อว.จัดประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี อัพเดตผลงาน 3 ปี
อว. จัดประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ครั้งที่ 4/2565 อัพเดตผลงานที่ผ่านมา 3 ปี ด้าน “ดร.ดนุช” ลั่น อว. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจทุกอย่างเต็มที่และพร้อมสนับสนุนทุกกระทรวง
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดการประชุมและกล่าวต้อนรับคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 4/2565 โดยมี ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง อว. เป็นประธานในการประชุมดังกล่าว เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้ทราบถึงผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและการขับเคลื่อนภารกิจต่างๆ ของ อว. และการร่วมมือกันบริหารจัดการและให้การสนับสนุนกันในแต่ละกระทรวง งานดังกล่าวจัดขึ้นที่อาคารอุดมศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง อว. (ถนนศรีอยุธยา)
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. กล่าวว่า คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีทุกท่านคือคนสำคัญ ที่ช่วยติดตามและผลักดันนโยบายต่างๆ จากรัฐมนตรีให้ขับเคลื่อนต่อไปได้สอดรับกับนโยบายจากรัฐบาลและยุทธศาสตร์ชาติให้บรรลุผลสำเร็จ การหารือร่วมกันจะทำให้มีความเข้าใจในทิศทางการบริหารที่ตรงกัน ทราบแนวทางและแลกเปลี่ยนการดำเนินงานที่หลากหลายมากขึ้น โดย อว. มีผลการดำเนินงานที่ผ่านมาตามนโยบายรัฐบาลและขับเคลื่อนภารกิจต่างๆ เช่น การจัดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) โครงการบัณฑิตพันธุ์ใหม่ การขับเคลื่อนภารกิจการวิจัยแห่งชาติ BCG โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และยังมีอีกหลากหลายโครงการที่ อว. ได้ทำในช่วงสถานการณ์ Covid-19 ที่ผ่านมา ขอให้มีการจัดประชุมเช่นนี้ต่อไปเพื่อหารือกันอย่างต่อเนื่อง ตนมั่นใจว่าการขับเคลื่อนภารกิจต่างๆ ในแต่ละกระทรวงจะดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างแน่นอน
ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง อว. ประธานที่ประชุม กล่าวเพิ่มเติมว่า การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คืองานหลักของกระทรวง อว. ซึ่งได้จัดตั้งหน่วยงานที่คอยประสานงานและดำเนินการในแต่ละภูมิภาคและจังหวัดต่างๆ ผ่านสถาบันอุดมศึกษา มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยชุมชน โดยใช้ชื่อว่า “อว.ส่วนหน้า” ทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ จากส่วนกลางสู่พื้นที่ชุมชน ตามนโยบายของทางรัฐบาลผ่านโครงการสำคัญต่างๆ ของกระทรวง อว. ที่รัฐมนตรีได้กล่าวข้างต้นและสอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกมากมาย ชัดเจนแล้วว่าพลังของ อว.ส่วนหน้า สำคัญแค่ไหน จากสถานการณ์ Covid-19 ที่ผ่านมา นอกจากภารกิจหลักด้านการศึกษาที่ทำอย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยและหน่วยงานในกำกับของ อว. ยังเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดตั้ง รพ.สนาม ศูนย์พักคอย ศูนย์ฉีดวัคซีน อีกทั้งนักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาและด้านการแพทย์เข้ามาช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ ตนขอให้ทุกกระทรวงมั่นใจว่า อว. พร้อมดำเนินงานหลักต่อไปรวมถึงให้การสนับสนุนทุกกระทรวงอย่างเต็มที่ในอนาคต
ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีดังกล่าว อว. ได้นำเสนอผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและการขับเคลื่อนภารกิจที่สำคัญของกระทรวง ประกอบด้วย 5 เรื่อง ได้แก่ 1) โครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย (Reinventing University) ซึ่งเป็นเรื่องการจัดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา 2) โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) หรือ U2T 3) โครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ เพื่อสร้างกำลังคนที่มีสมรรถนะ ที่สามารถตอบโจทย์ภาคการผลิตตามนโยบายการปฏิรูปการอุดมศึกษาไทย (ปี 2561-2564)
4) วช. กับการขับเคลื่อนการวิจัยของชาติ ซึ่งมีหน้าที่หลัก ๆ เช่น การให้ทุนวิจัยและนวัตกรรม การจัดทำฐานข้อมูลและดัชนีด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ การส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้เพื่อใช้ประโยชน์ เป็นต้น และ 5) BCG โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดย สวทช. ได้นำเสนอแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. 2564 – 2570 ซึ่งมี 13 มาตรการขับเคลื่อนประเทศไทย เช่น มาตรการปรับระบบการเกษตรสู่ประสิทธิภาพสูง มาตรฐานสูง และมูลค่าสูง มาตรการสร้างตลาดเพื่อรองรับนวัตกรรมของสินค้าและบริการ BCG มาตรการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ BCG เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ อว. ขอรับการสนับสนุนและขอความร่วมมือจากกระทรวงต่าง ๆ ในเรื่องการเชื่อมโยงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของชุมชน (Thailand Community Big Data: TCD) ซึ่งระบบโมเดลข้อมูลที่ได้ จะนำไปใช้วิเคราะห์ถึงประสิทธิภาพและศักยภาพของชุมชน ให้ทุกภาคส่วน รวมถึงชุมชน เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลชุมชนที่ได้จัดแล้วนำไปวิเคราะห์เพื่อการวางแผนพัฒนาพื้นที่ต่อไป