พม. มอบโล่เกียรติคุณแก่ผู้เกษียณอายุราชการ ปี 2564
วันนี้ (30 ก.ย. 64) เวลา 10.30 น. ณ ห้องรับรองชั้น 9 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กทม. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีมอบโล่เกียรติคุณและของที่ระลึกแก่ผู้เกษียณอายุราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประจำปี พ.ศ. 2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ มีผู้เกษียณจำนวนทั้งสิ้น 245 คน รวมทั้งผู้บริหารระดับสูง ได้แก่ 1) นายสุทธิ จันทรวงษ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ 2) นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน 3) นางเทพวัลย์ ภรณวลัย ผู้ตรวจราชการกระทรวง พม. 4) นางสาววิจิตา รชตะนันทิกุล ที่ปรึกษาวิชาการพัฒนาสังคม 5) นายสุพล บริสุทธิ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และ 6) นายกฤช โกญจนาท ผู้ช่วยผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ
นายจุติ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรภาครัฐ ทั้งข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และลูกจ้างประจำ ซึ่งเป็นบุคลากรที่เป็นกำลังสำคัญของชาติ เพราะความสำเร็จในการบริหารงานทั้งหลายเกิดจากบุคลากรภาครัฐอันเป็นกลไกสำคัญ และความสำเร็จที่เกิดขึ้นย่อมหมายถึงความสำเร็จในการบริหารประเทศในการสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่สังคม และความผาสุกร่มเย็นของพี่น้องประชาชน สำหรับการเกษียณอายุเป็นวิถีของทางราชการ ตลอดระยะเวลาที่ทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ราชการมาอย่างยาวนานนั้น นับได้ว่าทุกท่านมีความวิริยะอุตสาหะ เป็นผู้อุทิศตนและเวลาแก่ทางราชการเป็นอย่างยิ่ง อันนำมาซึ่งประโยชน์โดยรวมของทางราชการ ประชาชน และประเทศชาติ ทั้งนี้ ขอให้ทุกท่านพึงระลึกว่า การรับราชการจนครบการเกษียณอายุเป็นความภาคภูมิใจและแบบอย่างที่ดีงาม
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า ตนเชื่อว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้จากพวกท่านคือ จิตวิญญาณในการช่วยเหลือประชาชน ได้ทบทวนและเห็นถึงงานของราชการที่มีประโยชน์ต่อประเทศอย่างยิ่ง ซึ่งสิ่งที่ข้าราชการกระทรวง พม. สร้างไว้ ไม่มีวันจบ เพราะเป็นการสร้างคนหนึ่งชีวิตที่ยาวนาน ตนขอขอบคุณทุกคนสำหรับทุกหยาดเหงื่อ ความอดทน และความปรารถนาดี เชื่อว่าพี่น้องชาว พม. ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ยังคงเป็นชาว พม. เมื่อท่านเกษียณอายุ เป็นเพียงการอำลาแค่ตำแหน่ง แต่ตนเชื่อว่าจิตวิญญาณของท่านยังคงอยู่ ต้องช่วยเหลือ ดูแล และแนะนำสังคมที่ท่านได้สร้างไว้กับมือมากว่าครึ่งชีวิตของตนเอง เพราะทุกคนมีอุดมการณ์จิตใจเดียวกัน ถึงแม้ว่าสังคมปัจจุบันจะมีความซับซ้อน มีวิกฤติ และความขัดแย้งมากขึ้น
สุดท้ายนี้ ตนต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ทิ้งสิ่งดีๆไว้กับกระทรวง พม. และหวังว่าชีวิตหลังเกษียณของทุกท่าน จะเป็นชีวิตที่มีความสุขกาย สุขใจ อีกทั้งขอถือโอกาสนี้ อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกทั้งหลายที่ทุกท่านนับถือ ได้โปรดดลบันดาลประทานพรให้ทุกท่าน ประสพแต่ความสุข ศิริสวัสดิ์พิพัฒน์มงคล และมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ แข็งแรงตลอดไป