‘ชนันธร’ ประกาศลุยต่อบิ๊กโปรเจ็ค ปี 66 หลังทุบสถิติปิด 3 โครงการมูลค่า 3 พันล้าน
‘ชนันธร’ ประกาศลุยต่อบิ๊กโปรเจ็ค ปี 66 หลังทุบสถิติปิด 3 โครงการมูลค่า 3 พันล้าน
ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป ประกาศแผนปี 66 ปักธงทำเลกาญจนาฯ-พระราม 2 บุก 3 ทำเล โซนกัลปพฤกษ์-กาญจนาฯ-พระราม 2 จับตลาดกำลังซื้อสูงครอบคลุมทุกเซกเมนต์ 4-29 ล้านบาท ต่อยอดความสำเร็จในปี 65 กับผลงานปิดการขาย 3 โครงการบ้านและคอนโดมิเนียมย่านฝั่งธนฯ รวมมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท งัดกลยุทธ์การตลาดออนไลน์แบบจัดเต็มเจาะกำลังซื้อกลุ่ม GEN Y
นางสาวศรินญา เรืองปัญญาวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ชนันธร เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมเป้าหมายในการพัฒนาในทุกด้าน เพื่อก้าวขึ้นเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ สะท้อนจากผลการดำเนินงานในปี 2565 กับผลงานยอดขายเป็นมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท จาก 3 โครงการ
โดย 2 โครงการแรก ได้แก่ MOTTO กาญจนา-พระราม 2 บ้านแฝดสไตล์โมเดิร์น ทำเลติดแยกถนนกาญจนาฯ-พระราม 2 มูลค่า 1,600 ล้านบาท และ คอนโดมิเนียม PE:LA วุฒากาศ ห่างจากรถไฟฟ้า BTS วุฒากาศ เพียง 100 เมตร มูลค่า 475 ล้านบาท
ส่วนอีกโครงการ BE-MOTTO กาญจนา-พระราม 2 บ้านเดี่ยวหรู ทำเลติดแยกถนนกาญจนาฯ-พระราม 2 มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือเพียง 2 หลังสุดท้ายเท่านั้น และเตรียมปิดโครงการภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้
“ผลตอบรับจากทั้ง 3 โครงการ บ้าน และคอนโด เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อบริษัทฯ ซึ่งจะนำความสำเร็จนี้ไปพัฒนาในโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นต่อไป ซึ่งล่าสุดเริ่มเปิดขายโครงการบ้านแฝดรุ่นใหม่ สไตล์สแกนดิเนเวียน โครงการ MEWS เทียนทะเล 15 สามารถกวาดยอดขายไปอย่างถล่มทลาย ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา” นางสาวศรินญา กล่าว
เจาะตลาดออนไลน์ทัชใจกลุ่ม GEN Y
ความสำเร็จด้านยอดขายที่เกิดขึ้นได้แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 มาจากการทำงานอย่างหนักของทีมบริหารและทีมการตลาด เลือกใช้แพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพ และสื่อสารได้ตรงกลุ่ม เจาะตลาดออนไลน์ทัชใจกลุ่ม GEN Y : กลยุทธิ์ให้คนนึกถึง BRAND Chanuntorn ในเรื่อง ยกระดับคุณภาพชีวิต และการอยู่อาศัยผ่านแนวความคิดสร้างสรรค์จินตนาการ และนวัตกรรม Craft the creative life
โดยในปีนี้ บริษัทฯ เน้นสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยเน้นการสร้าง Awareness โครงการให้เป็นที่รู้จัก กับกลุ่มเป้าหมายหลักเจเนอเรชัน Y (Gen Y) พร้อมกันนี้ยังเน้นกลยุทธ์การเลือกใช้ KOL หรือ Key Opinion Leader ผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิด และมีบทบาทในสังคมออนไลน์เข้ามาช่วยให้โครงการเป็นที่รู้จักและเพิ่มโอกาสในการขาย
“KOL จะช่วยกระจายข้อมูลของโครงการไปยังกลุ่มเรียลดีมานด์ ที่กำลังมองหาบ้านและที่อยู่อาศัยติดตามเพจนั้น ๆ ให้ได้รับข่าวสารโครงการ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนแคมเปญ เช่น ของแถม,ส่วนลด ในทุก ๆ 3 เดือน และมีกิจกรรมร่วมสนุกสำหรับลูกค้าที่เข้าชมโครงการ และจอง” นางสาวศรินญา กล่าว
