เรื่องจริงต้องรู้…/ช. พิทักษ์.. รำลึกการแข่งโอลิมปิกส์โตเกียว 2020
ศึกประลองความสามารถทางกีฬาระดับโลกได้ยุติแล้ว ยุติวันที่ 8 สิงหาคม เวลาผ่านมา 19 วัน แต่ชาวออนไลน์ยังคอมเมนท์กันไม่หยุด เข้าไปดูและแปลกใจ ไม่มีคอมเมนท์ไหนตำหนิติเตียนเจ้าภาพที่จัดการแข่งขัน..
(https://www.aljazeera.com/news/2021/8/8/tokyo-wraps-up-2020-olympics-in-subdued-closing-ceremony)
ไม่มี ๆ ทั้ง ๆ ที่เป็นงานใหญ่และมีเรื่องราวเกี่ยวพันยุ่งเหยิง แต่ก็ไม่แปลกใจอีกเช่นกัน เพราะญี่ปุ่นเสียอย่าง ทำอะไรเป็นต้องดีไปหมด จากการเป็นประเทศที่ประชาชนมีความละเอียดถี่ถ้วน ..
รู้จักทำงาน รู้จักผิดชอบชั่วดี สำหรับการจัดโอลิมปิกส์คร้้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 สำหรับประเทศนี้ ต่อจากครั้งแรกเมื่อปี 1964 หรือ 57 ปีที่แล้ว มีข้อสังเกตญี่ปุ่นหรือกรุงโตเกียวให้ความสำคัญแก่สาระมากกว่าพิธีการ ..
เช่นเดียวกับการจัดครั้งแรก คือเอาการเป็นเจ้าภาพมาสร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศ และครั้งนั้นก็คือ การปรับปรุงและยกระดับระบบคมนาคม โดยทำแบบทั้งประเทศ..
ไม่ว่าจะเป็นถนน สนามบิน ท่าเรือ หรือทางรถไฟ ซึ่งระดับการปรับปรุงและยกระดับการเดินทาง ๆ รถไฟ มีการนำรถไฟความเร็วสูงออกมาให้บริการ ซึ่งเป็นครั้งแรกในโลก ..
สร้างความตระหนักรู้ให้ชาวโลกที่ต่างรู้ญี่ปุ่นฟื้นตัวเร็วมาก จากประเทศยับเยินจากภัยสงคราม 19 ปีก่อน ขึ้นสู่ประเทศอุตสาหกรรมหน้าใหม่ที่ยิ่งใหญ่ มีสินค้าวางขายทั่วโลก .
ทั้งชิ้นใหญ่ชิ้นเล็ก ซึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ วิทยุทรานซิสเตอร์กับเครื่องรับโทรทัศน์ ซึ่งเป็นสินค้าใหม่ในยุคนั้น.
การให้ความสำคัญแก่สาระหมายถึงญี่ปุ่นจะไม่ทำเหมือนทุกประเทศ ๆ ที่เวลาทำงานใหญ่จะตั้งคณะกรรมการเป็นสิบ ๆ คณะ เชื่อมโยงหน่วยงานและองค์กรอีกเป็นสิบเป็นร้อย..
ทำแบบนี้ไม่ใช่ญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นจะดูก่อนงานที่จะทำมีสาระอะไรบ้างที่สามารถนำมาสร้่างประโยชน์ อย่างการจัดโอลิมปิกส์ครั้งล่า แทนที่ญี่ปุ่นจะตั้งคณะกรรมการเพื่อสร้างสรรค์มาสคอท หรือตุ๊กตาสัญญลักษณ์…
กลับใช้วิธีระดมความเห็นเยาวชน ให้เยาวชนส่งความเห็นอะไรควรเป็นมาสคอทของโอลิมปิกส์ครั้งนี้ ทำเช่นนี้เพื่อดึงเยาวชนให้สนใจกีฬาและการออกกำลังกาย เพื่อกีฬาจะได้เป็นกิจกรรมทำรายได้ให้ประเทศมากขึ้น
และเยาวชนจะได้มีร่างกายแข็งแรง พร้อมที่จะทำงานรับสถานการณ์การเป็นประเทศคนสูงวัยของญี่ปุ่น จนการมีคนสูงวัยล้นประเทศไม่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ..
และในที่สุดประเทศผู้จัดก็ได้ตัวการ์ตูนจากหนังสือและภาพยนตร์การ์ตูนญี่ปุ่นเป็นมาสคอท หนังสือและภาพยนตร์ที่มีคนอ่านและชมทั่วโลก
ดังนั้นจึงช่วยยกระดับความแพร่หลายให้สูงขึ้นอีก..
