LINE จัดงานออนไลน์อีเวนท์ครั้งใหญ่ THAILAND NOW AND NEXT เจาะลึก Chat Commerce เทรนด์ธุรกิจที่ใช่สำหรับคนไทย
LINE ประเทศไทย จัดงาน THAILAND NOW AND NEXT: REBUILD & GROW WITH CHAT COMMERCE สัมมนาออนไลน์ฟรี ครั้งใหญ่ เปิดกว้างให้ผู้ประกอบการไทยยกระดับความรู้การทำธุรกิจออนไลน์ สู่เทรนด์ Chat Commerce พร้อมเผยเทคนิคสร้างสัมพันธ์ลูกค้า (Deep Connection) และ 4 ปัจจัยสำคัญนำธุรกิจออนไลน์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพียงวันแรกมีผู้สนใจเข้าร่วมงานจากหลากหลายช่องทางออนไลน์กว่า 2 แสนคน โดยงานจัดต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน ตั้งแต่ 10 – 12 มีนาคมนี้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและแนะโอกาสแก่ทุกกลุ่มธุรกิจ ผู้สนใจเข้าชมได้ฟรีจากทุกที่ทั่วประเทศ ผ่าน LINE Official Account: @linebizth และ LINE TV ช่อง LINE for Business
ปัจจุบัน ความนิยมใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นของคนไทย ส่งผลให้ไทยเป็นประเทศที่มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยเกือบ 80% ของจำนวนประชากรไทยล้วนใช้งานโซเชียลมีเดีย และใช้เวลาเฉลี่ย 2 ชั่วโมง 48 นาทีต่อวัน ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่สูง ดังนั้น การทำการค้าผ่านโซเชียลมีเดียจึงกลายเป็นโอกาสในการทำธุรกิจ สะท้อนได้จากสัดส่วนการซื้อขายออนไลน์ในประเทศไทยซึ่งมีมูลค่ารวมในปัจจุบันราว 270,000 ล้านบาทนั้น 62% มาจากการค้าขายผ่านโซเชียลมีเดีย หรือเรียกว่า Social Commerce และ 38% มาจากออนไลน์มาร์เก็ตเพลสและเว็บไซต์แบรนด์ต่างๆ สัดส่วนที่สูงนี้ชี้ให้เห็นว่าการค้าขายแบบ Social Commerce ไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกใหม่ แต่เป็นปัจจุบันและอนาคตของการทำธุรกิจบนออนไลน์ที่ธุรกิจต่างๆ จะมองข้ามไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับคนไทยที่มีพฤติกรรมชอบการพูดคุย สอบถาม การแชทบนโซเชียลมีเดียเพื่อการซื้อขาย จึงกลายเป็นเทรนด์สำคัญในการทำธุรกิจในไทยที่เรียกว่า Chat Commerce
LINE เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานกว่า 47 ล้านคน ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเชื่อมโยงบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเครื่องมือเชื่อมต่อระหว่างธุรกิจกับลูกค้าด้วย จึงทำให้ LINE เป็นจุดศูนย์กลางของการซื้อขาย Social Commerce ไม่ว่าธุรกิจจะเกิดขึ้นที่ไหน มักจะมาจบหรือปิดการขายที่ LINE เสมอ
เลอทัด ศุภดิลก หัวหน้าฝ่ายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะแพลตฟอร์มที่อยู่ในจุดเริ่มต้นและเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโตของการซื้อขายออนไลน์ของประเทศ เราจึงอยากให้ผู้ประกอบการไทยมีความรู้ ความเข้าใจ ถึงเทรนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้ธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ มีความพร้อมและสามารถเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจอย่างทันท่วงที จึงจัดงาน THAILAND NOW AND NEXT: REBUILD & GROW WITH CHAT COMMERCE ขึ้น ระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคม โดยวันนี้ถือเป็นวันแรก มีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมงานผ่านช่องทางออนไลน์กว่า 2 แสนราย”
