เนคเทค สวทช.จับมือ อพท. ร่วมส่งเสริมศักยภาพพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
เนคเทค สวทช.จับมือ อพท. ร่วมส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรมพร้อมใช้ และปัญญาประดิษฐ์
20 สิงหาคม 2565 : ณ โซน Beacon ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ เนคเทค สวทช. ร่วมกับ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรมพร้อมใช้และปัญญาประดิษฐ์ ชูพื้นที่นำร่อง สร้างความหลากหลายกว่า 10 จังหวัดทั่วประเทศ
ในโอกาสนี้นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) และ ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(เนคเทค สวทช.) ร่วมลงนามในครั้งนี้ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร. สิรี ชัยเสรี ผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กล่าวแสดงความยินดีกับทั้งสองหน่วยงาน
นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผอ. อพท. กล่าวว่า อพท. เชื่อเสมอว่า “ทำท่องเที่ยว เก่งคนเดียวไม่ได้” เราจึงมุ่งเน้นประสานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนให้มาร่วมกันขับเคลื่อนเดินหน้าการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนในฐานะเจ้าของทรัพยากรของการท่องเที่ยวให้มีศักยภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ อพท. เพื่อเป็นการปูทางไปสู่การสร้างประโยชน์จากการใช้นวัตกรรมมายกระดับการท่องเที่ยวในระดับชุมชน จนถึงระดับแหล่งท่องเที่ยว ไปสู่ภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาครัฐ ทั้งทางตรงและทางอ้อม นำไปสู่การต่อยอดและพัฒนา เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของชุมชนและแหล่งท่องเที่ยว โดยการนำร่องในระยะแรก อพท. และ เนคเทค ได้คัดเลือก 10 ชุมชนนำร่องซึ่งล้วนเป็นชุมชนที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่ทำงานร่วมกับ อพท. จนมีความเข้มแข็ง ซึ่งการทำงานร่วมกับ NECTEC ในครั้งนี้ช่วยส่งเสริมให้ชุมชนได้รับประโยชน์จากการบูรณาการข้อมูลทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมดิจิทัลให้สามารถเชื่อมโยงไปสู่การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ในการสื่อความหมายนำเที่ยวได้ในระยะยาว
ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า สืบเนื่องจากการดำเนินงาน “โครงการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อยกระดับและฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยหลังภาวะโควิด19” ซึ่ง เนคเทค สวทช. ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก แผนงานกลุ่มดิจิทัลแพลตฟอร์ม หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) เพื่อการพัฒนาต่อยอดแพลตฟอร์มต้นแบบที่เนคเทคพัฒนาขึ้นในชื่อว่า “นวนุรักษ์” โดยเน้นไปที่การบูรณาการข้อมูลวัฒนธรรมดิจิทัลให้สามารถเชื่อมโยงและใช้งานในรูปแบบเปิด (linked data and open data) และพัฒนาโมดูลต่างๆ เพื่อขยายแพลตฟอร์มดิจิทัลให้รองรับการนำไปใช้ประโยชน์เพื่อตอบโจทย์บริบทการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นำร่องทดลองกับพื้นที่ในการดูแล และได้รับคำแนะนำจาก อพท. จำนวน 10 พื้นที่ 10 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่
1. ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านท่าดินแดง จังหวัดพังงา
2. ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน ชุมชนบ่อสวก จังหวัดน่าน
3. ชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
4. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทยเบิ้ง บ้านโคกสลุง จังหวัดลพบุรี
5. ชุมชนท่องเที่ยวบ้านโคกเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
6. ชุมชนเมืองโบราณอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
7. ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวหนองอ้อ-ศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
8. หมู่บ้านวัฒนธรรมไทญ้อบ้านโพน จังหวัดนครพนม
9. วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านท่าระแนะ จังหวัดตราด
10. กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำมูลบ้านสุขสมบูรณ์ จังหวัดนครราชสีมา
โดยเนคเทค สวทช. ได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ เพื่อเข้ามาช่วยเป็นสื่อกลางซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการนำเทคโนโลยีจากหน่วยงานวิจัยและพัฒนาในส่วนกลางอย่าง เนคเทค ไปขยายผลถ่ายทอดสู่ชุมชนซึ่งเป็นผู้ใช้ประโยชน์จริง เนคเทคต้องขอขอบคุณ
1) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต
2) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
3) มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่
4) วิทยาลัยชุมชนน่าน
5) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร
6) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
7) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี
8) มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
เนคเทค สวทช.มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรมพร้อมใช้และปัญญาประดิษฐ์ ที่ศูนย์ฯ วิจัยและพัฒนาอย่างทุ่มเทตลอดมา ได้เข้าไปมีส่วนช่วยบูรณาการข้อมูลในการพัฒนาและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว และหวังว่าจะได้มีความร่วมมือกันพัฒนางานวิจัยใหม่ ๆ เพื่อส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ด้านรองศาสตราจารย์ ดร. สิรี ชัยเสรี ผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กล่าวว่า เทคโนโลยีในปัจจุบันมีการพัฒนา ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การพัฒนาแพลตฟอร์มระบบบริหารจัดการคลังข้อมูลดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูล เชื่อมโยงข้อมูล แสดงผลข้อมูล และการให้บริการข้อมูล สำหรับต่อยอดการนำข้อมูลจากคลังข้อมูลไปสร้างมูลค่าส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยนำร่องทดลองกับเครือข่ายที่มีความพร้อม และขยายเครือข่ายหน่วยงานให้บริการข้อมูลวัฒนธรรมดิจิทัลผ่านบริการที่พัฒนาขึ้นภายใต้โครงการนี้
การท่องเที่ยวหลังสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 น่าจะเป็นการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นภายในประเทศ เราอาจจะต้องการข้อมูลต่างๆของทางด้านวัฒนธรรม ท้องถิ่น การกินอยู่และการที่เราต้องอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมความหลากหลายทางชีวภาพ มันถูกรวบรวมค่อนข้างกระจาย ไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในเรื่องของการท่องเที่ยว อันนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ว่า ทางกลุ่มดิจิทัลมาคุยกันในเรื่องของการท่องเที่ยว และเริ่มคุยกันว่า เราควรจะมาเริ่มทดลองบริหารจัดการบางส่วนเพื่อที่จะให้ความสะดวกกับนักท่องเที่ยวในประเทศที่จะได้ไปแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ เราคิดว่าโครงการนี้จะช่วยเหลือได้