ORZON Ventures ร่วมลงทุน Hungry Hub หนุนระดมทุนรอบ Series A ดันสตาร์ทอัพไทยพัฒนาอุตสาหกรรมร้านอาหาร-โรงแรม
กองทุน ORZON Ventures ภายใต้ ‘โออาร์’ ร่วมลงทุนกับ Hungry Hub บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติไทย แพลตฟอร์มจองร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำ ในรอบ Series A หนุนธุรกิจ ภายใต้กรอบ Mobility & Lifestyle เสริมศักยภาพให้ก้าวข้ามขีดจำกัดไปอีกขั้น เพื่อผลักดันการเติบโตของตลาดร้านอาหารและโรงแรมในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม 2565 กองทุน ออร์ซอนเวนเจอร์ส (ORZON Ventures) ภายใต้ โออาร์ ได้ประกาศร่วมลงทุนกับ Hungry Hub บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติไทย แพลตฟอร์มจองร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำ ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2017 ภายใต้โมเดล ‘ข้อเสนอพิเศษในการจองร้านอาหารแบบคุมงบได้’ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าร้านอาหาร และส่งเสริมให้ร้านอาหารสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันได้ให้บริการลูกค้าไปแล้วมากกว่า 2 ล้านที่นั่ง และสร้างยอดขายให้ร้านอาหารไปแล้วมากกว่า 1 พันล้านบาท หรือ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในการระดมทุนรอบ Series A – Hungry Hub ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ปตท. น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR) ด้วยการลงทุนผ่านกองทุน ออร์ซอน เวนเจอร์ส (ORZON Ventures) ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ OR ในการผลักดัน Inclusive Growth เดินหน้าสนับสนุนธุรกิจ Start-Up ไทย ที่มีจุดแข็งในด้านศักยภาพการใช้เทคโนโลยี และมีความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ให้ร่วมเติบโตไปกับธุรกิจของ OR
โดยก่อนหน้านี้ Hungry Hub ได้ระดมทุนรอบ Seed Round ในเดือนสิงหาคม 2019 จาก Expara และ 500 TukTuks (กองทุนภายใต้เครือข่าย 500 Global ในส่วนประเทศไทย) ต่อมา ได้การรับระดมทุน รอบ Pre-Series A จาก ECG Venture Capital ผู้นำด้านการลงทุน Private Equity รายใหญ่ในประเทศไทย และ MOVF Media Group ผู้นำอันดับหนึ่งด้านสื่อออนไลน์เกี่ยวกับธุรกิจอาหาร อย่างเพจ Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่, หมีมีหม้อ และ แปะโปร
Hungry Hub เป็นบริษัทสตาร์อัพสัญชาติไทย ผู้พัฒนาระบบจองร้านอาหาร ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน โดยร่วมมือกับร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำ มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์พิเศษให้ลูกค้า ทราบราคาสุทธิที่ต้องจ่ายก่อนเดินเข้าร้านอาหาร และต้องการช่วยให้ร้านอาหารมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน โดยนำเสนอดีลพิเศษให้กับผู้บริโภค เช่น ทำแพ็กเกจในร้าน A la carte ให้ทานได้แบบ All You Can Eat เป็นต้น
ปัจจุบัน Hungry Hub มีร้านอาหารเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์รวมกว่า 900 ร้านในประเทศไทย รวมถึงร่วมงานกับร้านอาหารระดับ High-end และแบรนด์โรงแรมชั้นนำ อาทิ ร้านอาหารชื่อดังอย่าง Copper Buffet, Audrey Cafe, The Coffee Club (Minor Group) และเครือโรงแรมระดับโลก Marriott, Anantara และ Banyan Tree ให้กับร้านอาหารพาร์ทเนอร์ และเพิ่มรายได้ให้กับร้านอาหาร 1 สาขา สูงสุดถึงเดือนละ 12 ล้านบาท อย่าง Copper Buffet และ เพิ่มรายได้ให้กับโรงแรม สูงสุดถึงเดือนละ 9 ล้านบาท อย่าง โรงแรม Banyan Tree Bangkok
นอกจากนี้ Hungry Hub ยังให้บริการจัดหาร้านอาหารจัดเลี้ยงและดีลพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่มบริษัท ต่อยอดโมเดลจัดเลี้ยงแบบออนไลน์ ส่งอาหารถึงบ้านพนักงาน ตอบโจทย์พฤติกรรมและข้อจำกัดในช่วงโควิด-19 ให้บริการลูกค้ากลุ่มบริษัทชั้นนำแล้ว อย่าง Line, SCB, Kbank, PTTEP และอีกมากมาย
คุณสุรสิทธิ์ สัจจเดว์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Hungry Hub เปิดเผยว่า “ในปีนี้ เรามุ่นเน้นกลุ่มร้านอาหาร Luxury Segment มากขึ้น ทั้ง Fine Dining, Omakase, Chef Table และร้านอาหาร/โรงแรม ที่มอบประสบการณ์พิเศษ พร้อมทั้งตั้งเป้าให้มีพันธมิตรร้านอาหาร 2,000 แห่ง สร้างรายได้แก่ร้านอาหาร 1 พันล้านบาทต่อปี และมีผู้ใช้งานระบบ 1 ล้านคนต่อเดือน พร้อมทั้งขยายไปสู่ต่างประเทศภายใน 1 ปีหลังจากนี้”
“เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอุตสาหกรรมร้านอาหารและโรงแรม ทั้งในด้านการตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภค การแลกเปลี่ยนเรียนรู้องค์ความรู้ระหว่างกันในอุตสาหกรรม ตลอดจนการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมร้านอาหารและโรงแรมของไทย พร้อมคัดสรรโปรโมชันที่คุ้มค่าและแปลกใหม่ มาให้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง”
คุณราชสุดา รังสิยากูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการโครงการ ORion บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า OR ได้จัดตั้งกองทุน ORZON Ventures โดยมุ่งเน้นลงทุนทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ OR และธุรกิจใหม่ภายใต้กรอบ Mobility & Lifestyle เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจและสร้างความเติบโตระยะยาว รวมทั้งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ OR ในการเติบเต็มโอกาสเพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน หรือ “Empowering All toward Inclusive Growth” และการเติบโตในรูปแบบ Outside – In Growth โดยจะใช้จุดแข็งที่ OR มีในการช่วยให้ Partners เติบโตไปพร้อม ๆ กับ OR โดย OR เล็งเห็นว่าการลงทุนกับ Hungry Hub จะสามารถช่วยเติมเต็ม Lifestyle Ecosystem ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ F&B ในระยะยาว และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในการใช้บริการร้านอาหารที่เป็นพาร์ทเนอร์ของ Hungry Hub หรือร้านอาหารที่เป็นพอร์ตฟอลิโอของ OR เอง เพื่อให้ OR สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทุกไลฟ์สไตล์