กลุ่มบริษัทแพนเธราบริจาคอาหาร-ของใช้จำเป็นให้พนักงานสถานบริการ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19
กลุ่มบริษัทแพนเธรา ผู้ให้บริการด้านกฎหมาย การตลาด และการบริการแบบบูรณาการชั้นนำของไทย รวมถึงเจ้าของศูนย์รวมความบันเทิงนานาพลาซ่าในกรุงเทพฯ ได้บริจาคอาหารและสิ่งของจำเป็นจำนวนมากให้กับพนักงานมากกว่า 1,000 คนตามสถานที่ผับบาร์และสถานบันเทิงของผู้เช่าในพื้นที่ ประกอบไปด้วยข้าวสาร 5,000 กิโลกรัม ไข่ไก่ 40,000 ฟอง อาหารกระป๋อง 6,000 กระป๋อง น้ำมันสำหรับทำอาหาร 2,000 ขวด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 20,000 ซองและของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น แป้งเด็กและผ้าอ้อม
พนักงานส่วนใหญ่ที่ทำงานตามผับบาร์ในพื้นที่นานาพลาซ่าเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เดินทางมาจากภาคอีสานของไทย โดยพวกเขาเหล่านี้มีฐานะยากจนและต้องทำงานหาเลี้ยงลูก ๆ รวมถึงครอบครัว เมื่อสถานบันเทิงถูกสั่งปิดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะหาเลี้ยงครอบครัวและตัวเองได้เหมือนเคย
“พนักงานของผู้เช่าภายในพื้นที่ของเราตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนับตั้งแต่มีประกาศปิดสถานบริการ” พอล เฮย์เวิร์ด ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มบริษัทแพนเธรากล่าว
โดยเขามองว่า เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของทางบริษัทของเขาในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการด้านความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และการมอบข้าวปลาอาหารในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นแค่การช่วยเหลือผู้เช่าและพนักงานของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับธุรกิจอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม เพื่อให้ผู้ประกอบการเล็งเห็นความสำคัญในการเลี้ยงดูพนักงานสถานบันเทิงที่ต้องหยุดทำงานในระหว่างการระบาดระลอกใหม่ นี่คือเหตุผลหลักว่าทำไมกลุ่มบริษัทแพนเธราถึงได้เดินหน้าแจกจ่ายอาหารในรูปแบบเดียวกันที่ซอยคาวบอย รวมถึงถนนคนเดินพัทยา แม้ว่าทางบริษัทจะไม่ได้เป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ในพื้นที่เหล่านั้นก็ตาม
การบริจาคในเดือนพฤษภาคมมีขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ผู้ทำงานในพื้นที่นานาพลาซ่าจำนวน 450 คน ได้รับอาหารอย่างเพียงพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัวของพวกเขาได้เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม และหลังจากมีการแจกจ่ายอาหารระหว่างการแพร่ระบาดระลอกที่สองของเดือนมกราคม ซึ่งประกอบไปด้วยไข่ 30,000 ฟอง บะหมี่ 15,000 ซอง อาหารกระป๋อง 6,000 กระป๋อง ข้าวสาร 5,000 กิโลกรัม น้ำมัน 1,000 ขวด พร้อมแป้งเด็ก ยาที่จำเป็น และสิ่งของอื่น ๆ อีกมากมาย
สำหรับกลุ่มบริษัทแพนแพนเธราเป็นบริษัทเอกชนที่ร่วมก่อตั้งโดยเฮย์วาร์ดและมิกกี้ โดเฮอร์ตี เมื่อกว่า 17 ปีที่แล้ว โดยเป็นกลุ่มบริษัทที่พร้อมสรรพด้วยธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม สถานบันเทิงยามค่ำคืน โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ การลงทุน และการจัดการต่าง ๆ ปัจจุบันมีการดำเนินกิจการในกรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา และเกาะสมุย