“หอยบุษราคัม”ชนิดใหม่โลก
พร้อมต่อยอดด้านความงาม
คณะวิทย์ฯ จุฬาฯ ร่วม สกว. สร้างความฮือฮาแก่วงการวิจัยและความงามเมื่อเปิดตัว“หอยต้นไม้ชนิดใหม่ของโลก” สมเด็จพระเทพฯ พระราชทานชื่อ “หอยบุษราคัม” จ.นครศรีธรรมราช เมือกมีสารเป็นประโยชน์สามารถนำมาเพิ่มมูลค่าสู่อุตสาหกรรมความงามได้ นำมาทำผลิตภัณฑ์เซรั่มลดริ้วรอย ช่วยผิวขาวใส ส่วนอีกชนิดที่พบ “หอยนกเหลืองแม่สอด” จ.ตาก ทั้งสองชนดเสมือนตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของผืนป่า
คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สำนักกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เปิดตัว “หอยต้นไม้ชนิดใหม่ของโลก” สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานชื่อ “หอยบุษราคัม” พร้อมเปิดผลการค้นพบหอยทากสวยงามอีก 1 ชนิด โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ หารหนองบัว คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ ปัญหา อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยซิสเทมาติกส์ของสัตว์ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ร่วมแถลง ณ โรงแรมสุโกศล กรุงเทพฯ
จากการศึกษาความหลากหลายของสปีชีส์หอยทากบกในประเทศไทยเป็นเวลากว่า 30 ปี ของคณะนักวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดย ศาสตราจารย์ ดร. สมศักดิ์ ปัญหา ได้ประมาณการว่ามีหอยทากบกในประเทศไทยทั้งสิ้น 1,000-1,500 ชนิด และยังค้นพบหอยทากชนิดใหม่ของโลกประมาณ 100 ชนิด ซึ่งหลายชนิดมีความโดดเด่น เช่น หอยทากจิ๋วที่มีรูปร่างหลากหลายแปลกตา และหอยนักล่าที่มีลำตัวสีสดใส รวมถึงหอยต้นไม้ที่มีสีสันสวยงาม จนได้รับการขนานนามว่า “อัญมณีแห่งพงไพร” โดยล่าสุดได้ค้นพบหอยต้นไม้สวยงามชนิดใหม่ของโลก 2 ชนิด ชนิดแรกพบที่เกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองทัพเรือและกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และได้รับพระราชทานชื่อหอยว่า “หอยบุษราคัม” ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Amphidromus principalis Sutcharit & Panha, 2015 (แอมฟิโดรมัส พรินซิพาลิส) จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
“จากลักษณะของเปลือกที่มีสีเหลืองแวววาว เปรียบดั่งพลอยบุษราคัมล้ำค่า เป็นทรัพยากรสำคัญและมีมูลค่าแก่การอนุรักษ์บนผืนป่าในหมู่เกาะแห่งท้องทะเลไทย หอยบุษราคัมมีเปลือกสีเหลืองแวววาว มีสีลำตัวสีขาวนวลอาศัยอยู่บนต้นไม้ในป่าดิบชื้นตามเกาะในอ่าวไทย บริโภคสาหร่ายและไลเคนบนผิวต้นไม้ ดำรงชีวิตบนต้นไม้ตลอดชีวิต มีเปลือกเวียนทางด้านซ้ายทุกตัวทั้งประชากร ศัตรูธรรมชาติ คือนกหลายชนิดและหนู มีการผลิตเมือกจากเท้าและแมนเทิลที่ทำสีขาวใส ช่วยเคลือบผิวลำตัวให้ขาวมันแวววาว มีสารที่เป็นประโยชน์ต่อการบำรุงผิวพรรณที่ละเอียดอ่อน มีศักยภาพไปสู่อุตสาหกรรมเวชสำอางได้อีกด้วย ทั้งนี้ ความหมายภาษาละตินคำว่า “principalis” มีความหมายว่า “of the princess” อันหมายถึงองค์สมเด็จพระเทพฯ ซึ่งพระองค์ทรงเป็นองค์ประธานแห่งโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ด้วย” ศ.ดร.สมศักดิ์กล่าว
ส่วนหอยชนิดที่สองที่ค้นพบใหม่คือ หอยต้นไม้ชนิด “หอยนกเหลืองแม่สอด” หรือหอยนกขมิ้นขอบวงน้ำตาล Amphidromus globonevilli Sutcharit & Panha, 2015 (แอมฟิโดรมัส โกลโบเนวิลไล) จากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หอยชนิดนี้อาศัยเฉพาะถิ่นบนต้นไม้ตลอดชีวิต เปลือกมีสีเหลือง มีแถบสีน้ำตาลอยู่ตามรอยเวียนของเปลือกรองสุดท้ายและวงสุดท้าย ลำตัวมีสีน้ำตาลอ่อน
“หอยทั้งสองชนิดใหม่ที่ค้นพบนี้นับเป็นทรัพยากรชีวภาพที่ใช้เป็นดัชนีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ และได้เห็นธรรมชาติของหอยอันเป็นปรากฏการณ์ที่นำไปสู่การนำหอยมาเป็นดัชนีการอนุรักษ์ป่า การนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ และสร้างมูลค่าเพิ่มสู่อุตสาหกรรมความงามได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นพบในครั้งนี้ทำให้ “หอยบุษราคัม” กลายเป็นทรัพยากรทางพันธุกรรมที่สำคัญและนำไปสู่การอนุรักษ์ระบบนิเวศป่าอันจำเพาะ การค้นพบครั้งนี้ได้รับตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติ “ZooKeys 2015” อันเป็นการเผยแพร่ข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทยแก่สาธารณชน และสร้างความตระหนักให้แก่คนไทยให้เห็นความสำคัญและช่วยกันอนุรักษ์ดูแล”
ทั้งนี้คณะวิจัยได้ร่วมกับผู้ประกอบการในการนำเมือกหอยทากมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เซรั่มลดริ้วรอยและช่วยให้ผิวสดใสขาวเนียน เต่งกระชับ นุ่มชุ่มชื้น ด้วยส่วนผสมที่เข้มข้นมากกว่าผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดถึง 30 เท่า ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่ www.siamsnail.com และมีเป้าหมายในการสร้างฟาร์มหอยทากครบวงจรที่เลี้ยงกึ่งธรรมชาติแห่งแรกของโลกแถวสุวรรณภูมิ โดยมีแหล่งเก็บพันธุกรรมที่สระบุรี ขณะที่ผู้อำนวยการ สกว. กล่าว่า งานวิจัยนี้นับเป็นตัวอย่างที่ดีของการนำผลงานวิจัยวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานไปต่อยอดใช้ประโยชน์ทางธุรกิจจนได้ผลิตภัณฑ์ความงามที่มีคุณภาพดีเพียงพอที่จะจัดจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