เรื่องจริงต้องรู้…/ช. พิทักษ์.. แม่สอดมหานครหยก ‘Mae Sot Jade Metropolis’
หลายวันมานี้แม่สอดมีข่าวใหญ่ ข่าวนั้นก็คือ การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้มีคนเสียชีวิต 40 คนเมื่อวันอังคาร(9ก.พ.) ตามด้วย 22 คนในวันถัดมา ทำให้มีการระดมตรวจคัดกรองคนงานและผูู้ประกอบการ
(https://thestandard.co/tak-lock-down-2-communities-of-mae-sot/)
ที่มีการเดินทางข้ามพรมแดนไทย-พม่า การระบาดยืนยันความเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญของแม่สอด สำคัญถึงขั้นมีทางพัฒนาให้เป็นมหานคร ๆ หน้าด่านแบบเดียวกับมหานครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา
ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นประตูสู่ญี่ปุ่นและจีน จนภาคตะวันตกของสหรัฐฯกลายเป็นดินแดนมั่งคั่ง ส่วนประเทศทั้งสองก็มีโอกาสแตะความเจริญ จนมีความรุดหน้าถึงขั้นยิ่งใหญ่ตราบจนทุกวันนี้
แม่สอดจะเจริญแบบเดียวกับซานฟรานซิสโกได้หรือ? ได้ถ้าดูประเทศที่อยู่ติด เริ่มจากพม่าที่มีประชากร 51 ล้านคน ตามด้วยจีน 1,400 ล้าน บังคลาเทศกับอินเดีย 2,000 ล้าน
ยังไม่รวมไทย ลาว กัมพูชา เวียตนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ที่รวมกันแล้วเฉียดพันล้าน เอาแค่ประชากร ยังไม่พูดถึงทรัพยากร ซึ่งพม่ายังอู้ฟู่ ๆ จากการมีอัญมณีมีค่า ซึ่งที่สุดก็คือ หยก
(https://www.thedailybeast.com/chinas-ugly-craving-for-burmese-jade)
มีน้ำมันดิบ มีแก๊สธรรมชาติ ทั้งหมดนี้ทุกวันนี้แม่สอดก็ได้ประโยชน์ ดูจากมูลค่าสินค้าส่งออกและนำเข้าที่ผ่านด่าน ซึ่งน่าจะไม่น้อยกว่าปีละแสนล้านบาท แต่น่าห่วงที่มูลค่าอาจลด
ลดจากการที่พม่ามีการรัฐประหาร ทำให้ประเทศถูกคว่ำบาตรทุกรูปแบบ ประเด็นนี้เป็นสาเหตุทำให้คนพม่าทะลักเข้าไทยทันทีหลังรัฐประหาร โดยหลายคนที่หนีออกมาให้สัมภาษณ์ต่อไปพม่าจะเป็นประเทศอยู่ไม่ได้
ทั้งไม่มีคนอาศัย ไม่มีงานทำ และไม่มีการค้าขาย ไทยจะต้องเตรียมรับมือการทะลัก และวิธีหนึ่งก็คือ การพัฒนาแม่สอดให้เป็นเมืองใหญ่ และมีฐานะเศรษฐกิจพออุ้มชูคนทั้งในและประเทศใกล้เคียง
ควรพัฒนาอย่างไรเพื่อจะได้เป็นมหานครแม่สอด หรือ Mae Sot Metropolis โอ้! ก่อนอื่นขอแก้ข้อมูลที่ผิด ตรอกบ้านจีนไม่ได้อยู่แม่สอด แต่อยู่อำเภอเมือง จังหวัดตาก
และนครแม่สอดเดิมเป็นตำบลแม่สอด ตำบล ๆ หนึ่งของอำเภอแม่สอด อยู่ห่างชายแดน 6 กิโลเมตร มีขนาดพื้นที่ 27.20 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 40,000 คน
ดูแล้วทั้งขนาดพื้นที่และจำนวนประชากรยังต้องขยายอีกมาก แต่้มีทางทำได้ และวิธีก็คือสร้างงาน และนี่ก็เป็นอีกข้อมูลที่อยากแก้ ตอนที่แล้วแนะนำให้แม่สอดหาประโยชน์จากการมีไม้อุดมสมบูรณ์
ให้เอาไม้มาแกะสลักแกะเป็นศรีษะคนมีชื่อเสียง เพื่อชาวโลกจะได้ซื้อไปประดับบ้าน โรงเรียน พิพิธภัณฑ์ และสถานประกอบการ ความจริงก็คือ ความเจริญมั่งคั่งในอดีตของแม่สอดมาจากหยก
(https://www.bangkokpost.com/travel/306774/little-myanmar#group=nogroup&photo=10)
หยกที่เป็นอัญมณีมีค่าประดุจเพชร โดยเฉพาะชาวจีนที่ยกย่องให้เป็นสุดยอดอัญมณี มีการนำไปแปรรูปเป็นสาระพัดเครื่องประดับและเครื่องใช้ แม่สอดไม่มีหยก แต่มีการค้าหยกที่เข้ามาจากพม่า
พม่าที่เป็นดินแดนหยกหนาแน่น อีกทั้งมีการสำรวจและขุดตั้งแต่โบราณกาล การค้าหยกเริ่มที่แม่สอดเมื่อไรไม่มีการบันทึก แต่คงเริ่มเมื่อความนิยมเริ่มกระจายไปทางทิศตะวันออก จนครอบพื้นที่ซีกนี้ได้ทั้งหมด
รวมทั้งไปยังแคนาดาและสหรัฐอเมริกาที่มีชาวจีนอพยพหนาแน่น เห็นข้อมูลเหล่านี้แล้วทำเลย ๆ ทำแม่สอดให้เป็นมหานครหยก หรือชื่อภาษาอังกฤษสุดเก๋ Mae Sot Jade Metropolis
ทำด้วยการนำเรื่องราวหยกมาเป็นไฮไลท์ของการไปเที่ยว และการไปทำธุรกิจ ไปเที่ยวเพื่อดูพิพิธภัณฑ์ที่เสนอเรื่องราวและหลักฐานสำคัญ ทำให้ดูใหญ่และทันสมัย โดยเฉพาะให้มีภาษาจีนประกอบ
เพราะนักท่องเที่ยวที่จะไปเป็นนักท่องเที่ยวจีน ๆ ต่างต้องไปดู โดยเฉพาะถ้ามีการแสดงหยกของคนมีชื่อเสียง ไม่ต้องเอาของจริงมาแสดง เอาแค่แหวน กำไล และเหรียญประดับที่ปรากฏในภาพ
ขยายให้ใหญ่ บอกเล่าเรื่องราวให้ละเอียด ทำแค่นี้รับรองคนจีนจะไปแม่สอด จนแหล่งท่องเที่ยวอื่นที่คนจีนนิยมต้องอิจฉา
และนอกจากหยก ยังมีวิธีพัฒนาแม่สอดให้เป็นมหานครธุรกิจ วิธีคือนำแรงงานพม่าที่มีความรู้และทักษะทำงานที่เป็นที่ต้องการระดับสากล ซึ่งพม่ามีจำนวนมาก เปิดเลยเขตแรงงานพม่ามีทักษะ
เปิดพร้อมที่พัก ที่ทำงานแบบ coworking space เปิดเลย ทำให้เหมือนในเมืองใหญ่ประเทศตะวันตกเพื่อให้ดูสุดเก๋ ใครเห็นต้องอุทาน เฮ้ ๆ แม่สอดมี coworking space กับเขาด้วย
แล้วสูงกว่านั้นก็คือ การส่งเสริมให้มีการเปิดสต๊าร์ทอัพ เพราะถ้าส่งเสริม เงินจากชาวพม่าลี้ภัยในประเทศตะวันตกจะไหลเข้ามาลงทุนเป็นล่ำเป็นสัน เห็นหรือยังตึกระฟ้า เห็นหรือยังรถรางลอยฟ้า
(https://en.wikipedia.org/wiki/Mae_Sot_District#/media/File:Thai-Myanmar_friendship_bridge.jpg)
เห็นหรือยังสวนสาธารณะ และนี่จะเป็นภูมิทัศน์แม่สอด ถ้ามีการพัฒนาเป็นล่ำเป็นสัน เอาเลย ๆ ผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี นครแม่สอด การเลือกตั้งที่จะเกิดวันที่ 28 เดือนหน้า
เอาแนวความคิดที่เสนอไปหาเสียง เพื่อจะได้คะแนนเสียงจากชาวแม่สอดที่อยากเห็นถิ่นทื่อยู่ของตัวเองเป็นมหานคร โอกาสขยับเข้ามาใกล้ขนาดนี้ต้องหยิบฉวย
(https://www.bangkokpost.com/world/1254550/mae-sot-luminaries-share-bold-vision)
หยิบฉวยเลยชาวแม่สอด หยิบฉวยเหมือนครั้งหนึ่งเคยทำกับหยก