พม. รับมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ราชพัสดุจากกค. เพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบด้านสังคม “เมืองสร้างสุข (Happiness Social City)” สำหรับคนทุกช่วงวัย
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชบ. 219 (บางส่วน) ตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ประมาณ 649-0-72 ไร่ ระหว่าง กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง กับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) วันนี้(4ก.พ.) เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบด้านสังคม “เมืองสร้างสุข (Happiness Social City)” โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (รมช.กค.) กล่าวรายงาน และมีนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) รับมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ราชพัสดุฯ จากนายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวง พม. และ กค. เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 กระทรวงการคลัง กรุงเทพฯ
นายจุติ กล่าวว่า กระทรวง พม. ได้ดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบด้านสังคม “เมืองสร้างสุข (Happiness Social City)” ในพื้นที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0 และกรอบการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ด้วยรูปแบบเชิงบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนตามนโยบายรัฐบาล เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนทุกช่วงวัยตั้งแต่เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ รวมทั้งครอบครัว โดยเฉพาะการพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ทุกช่วงวัย สู่การยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนเชิงพาณิชย์ในการพัฒนาพื้นที่ในรูปแบบของหุ้นส่วนการพัฒนา เป็นการลดการพึ่งพา จากภาครัฐ เพื่อการพัฒนาประเทศที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในมิติทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งการพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบด้านสังคม “เมืองสร้างสุข (Happiness Social City)” เป็นการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบทั้งด้านสังคมและเชิงพาณิชย์สำหรับประชาชนทุกช่วงวัย อาทิ ศูนย์รวมการบริการสังคมแบบครบวงจร ศูนย์ฝึกอบรมอาเซียนด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม ศูนย์ประชุม ศูนย์ฝึกอาชีพ ศูนย์ที่พักอาศัยผู้สูงอายุอย่างครบวงจร (Senior Complex) ศูนย์กีฬา สวนสาธารณะ และคอมมูนิตี้ มอลล์ เป็นต้น ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนทุกช่วงวัย โดยมีพื้นที่สร้างสรรค์ในการทำกิจกรรมแบบครบวงจรอย่างมีมาตรฐาน และการเข้าถึงบริการด้านสังคมอย่างครอบคลุมและทั่วถึง สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกมิติ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม