เรื่องจริงต้องรู้…/ช. พิทักษ์..กีฬากับปัจจัยที่ทำให้ประเทศเจริญ (2)
https://hivelife.com/tokyo-olympics-technology/
ดีใจ ๆ ๆ ๆ ดีใจที่เห็นคนไทยดูการแข่งโอลิมปิกทางโทรทัศน์ มีการสำรวจช่วงที่ผ่านมาคนไทยดูโทรทัศน์กันมาก แถมยังดูตอนกลางวัน จำนวนที่มากจนเป็นตัวเลขประวัติศาสตร์ .
และรายการที่ดูกันมากที่สุดก็คือ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกรุงโตเกียวปี 2020 ซึ่งคนไทยไม่น้อยยังไม่รู้ทำไมการแข่งถึงใช้ปีคริสต์ศักราชดังกล่าว ทำไมถึงไม่ใช้ปี 2021…
ไม่แปลกที่ไม่รู้ เพราะเล่าแล้วเรื่องคนไทยไม่นิยมดูและเล่นกีฬา เล่าหลังเดินสำรวจคนเปิดโทรทัศน์ชมพิธีในย่านที่ผู้เขียนพำนัก แล้วช่วงที่ผ่านมาเดินสำรวจอีก พร้อมกับปลื้มใจที่เห็นแทบทุกบ้านชมโอลิมปิก ..
ปัจจัยอาจเพราะเป็นช่วงโรงเรียนปิด และช่วงที่คนเก็บตัวอยู่ในบ้าน แต่นั่นแหละการปรับเปลี่ยนทัศนคติ และหันมาดูรายการสร้างสรรค์อย่างกีฬา ไม่นานไทยคงจะได้เป็นประเทศเจริญ
แต่ต้องยอมรับอีกปัจจัยก็คือ เพราะคนไทยที่ดูต่างตื่นเต้นไปกับสีสันและบรรยากาศกรุงโตเกียว สนามแข่งอาจไม่มีคนดู แต่พอกล้องหันไปถ่ายทอดทิวทัศน์นอกสนาม ไม่น้อยคงตะลึง
ซึ่งก็เข้ากับบทวิจารณ์บทหนึ่งที่ผู้เขียนเคยอ่านเกี่ยวกับการแข่งโอลิมปิกกรุงโตเกียวครั้งแรกเมื่อปี 1994 หรือ 27 ปีก่อน มีการชื่นชมรัฐบาลและคนญี่ปุุ่นถึงความสามารถในการฟื้นฟูประเทศที่จมอยู่ในกองไม้ .
คือฤทธิ์สงครามที่ประเทศนี้เป็นฝ่ายแพ้ได้ทำให้อาคารบ้านเรือนสมัยนั้นที่ล้วนสร้างด้วยไม้พังพินาศกองเรียงราย แต่แค่ 19 ปีสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นถูกเปลี่ยนเป็นอาคารคอนกรีต .
ที่สร้างด้วยไม้ยังมีแต่บ้าน เพราะคนญี่ปุ่นรักและนิยมความงามสมัยโบราณ ยิ่งกว่านั้นพอฟื้นฟูสำเร็จญี่ปุ่นยังรับเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเพื่อฉลอง และเพื่อประกาศให้ชาวโลกทราบญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่เคยรู้จัก…
ประเทศที่ชอบรบระรานเขาไปทั่ว แต่เป็นประเทศรักสันติและนิยมความเจริญสมัยใหม่ โอลิมปิกอาจเป็นของนอก แต่ก็เป็นของเก่าแก่มีการจัดตั้งแต่สมัยกรีกสมัยโรมัน.
ซึ่งชาวโลกก็รับทราบการเป็นเจ้าภาพ และหลังจากนั้นพากันซื้อสินค้าญีปุ่น จนทุกบ้านต่างมีสินค้าจากประเทศอาทิตย์อุทัย หรือพระอาทิตย์ขึ้น .
(https://www.japankuru.com/en/shopping/e753.html)
มีกันเต็มบ้านทั้งวิทยุ ทั้งโทรทัศน์ ทั้งตู้เย็น ทั้งเครื่องซักผ้า ไปจนถึงระบบชมความบันเทิงทางออนไลน์ ที่สามารถชมและฟังสิ่งบันเทิงได้ครบ.
อ้อเกือบลืม ขณะเขียนญี่ปุ่นได้เหรียญทองมากเป็นอันดับ 3 ได้ทั้งหมด 21 เหรียญ เทียบกับจีนที่ได้ 32 เหรียญมากอันดับ 1 และสหรัฐอเมริกาที่ได้ 26 เหรียญมากอันดับ 2 อีกแล้วเป็นเรื่องสหรัฐฯไม่ได้เป็นเจ้าเหรียญทอง
หลังไม่ได้เป็นตั้งแต่แข่งโอลิมปิกกรุงลอนดอนปี 2012 หรือ 9 ปีก่อน เป็นเรื่องเพราะสหรัฐฯมองตัวเองเป็นราชากีฬา ทั้งเก่งและนิยมเล่นจนครองความเป็นจ้าวเหรียญทองโอลิมปิกมาช้านาน
(http://www.asianews.it/news-en/London-2012:-US-overtakes-China-as-top-medal-winner-25540.html)
ส่วนไทยได้แค่เหรียญทองเหรียญเดียวจากน้องเทนนิส มากเป็นอันดับที่ 57 รั้งท้ายในบรรดาประเทศที่ได้เหรียญทั้งหมด 79 ประเทศ เห็นหรือยังประเทศที่เจริญจะต้องเก่งกีฬา และมีประชาชนที่ชอบทั้งเล่นและชมกีฬา.
