ภาคประชาชน ติงโรดแมปแก้ปัญหาสลากแพง แรงไม่พอ ดึงราคาไม่ลง ระวังล้มเหลวซ้ำ

ภาคประชาชน ติงโรดแมปแก้ปัญหาสลากแพง กล้าๆกลัวๆหน่อมแน้ม แรงไม่พอ ดึงราคาไม่ลง ระวังล้มเหลวซ้ำ

นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวถึงกรณีบอร์ดสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประกาศโรดแมปแก้ปัญหาสลากเกินราคา 80 บาทแบบครบวงจร ว่า มาตรการดังกล่าวมีจุดที่น่าตั้งข้อสังเกตหลายประการ คือ 1.การเพิ่มจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท GLO official เป็น 1,000 ราย ไม่น่าจะมีน้ำหนักพอ จะทำให้ราคาสลากทั้งตลาดลงมาสู่ 80 บาทได้ เพราะจุดจำหน่ายสลาก 80 บาทเพียง 1,000 ราย เทียบกับอีกแสนกว่ารายที่ส่วนใหญ่ขายเกินราคา คิดเป็นไม่ถึง 1% ของผู้ขายทั้งหมด โดยแต่ละรายจะได้ 25 เล่ม รวมทั้งหมดแล้วเท่ากับ 2.5 ล้านใบหรือ 2.5% ที่ขาย 80 บาทจากสลากทั้งหมด 100 ล้านใบ ปริมาณจุดขายเพียงไม่ถึง1% และจำนวนสลากเพียง 2.5% นี้ไม่น่าจะมีน้ำหนักมากพอจะไปทำให้ราคาสลากทั้งตลาดมาอยู่ที่ 80 บาทได้ ที่น่าจับตาคือ จะมั่นใจได้อย่างไรว่าสลากเหล่านี้จะไม่ถูกซื้อเพื่อนำไปขายต่อในตลาดที่ยังรับซื้อสลากกันในราคาที่แพงกว่า 80 บาท การตั้งเงื่อนไขว่าต้องซื้อผ่านแอพเป๋าตังค์หรือถุงเงินเท่านั้น และซื้อได้คนละไม่เกิน 20 ใบต่องวด โดยต้องมีการยืนยันตัวตนของผู้ขายระหว่างทาง จะมีประสิทธิภาพจริงหรือเปล่า?

2.การเพิ่มผู้ค้าสลากจองซื้อเป็นสองแสนราย เป็นการทำแบบครึ่งๆ กลางๆ กล้าๆ กลัวๆ แทบไม่ช่วยอะไร เพราะ จะตรวจสอบได้อย่างไรว่าสองแสนคนนี้เป็นผู้ขายสลากตัวจริง ไม่ใช่นอมินีของปั๊วและไม่ใช่คนนอกที่มาแย่งกดจองแล้วนำสลากไปขายต่อปั๊ว และถ้าไม่หาทางทำให้ผู้ค้าสลากเข้าสู่ระบบคู่สัญญากับสนง.สลากทั้งหมด ที่จะทำให้สนง.สามารถควบคุมพวกเขาได้ และยังปล่อยให้เกิดภาวะ “ใครใคร่ค้าสลากก็ค้าได้” โดยยังสามารถไปหาซื้อสลากจากตลาดค้าส่งได้ ก็จะยังมีผู้ค้านอกระบบที่ต้องไปอยู่ภายใต้อิทธิพลของปั๊วเติมเข้ามาในตลาดอยู่เรื่อยๆ และทำให้การขายสลากเกินราคาก็ยังคงดำเนินต่อไปเหมือนเดิม
อีกข้อสังเกตคือ การแก้ปัญหาที่ผ่านมาแทบทุกครั้งมักจะไม่ไปแตะที่สลากโควตา 30 ล้านใบ ซึ่งถูกสันนิษฐานกันว่ามีสายสัมพันธ์กับปั๊ว แต่จะมาแตะเฉพาะสลากซื้อจอง70 ล้านใบเท่านั้น นี่เป็นอีกเรื่องที่ควรทำคือ การล้างไพ่ใหม่ทั้งหมด แล้วให้ผู้ค้าในระบบโควตาเข้าสู่ระบบทะเบียนเช่นเดียวกัน ซึ่งเท่ากับเป็นการรีเซ็ต(Reset)ระบบใหม่ เรื่องนี้สนง.สลากทำโดยลำพังคงยาก เพราะบารมีไม่พอ ต้องรัฐบาลหนุนเท่านั้นจึงจะทำได้
3.การเปิดแพลตฟอร์มขายสลากทางออนไลน์ ถ้าหน่อมแน้มก็แก้ปัญหาไม่ได้ ด้วยมาตรการที่ประกาศออกมายังไม่ชัดเจนว่า จำนวนสลากที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในระบบนี้มีจำนวนเท่าไร ถ้าจำนวนไม่มาก เช่น 5-10 ล้านใบ ก็ไม่น่าจะมีน้ำหนักมากพอที่จะดึงราคาสลากทั้งตลาดลงมาได้ และถ้าสลากโดยส่วนใหญ่ยังขายราคาแพงอยู่ จะมีผู้ค้าสักกี่รายที่สนใจจะเอาสลากมาเข้าระบบนี้เพราะขายแบบเดิมกำไรดีกว่า ทำไปทำมามาตรการนี้น่าจะเป็นเพียงมาตรการพิฆาตพวกดอทคอมเท่านั้น แต่ไม่แรงพอจะทำให้สลากทั้งตลาดราคาลดลงมาได้
“การประกาศโรดแมปครั้งนี้ยังมาจอดอยู่แค่กลางทาง ไม่เห็นภาพที่ชัดเจนว่าสุดท้ายปลายทางจะเกิดอะไร และมองไม่เห็นรูปขบวนความสัมพันธ์ของมาตรการที่ 1 2 และ 3 ว่าจะประกอบร่างกลายเป็นอะไร จะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีออนไลน์ โดยไม่ต้องไขว้เขวไปหาการออกสลากชนิดใหม่ได้อย่างไร ดูโดยรวมแล้วโอกาสที่จะแก้ปัญหาไม่ได้ยังมีอยู่สูง” นายธนากร กล่าว