เปิด “iPhone 6s- 6s Plus”
เพิ่มสีRose Goldขาย25ก.ย.
“Apple” ยักษ์ใหญ่ไอทีของสหรัฐอเมริกาเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในวันที่ 9 เดือน 9 ตามเวลาท้องถิ่น ได้แก่ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus โดยมี 2 ขนาดเหมือนเดิม มี 4 สี คือ ขาว ดำ ทอง โดยเพิ่มสี ชมพูกุหลาบ (Rose Gold) สวยงามมาใหม่ กำหนดวันวางจำหน่ายจะเริ่มในตลาดต่างประเทศก่อน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2558 นี้เป็นต้นไป แต่ในไทยยังต้องอดใจรอกันอีกหน่อย
“Apple” จัดงานใหญ่ในวันที่ 9 กันยายน ที่อาคาร บิล เกรแฮม ซิวิค ออดิโทเรียม ในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียและได้เปิดตัว iPhone 6s และ 6s Plus อย่างเป็นทางการ โดยยังคงขนาดเท่ารุ่นแรก คือ 4.7 และ 5.5 นิ้ว โดยมาพร้อมการทำงานเด่นหลายอย่าง มาดูสเปคของเครื่องทั้ง 2 รุ่นนี้กัน
สเปค iPhone 6s
-ขนาดตัวเครื่อง 138.3×67.1×7.1 มิลลิเมตร และน้ำหนักตัวเครื่อง 143 กรัม
– ใช้วัสดุอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 ที่มีความแข็งแรงมากขึ้น
–หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล (326ppi)
-หน้าจอยังมาพร้อมเทคโนโลยี 3D Touch ซึ่ง เป็นเทคโนโลยีที่ต่อยอดมาจาก Forch Touch ของ Apple Watch สามารถใช้เป็นทางลัดเข้าแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วยแรงกดที่แตกต่างหรือเพียงแตะที่ไอคอนแอพฯเท่านั้น
– CPU Apple A9 64-bit มีความเร็วเพิ่มขึ้น 70%
– แสดงผลกราฟฟิกดีขึ้น 90%
– Touch ID เวอร์ชั่น 2
– กล้องหลัง iSight ใหม่ 12 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอระดับ 4K
– กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อมเทคนิค Retina Flash รองรับการถ่ายภาพในโหมด Live Photos และ Face Time ความละเอียดสูง
สเปค iPhone 6s Plus
– หน้าจอ 5.5 นิ้ว มาพร้อมเทคโนโลยี 3D Touch เหมือนกัน
– CPU Apple A9 64-bit เร็วกว่าไอโฟนปัจจุบัน 70%
– แสดงผลกราฟฟิกดีขึ้น 90%
– Touch ID เวอร์ชั่น 2
– กล้องหลัง iSight ใหม่ 12 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K
– กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อมเทคนิค Retina Flash ที่ช่วยถ่ายภาพในที่มีแสงน้อยได้ Face Time ความละเอียดสูง
สำหรับสนนราคาของเครื่อง iPhone 6s และ 6s Plus เริ่มต้นตามความจำภายใน 16GB, 64GB และ 128GB ไม่มีรุ่น 32GB โดยมีราคา $199, $299 และ $399 สำหรับ iPhone 6s และ $299, $399 และ $499 สำหรับ iPhone 6s Plus ตามลำดับ
กำหนดวันวางจำหน่ายจะเริ่มในตลาดต่างประเทศก่อน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2558 นี้เป็นต้นไป ใน 12 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, นิวซีแลนด์, เปอโตริโก, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา สำหรับประเทศไทยต้องรอไปก่อน อีกไม่นานเกินรอคงจะได้เห็นโฉมกัน คาดว่า จะได้เห็นกันอย่างเร็วที่สุดราวช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้