เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา สำรวจพบผับบาร์ ร่วมมือดีไม่ทำผิดกฎหมาย ทุนใหญ่โฆษณาออนไลน์เกลื่อน
เปิดผลสำรวจการเฝ้าระวังการทำผิด ส่งเสริมการขาย พบสถานบริการ ผับบาร์ ทั่วประเทศให้ความร่วมมือไม่ทำผิดกฎหมาย ขณะที่ทุนเหล้ารายใหญ่ จงใจเย้ยกฎหมายโฆษณาออนไลน์เกลื่อน เตรียมนำหลักฐานร้อง กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงดิจิทัลฯ
นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา เปิดเผยว่า เครือข่ายฯ ร่วมกับเครือข่ายงดเหล้า ได้ ติดตามเฝ้าระวังการดำเนินกลยุทธ การสื่อสาร ส่งเสริมการขาย (ลด แลก แจก แถม) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของสถานบริการ ผับ บาร์ ร้านอาหาร ผ่านช่องทางการสื่อสารออนไลน์ ผ่านเฟซบุ๊ก จำนวน 3715 แห่ง ทั่วประเทศ ระหว่างเดือนธันวาคม 2563 -มกราคม2564 ที่ผ่านมา พบการกระทำผิด การสื่อสารการส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านหน้าเฟซบุ๊ก จำนวน 278 แห่ง หรือร้อยละ 7.5 และสถานประกอบการส่วนใหญ่ ร้อยละ 92.5 ไม่พบการกระทำผิด ถือเป็นเรื่องน่าพอใจ และน่ายินดีชื่นชมอย่างมาก ที่ผู้ประกอบการสถานบริการต่างๆ รู้กฎหมายและเคารพกฎหมาย
โดยจังหวัดที่พบการทำผิดมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ ชลบุรี 33 แห่ง สงขลา 23 แห่ง และนครราชสีมา 21 แห่ง ซึ่งเป็นจังหวัดที่เน้นการท่องเที่ยว และธุรกิจแอลกอฮอล์ให้ความสำคัญ โดยพบรูปแบบการสื่อสารโปรโมชั่น 20 รูปแบบ เช่นใช้เงื่อนไขเวลาที่มาที่ร้าน จำนวนที่ซื้อ จำนวนคนที่มาที่ร้าน เพศหญิง ชาย บุฟเฟ่ต์ เทศกาล แม้แต่วันหวยออกก็ใช้เป็นโอกาสจัดโปรเอาใบหวยมาแลกซื้อในราคาลดพิเศษ เป็นต้น
นายคำรณ กล่าวว่า นอกจากนี้ ทางเครือข่ายฯ ยังพบการสื่อสาร การใช้สัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการโพสต์ลักษณะต่างๆที่เข้าใจได้ว่าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ รูปขวดสินค้าที่มีตราสินค้าชัดเจนว่าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อใด การเขียนชื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อนั้นๆ การใช้รูปการ์ตูน รูปสัตว์ที่สื่อถึงชื่อของยี่ห้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดนั้นๆ การใช้รูปอุปกรณ์ดื่มที่มีสัญลักษณ์ของยี่ห้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รูปการ์ตูนแก้วเบียร์ รูปสัญลักษณ์ขวดหรือทาวเวอร์ โดยใช้สีเดียวกับโล้โก้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล้านี้ ส่วนใหญ่เป็นของผลิตภัณฑ์ที่สื่อถึง 2 แบรนด์เบียร์ดัง
“ในกลุ่มธุรกิจรายใหญ่จะจงใจสื่อสารทุกอย่างเพื่อโฆษณา และส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบตรงๆ ที่ผิดกฎหมาย ผ่านทางเพจผลิตภัณฑ์นั้นๆ หรือผ่านเพจรีวิว ซึ่งเรื่องนี้ทางเครือข่ายฯเห็นว่านายทุนใหญ่เข้าข่ายจงใจละเมิดกฎหมาย จึงอยากเรียกร้องทั้งกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ติดตามและดำเนินการทางกฎหมายกับเพจเหล่านั้น มิให้สื่อสารโฆษณามอมเมาเย้ยกฎหมายอยู่เช่นนี้ โดยทางเครือข่ายฯ ยินดีนำเสนอข้อมูลสนับสนุน” คำรณ กล่าว