มีคนอ่านถามอะไรเป็นปัจจัยทำให้กีฬาสามารถสร้างสรรค์ความเจริญให้ประเทศ คำตอบที่คุ้น ๆ ก็คือ เพราะกีฬาทำคนให้เป็นคน คือคนเราเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ ตอนนั้นยังไม่เป็นคน ต้องรอเข้าโรงเรียนและเรียนจบ.
แต่ไม่ใช่เท่านี้มีคนท้วง แค่รู้อย่างเดียวไม่พอ ต้องมีจิตใจและร่างกายเป็นนักกีฬาด้วย คือรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เวลาชมการแข่งโอลิมปิกลองสังเกตนักกีฬาคนดัง จะเห็นท่วงท่าการเดินที่เข้มแข็งทะมัดทะแมง .
(https://www.insider.com/athletes-show-tokyo-olympic-village-2021-7)
จากนั้นให้ลองสังเกตรอยยิ้ม จะเห็นยิ้มที่สุดประทับใจหลุดออกจากใบหน้า และที่นักกีฬาระดับนี้ต้องยิ้มสวยขนาดนั้น ก็เพราะการต้องยิ้มบ่อยเวลาลงแข่ง ทั้งเพื่อทักทายคนที่มาเชียร์ และเพื่อแสดงความพอใจต่อผู้ร่วมแข่ง
แต่ปัจจัยจริง ๆ ในทัศนะผู้เขียนก็คือ การปกครองท้องถิ่น ผู้เขียนนิยมการปกครองระดับนี้ และชื่นชมที่ผู้นำประเทศในขณะนี้กำลังผลักดันให้ไทยมีการเคลื่อนไหวทางด้านนี้
โดยเฉพาะการจัดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อไม่นาน ซึ่งเท่าที่ติดตามข่าวไม่เคยได้อ่านเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับผู้ได้รับเลือก แถมยังได้รับสัญญาณให้จับตาการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งหน้า เพราะจะมีผู้สมัครระดับท็อปจำนวนมาก จากการที่ไทยเป็นประเทศอุดมสมบูรณ์ แทบทุกพื้นที่สามารถปรับเปลี่ยนและสร้างให้เป็นพื้นที่เจริญ ๆ เหมือนสหรัฐอเมริกาที่หลังเริ่มพัฒนา…
มีการโอนอำนาจ การปกครองส่วนหนึ่งจากส่วนกลางไปสู่ท้องถิ่น มีการพัฒนาท้องถิ่นโดยใช้องค์กรที่ตั้งขึ้นเฉพาะ อะไรเกิดขึ้นคงอยากรู้ นอกจากทุกท้องถิ่นสหรัฐฯ จะมีโรงเรียน มีสนามกีฬา อย่างที่บอก .
ยังมีโรงละครสำหรับต้อนรับคณะละครเร่กับชมรมละครท้องถิ่น มีโรงพยาบาลกับสถานีอนามัย แต่ที่สุด ๆ ก็คือ มีห้องสมุด ๆ ที่ทุกแห่งล้วนใหญ่มีความสง่า เขียนถึงสถานที่นี้แล้วรู้สึกเอน็จอนาถห้องสมุดไทย .
มีการคุยจะปรับปรุงให้เป็นห้องสมุดออนไลน์ คือหนังสือที่เก็บจะถูกแปลงเป็นฐานข้อมูลออนไลน์ ทั้ง ๆ ที่ในขณะนี้ประเทศเจริญทั่วโลกได้ปรับห้องสมุดให้เป็น co-working space หรือพื้นที่ทำงานร่วมกัน.
(https://www.goubiq.com/wp-content/uploads/2015/09/betahaus-coworking-berlin-e1478879910362.jpg )
ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับใครก็ได้ที่อยากมีพื้นที่ทำงานที่พร้อมทางด้านออนไลน์ คือมีอุปกรณ์ครบและมีผู้แนะนำการใช้ คงทราบแล้วการทำงานสมัยนี้ต้องพึ่งอุปกรณ์และระบบสื่อสารราคาแพง.
การมีพื้นที่ทำงานร่วมกันจะช่วยลดค่าลงทุนและค่าจ้างบุคคลากรได้มาก แต่ที่มากกว่านั้นคือ พื้นที่นี้ยังอาจขยายการใช้ไปยังการเป็นลานกาแฟ ลานออกกำลังกาย รวมทั้งฟลอร์เต้นรำ ..
(https://www.kruzeta.mx/dance-floors )
ซึ่งจะช่วยให้องค์กรปกครองท้องถิ่นในเรื่องรายได้ ปรับเลย ปรับห้องสมุดให้เป็นโค-เวิร์คกิ้ง สเปซ รวมทั้งช่วยฟื้นฟูที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้านด้วย
ครั้งหนึ่งไทยเคยคิดจะให้ประชาชนรักการอ่าน ด้วยการสร้างสถานที่แบบนี้ในทุกหมู่บ้าน แล้วเป็นไง สถานที่ถูกทิ้งร้างทรุดโทรม เสียดายไม่มีภาพให้ดู อยากให้กระทรวงวัฒนธรรมเข้าไปฟื้นฟูสถานที่เหล่านี้ .
แต่ไม่ใช่เพื่อเป็นที่อ่านหนังสือ แต่เป็นโบราณสถาน ๆ เพื่อชี้ให้เห็นครั้งหนึ่งไทยเคยคิดที่จะสร้างความเจริญด้วยการให้คนอ่านหนังสือ อ่านแล้วจะได้นำสิ่งที่พบไปทำประโยชน์..
จบ ๆ คงอีกนานกว่าไทยจะเป็นประเทศเจริญ และเป็นประเทศเจ้าภาพโอลิมปิก นานนับพันปีเป็นไปได้