เอาละ คงเยิ่นเย้อถ้าจะดูสาระมหกรรมกีฬายิ่งใหญ่ครั้งนี้ มาดู Top Moments หรือช่วงเวลาสุดยอดของมหกรรม ช่วงเวลาแบบนี้มีหลายสิบแล้วแต่สื่อ แต่สำหรับสื่อไทยอยากพูดถึงที่เกิดจากนักกีฬาไทย..
ซึ่งก็ได้สร้างช่วงเวลาสุดยอดไว้เช่นกัน นั่นคือ กรณีของเรืออากาศตรีหญิงพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือ”น้องเทนนิส” นักกีฬาเทควันโด ที่ได้ใช้ 7 วินาทีสุดท้ายเพื่อสร้างชัยชนะให้ตัวเอง. ..
(https://today.line.me/th/v2/article/aJLl5p?imageSlideIndex=4)
ในการแข่งกับเอเดรียนา อิเกลเซียส คู่ปรับชาวสเปน สุดยอดนักกีฬาจริง ๆ หญิงวัย 24 ปีคนนี้เพราะตระหนักถึงความสำคัญของช่วงเวลาสุดท้ายของการแข่ง ซึ่งเป็นช่วงที่นักกีฬาเก่งต้องทำ..
ทั้งการเตรียมรับชั้นเชิงช่วงเวลานี้ของคู่แข่ง กับเตรียมหาทางใช้ประโยชน์ เลิศ ๆ จริง ส่วนคู่ปรับที่แพ้น่าจะเป็นนักกีฬาไม่เก่ง ไม่รู้พลาดหรือเปล่า ที่ไม่ได้เตรียมรับลูกเตะจากคู่ต่อสู้วินาทีสุดท้าย..
ลูกเตะที่เรียกเสียงเฮจากคนชมทั้งทางออนไลน์และทางโทรทัศน์ทั่วโลก ไม่เฉพาะไทย เพราะต่างทราบดีนี่เป็นจุดที่จะทำให้เธอชนะและได้รับเหรียญทอง Top Moment ต้องสร้างความสุขให้คนดู…
ซึ่งครั้งนี้คนดูต่างได้รับความสุขถ้วนหน้า ต่อจากนั้นยังมีช่วงเวลาสุดยอดฝีมือนักกีฬาไทยอีก เมื่อรัชนก “น้องเมย์” พร้อมไต้ จื่อ อิง คู่ปรับชาวไต้หวัน นอนแผ่กลางสนาม ..
(https://today.line.me/th/v2/article/aJLl5p?imageSlideIndex=13)
ทั้งคู่ดวลลูกขนไก่สุดดุเดือดในรอบ 8 คนสุดท้าย ในที่สุดนักแบ็ดไทยแพ้ไม่ได้เข้าไปชิงเหรียญทองตามที่หวัง การเล่นของเธอได้ใจคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะช่วงสุดท้าย ..
และมีการคาดการณ์ภาพทั้งสองนอนแผ่อาจจะได้เป็นภาพประวัติศาสตร์กีฬา ที่จะมีการรำลึกถึงตลอดกาล…
สุดท้ายคือ กรณีของ “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักมวยหญิงรุ่น 60 กก. ที่พ่ายคู่แข่งเคลลี่ แฮร์ริงตัน ในรอบชิงเหรียญเงิน ซึ่งหลังจากนั้นนักชกหญิงชาวไอร์แลนด์คนนี้ก็เรียกผู้เข้าชิงเหรียญทุกคน..
ทั้งเหรียญทองเหรียญเงินกับเหรียญทองแดง ซึ่งสำหรับเหรียญสุดท้ายมีผู้เข้าชิง 2 คน ให้ขึ้นไปยืนบนแท่นรับรางวัลพร้อมกับเธอ และหลังจากนั้นผู้ที่ขี้นไปยืนต่างก็สวมกอดกันและกัน..
ภาพที่เห็นคือ จิตวิญญานของการแข่งโอลิมปิกส์ ที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความสมานสามัคคีแก่มวลมนุษย์ และนักชกชาวไอร์แลนด์ได้ทำให้เห็น จนผู้ที่รู้จิตวิญญานโอลิมปิกส์ต่างน้ำตาไหลเมื่อเห็นภาพ ..
หวังว่า ต่อ ๆ ไปทุกครั้งที่มีการแข่งโอลิมปิกส์ นักกีฬาไทยจะได้สร้าง Top Moment ให้เกิดขึ้นอีก รวมทั้งเกิดหลาย ๆ ครั้ง