พาณิชย์-DITP ดึง แพลตฟอร์มดัง เจรจาธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ครั้งแรกในไทย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเวทีเจรจาธุรกิจภาพยนตร์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในโครงการ Content Pitching ธุรกิจภาพยนตร์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ดึง OTT TV แพลตฟอร์มชื่อดัง อาทิ Netflix, WeTV, iQiyi และ VIU เจรจาการค้ากับผู้ผลิตคอนเทนต์ไทย หวังปั้นไทยให้เป็น Hub ของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ในภูมิภาคเอเชีย
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากนโยบายกระทรวงพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่จะผลักดันให้ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ตามแนวคิด Creative Economy และส่งเสริมให้ไทยเป็น Hub ของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ซึ่งเป็น 1 ใน 14 แผนงานสำคัญของกระทรวงด้านการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยได้มอบหมายให้กรมดำเนินโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีมูลค่ารวมกว่า 209,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นมูลค่าด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์กว่า 153,000 ล้านบาท และด้านธุรกิจให้บริการชมภาพยนตร์ผ่านทางออนไลน์ 36,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า ภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย
“รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องนำแนวคิด Digital Soft Power ซึ่งสื่อให้เห็นถึงศิลปะ วัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว และการดำรงชีวิตแบบไทยที่สวยงาม มาใช้ในการดำเนินโครงการเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในกลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกล่าว
เพื่อขานรับนโยบายดังกล่าว กรมจึงได้กำหนดดำเนินโครงการ Content Pitching ธุรกิจภาพยนตร์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง โดยเชิญผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพจำนวน 15 ราย เข้าร่วมเจรจาการค้าและนำเสนอผลงาน (Pitching) ที่โดดเด่นกับผู้แทน OTT TV แพลตฟอร์มชื่อดัง อาทิ Netflix, WeTV, iQiyi และ VIU กำหนดจัดในวันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม 2565 ณ The Great Room เกษร ทาวเวอร์ ซึ่งคาดว่าจะเกิดมูลค่าเจรจาการค้ากว่า 300 ล้านบาท และหนุนให้อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมดาวเด่นที่มีศักยภาพส่งออกสูง ได้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 10% ต่อปีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการไทยและต่างชาติได้พบปะเจรจาการค้า ซึ่งนอกจากจะเกิดการพัฒนาต่อยอดไปสู่การผลิตและเผยแพร่ผลงานที่มีคุณภาพของผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างยั่งยืนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สินค้าอาหาร สินค้าท้องถิ่น การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมไทยผ่านผลงานดิจิทัลคอนเทนต์ของผู้ประกอบการ