ปี 66 ประกาศรุกทุกเซกเมนต์
สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ในช่วงปี 2565 นางสาวศรินญา มองแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นสังเกตุได้จากเริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับเข้าประเทศไทยและการจองห้องพักโรงแรมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติและรวมถึงวิถีชีวิตของคนเมืองและคนทำงาน ส่งผลให้ในช่วงต้นปี 2565 เป็นต้นมา ภาคธุรกิจอสังหาฯ ยังมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
โดยแผนงานในปี 2566 บริษัทฯ ยังคงเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุมในทุกเซกเมนต์ และมุ่งพัฒนาศักยภาพการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า แบ่งสัดส่วนเป็น บ้านเดี่ยว 40% บ้านแฝด 40% และทาวน์โฮม 20%
ทั้งนี้ เตรียมพัฒนาโครงการใหม่เป็นที่ดินที่รอเปิดขายใหม่ 3 ทำเล ได้แก่ โซนกัลปพฤกษ์, โซนแยกกาญจนาฯ-พระราม 2, โซนบางบอน-เอกชัย 139 โดยวางกลุ่ม segment ตั้งแต่ระดับราคาเริ่ม 4.9 ล้าน – 29 ล้านบาท มีทั้งบ้านแฝด บ้านเดี่ยว ด้วยศักยภาพของทำเลถนนกาญจนาฯ-พระราม 2 ที่เชื่อมต่อเมืองที่อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีทางด่วน และทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง
ปักธงบุกกาญจนาฯ-พระราม 2
การตัดสินใจพัฒนาโครงการใหม่ในทำเลกาญจนาฯ-พระราม 2 นั้น เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งทำเลที่กำลังมีการพัฒนาทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ซึ่งจะเป็นเส้นทางหลักที่ช่วยระบายการจราจรที่ติดขัดระหว่างฝั่งธนฯ-ฝั่งพระนคร และในกรณีที่โครงการเสร็จสมบูรณ์ จะเป็นการเพิ่มมูลค่าที่ดินทำเลพระราม 2 และเพิ่มความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านนี้ยิ่งขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ ทำเลพระราม 2 ปัจจุบันเป็นทำเลที่อยู่อาศัยแนวราบที่ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อหาที่อยู่อาศัยมาอย่างยาวนาน โดยเป็นทำเลที่วิ่งเข้าสู่พื้นที่ย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองได้สะดวกรวดเร็ว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เมื่อเทียบกับทำเลชานเมืองทางโซนอื่น ๆ ของ กรุงเทพฯ
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ใส่ใจในทุกคุณภาพโครงการ และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า นางสาวศรินญา ประกาศชัดถึงเส้นทางของบริษัทที่พร้อมจะเติบโตแบบก้าวกระโดด จากกลยุทธ์การตลาดที่ชัดเจน และตรงกลุ่มเป้าหมาย ศักยภาพทำเลที่ตั้งของทุก ๆ โครงการที่นำมาพัฒนามีความแตกต่างจากคู่แข่งในทำเลเดียวกัน ทั้งในแง่ของฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตวิถีใหม่ (New normal) และ คอนเซ็ปต์โครงการที่แตกต่าง และได้มีการพัฒนา Chanuntorn Smart Home Application เป็นแอพพลิเคชั่นอำนวยความสะดวกด้านบริการหลังการขายสำหรับลูกบ้านทุกโครงการ
“ตลอดปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และในปีหน้ามั่นใจได้ว่าจะเป็นอีกปีที่ทำผลงานได้ตามแผนงานที่วางไว้ ภายใต้แนวคิดพัฒนาและส่งมอบคุณค่าทั้งด้านราคาและคุณภาพ เพื่อลูกค้าได้ที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคสูงสุด” นางสาวศรินญา กล่าว