งาน THAILAND NOW AND NEXT: REBUILD & GROW WITH CHAT COMMERCE ในวันแรก ได้ให้ความรู้ภาพรวมกลยุทธ์ Chat Commerce ที่เกิดขึ้นบน LINE และชี้ให้เห็นถึงจุดเด่นของแพลตฟอร์มในมุมมองคนไทย นั่นคือ การสร้างวงจรความไว้ใจ (Circle of Trust) ที่แชทสามารถสร้างตัวตน สร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าก่อนที่จะซื้อสินค้าได้ พร้อมสร้างความไว้วางใจมากขึ้น อันนำไปสู่การซื้อสินค้าครั้งต่อไป จนเกิดการซื้อซ้ำ บอกต่อ และเป็นลูกค้าประจำในที่สุด โดยทั้งกระบวนการนี้ที่เกิดขึ้นบน LINE ลูกค้าจะจำได้ว่าได้ซื้อสินค้าจากแบรนด์ใด ร้านใด แตกต่างกับเวลาซื้อสินค้าจาก E-Marketplace ที่ไม่มีกระบวนการสร้างสัมพันธ์ ลูกค้ามองหาแค่ตัวเลขราคาที่พอใจเท่านั้น และเมื่อจบการซื้อขาย ลูกค้าส่วนมากจำไม่ได้ว่าซื้อจากร้านใด ดังนั้น จะเห็นได้ว่า กลยุทธ์ Chat Commerce ไม่เพียงสร้างยอดขายให้เติบโตเท่านั้น แต่ยังสร้าง Deep Connection ให้กับแบรนด์ ให้ลูกค้าจดจำ พัฒนาไปสู่ความภักดีต่อแบรนด์ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ ทั้งนี้ เทรนด์ในการทำ Social และ Chat Commerce จะเกิดขึ้นเติบโตต่อไป โดยมีปัจจัยสำคัญต่อไปนี้เป็นตัวขับเคลื่อน
การให้ความสำคัญกับความไว้วางใจ มากกว่าราคา เมื่อกระบวนการ Chat Commerce เกิดขึ้น ลูกค้าจะจดจำร้านค้าหรือแบรนด์ได้ และเมื่อพอใจในสินค้า ก็จะมีแนวโน้มที่กลับมาซื้อซ้ำ โดยไม่สนใจว่าจะเป็นราคาถูกที่สุดหรือไม่ ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม LINE นำโดย LINE Official Account พร้อมเป็นตัวช่วยในการสร้างตัวตนของแบรนด์ให้น่าเชื่อถือ สร้างฐานผู้ติดตามให้กับแบรนด์บนโลกออนไลน์ได้ พร้อมด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีในการขายของ พร้อมรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความประทับใจ ไว้วางใจต่อแบรนด์การตอบรับและสนองความต้องการในระดับบุคคล
ปัจจุบันแบรนด์ที่ตอบสนองลูกค้าได้ตรงใจที่สุด จึงจะเป็นแบรนด์ที่รักของลูกค้า การใช้กลยุทธ์ Chat Commerce บน LINE จะทำให้แบรนด์สามารถจำแนกประเภทลูกค้า และความต้องการของลูกค้าได้ในระดับบุคคล ไม่ใช่ระดับกลุ่มเพศ อายุ อาชีพ หรือไลฟ์สไตล์อีกต่อไป บน LINE OA แบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าในรูปแบบคนหนึ่งคน ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าจะสามารถเปลี่ยนเป็นยอดขายได้ในอัตราที่สูงกว่ามากคงลูกค้าประจำ พร้อมหาลูกค้าใหม่ นักการตลาดทราบกันดีว่า ต้นทุนการรักษาฐานลูกค้าเก่า ถูกกว่าต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่
สิ่งนี้ยังเกิดขึ้นต่อไป หากแต่บน LINE มีเครื่องมือที่ทำให้แบรนด์สามารถสร้างได้ทั้งลูกค้ารายใหม่ และคงความสัมพันธ์ลูกค้าเก่าได้เป็นอย่างดี ในการกลับมาซื้อสินค้าซ้ำและบอกต่อให้กับเพื่อน สร้างทั้งการเติบโตจากยอดขายและการเติบโตของจำนวนลูกค้าไปพร้อมๆ กัน สร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้ามากที่สุดด้วยเทคโนโลยี
จากข้อมูลทีม LINE Insights เห็นได้ว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Chat Commerce เติบโตอย่างรวดเร็วคือ Ease of Ordering นั่นคือ ความง่ายในการซื้อขาย ดังนั้นแบรนด์ต้องทำให้ลูกค้ามีความสะดวกในการซื้อมากที่สุด ไม่บังคับลูกค้าว่าจะซื้อผ่านช่องทางไหน เปิดหลายช่องทางเพื่อความสะดวกมากที่สุด ทั้งนี้บน LINE OA แบรนด์สามารถ สื่อสารกับลูกค้าผ่านแชท และสามารถปิดการขายผ่านเครื่องมือ MyShop เรียกได้ว่า ตั้งแต่เปิดการขายถึงปิดการขายและจ่ายเงิน ทำได้บน LINE ตั้งแต่ต้นจนจบ
“นอกจากนี้ การที่จะประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ได้ แบรนด์ยังต้องให้ความสำคัญกับ การสร้างตัวตนที่ชัดเจน (Brand Personality) การลงทุนในบุคลากรผู้ดูแลระบบหลังบ้านซึ่งเทียบเท่ากับพนักงานขายที่ดูแลลูกค้า และที่สำคัญที่สุดคือ การเลือกแพลตฟอร์มและเทคโนโลยี ที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจในปัจจุบัน ซึ่ง LINE เป็นแพลตฟอร์มที่มุ่งมั่นสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ จำนวนมากเพื่อตอบโจทย์การขายออนไลน์ในวันนี้และยุคถัดไป เราพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจให้ผู้ประกอบการไทยได้อย่างดีที่สุดสำหรับทั้งในวันนี้และอนาคต” นายเลอทัด กล่าวสรุป