เสมอภาคทางสุขภาพทั้งด้านเชื้อชาติ/ภูมิศาสตร์ โดยมี Dr.Marcella Nunez-Smith เป็นประธาน
- เพิ่มการรวบรวมข้อมูล การแบ่งปันและการวิเคราะห์ข้อมูล COVID-19 รวมทั้งให้ครอบคลุมเรื่องเชื้อชาติและชาติพันธุ์
- ให้สวมหน้ากากอนามัยบนเครื่องบิน รถไฟ และระบบขนส่งสาธารณะทุกรูปแบบ
- ให้ขยายการบริการสถานพยาบาล และสถานดูแลผู้สูงอายุระยะยาว
บันทึกของประธานาธิบดี (Presidential memos)
- สนับสนุนเงินทุนชดเชยเพื่อจัดหา PPE สำหรับโรงเรียนโดยสำนักจัดการภาวะฉุกเฉินกลาง (FEMA)
- สั่งการ FEMA ให้เพิ่มเงินทุนชดเชยของรัฐสำหรับกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard) จาก 75% เป็น 100%
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)