Silver Voyage Club จับมือ High Flyer Asia ขยายบริการดูแลมหาเศรษฐีทั่วเอเชีย




เมื่อวันที่31 มีนาคม High Flyer Asiaนำโดย Mr Steve Wee CEO High Flyer Asiaจัดงาน “House of High Flyer Asia 2022”เพื่อส่งเสริมให้เหล่าสมาชิกทั่วเอเชียได้ทำความรู้จักและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน โดยมีแขกผู้ทรงเกียรติเข้าร่วมงาน มากมาย อาทิ เอกอัครราชทูต ชัยณรงค์ กีรติยุตวงศ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศมาเลเซีย และ YM Tengku Dato Hishammuddin Zaizi bin YAM Tengku Azman Shah Alhaj หนึ่งในสมาชิกของราชวงค์ Selangor

นอกจากนี้ภายในงานยังมีแขกรับเชิญพิเศษที่เข้าร่วมงานอีกมากมาย เช่น Datin Winnie Loo, the President of Branding Association of Malaysia and founder of A Cut Above, Dato Seri Garry Chua, Immediate Past President of MRCA, and Datuk Michael Kang – National President of the SME Association of Malaysia.
ในงานมีการประกาศเปิดตัวโปรเจคสุดพิเศษของ High Flyer Asia ที่จะบุกและขยายตลาดเอเชียโดยมีการเตรียมการจัดงานใหญ่หลายงานที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย อาทิ HFA100 โครงการ Movie World และ the High Flyer Asia NFT.

โดยงานนี้ได้มีการลงนามในข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ระหว่าง นายจักรพันธ์ รัตนเพชร ประธานกรรมการบริหารบริษัท เวิรด์ รีวอร์ด โซลูชั่น จำกัดและผู้ก่อตั้งบริษัทเจ้าของแบรนด์ Silver Voyage Club และ Mr Steve Wee ประธานกรรมการบริหารของ High Flyer Asia

โดยตัวแทนทั้งสองได้ตกลงที่จะร่วมมือกันในการเปิดตลาดการสร้างเน็ตเวิร์คหรือเครือข่ายของนักธุรกิจระดับแถวหน้าของเอเชียและการเชื่อมความสัมพันธ์ของสมาชิกในกลุ่มมหาเศรษฐีทั่วเอเชียเข้าด้วยกัน โดยแผนในปี 2565 นี้จะเริ่มในกลุ่มประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย กัมพูชา ฮ่องกง และเวียดนาม และ ตั้งเป้า 40 ประเทศภายในปี 2566