สนช.ร่วม7 สถาบันการเงิน
หนุนธุรกิจกู้ปลอดดบ.3 ปี
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)หรือสนช. ร่วม 7 สถาบันการเงินพันธมิตรเป็นระยะเวลา 5 ปี(1ต.ค. 2558-2562)ใน “โครงการนวัตกรรมดี…ไม่มีดอกเบี้ย” เฟส2 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจนวัตกรรมดีๆ ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้นผ่านเครือข่ายสถาบันการเงินพันธมิตร สนช.หนุนดอกเบี้ย 3 ปี วงเงิน 5 ล้านบาทต่อราย วงเงินกู้สูงสุด 40 ล้านบาทต่อราย
ดร. พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า โครงการ “นวัตกรรมดี…ไม่มีดอกเบี้ย” มีเป้าหมายในการพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยที่ลงทุนใน “ธุรกิจนวัตกรรม” ให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น ซึ่ง สนช. ใช้เป็นกลไกหนึ่งในด้านการเงิน ที่จะเร่งให้เกิดการสร้างธุรกิจใหม่ เกิดแหล่งเงินทุนใหม่ และสามารถเพิ่มขีดการแข่งขันของประเทศได้พร้อมกัน
การร่วมมือครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของสถาบันการเงินมากที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เพื่อผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ กระบวนการผลิตใหม่ หรือการบริการแบบใหม่ ผ่านกลไกด้านการเงินในการสนับสนุนการใช้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มาประยุกต์เพื่อพัฒนา ส่งเสริม และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้เกิดธุรกิจนวัตกรรม
ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการผลักดันนวัตกรรมของไทย ผ่านคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ ที่มีท่านนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เป็นประธาน ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินมาตรการหลายอย่าง เช่น การลดหย่อนภาษี 300% ของบริษัทที่ทำการวิจัยหรือที่มีการใช้ผลงานวิจัย การจัดทำระบบบัญชีนวัตกรรมไทย และบัญชีสิ่งประดิษฐ์ไทย เป็นต้น
“สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาล นั่นคือ สนับสนุน “High Value Added Products” ไม่เพียงสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน แต่ยังสนับสนุนSMEs ให้มีคุณค่าสูงขึ้น รวมถึงธุรกิจใหม่ๆหรือ Startup ที่จำเป็นต้องสร้างบรรยากาศแวดล้อมที่เอื้อในการทำธุรกิจ เนื่องจากธุรกิจเกิดใหม่เหล่านี้มีอยู่จำนวนไม่น้อย แต่ยังขาดโอกาสที่จะไปต่อ เวลานี้รัฐกำลังสร้างสิ่งนี้ เพื่อให้เขาติดต่อกับใครที่ชัดเจน เช่น เพื่อทำแผนธุรกิจ หรือต้องการห้องแล็บ ต้องการทดสอบผลิตภัณฑ์ โดยกระทรวงวิทย์ฯทำหน้าที่ประสานให้
ความร่วมมือนี้จะทำให้เกิดนวัตกรรมจำนวนมาก ทำให้เด็กๆรุ่นใหม่ได้เห็นโอกาสดี ทำให้เกิดนวัตกรเพิ่มขึ้น ทำให้เยาวชนมีทางเดิน มีความก้าวหน้าในอาชีพและมองเห็นว่า การจะมีรายได้ที่ดีอยู่ตรงไหน”
รมต.วิทย์ยังกล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ช่วงต้นปี กระทรวงวิทย์ฯได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงกับกระทรวงการคลัง เพื่อให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมหรือบสย. ส่งเสริมนวัตกรรม ด้วยการค้ำประกันสินเชื่อให้แก่กิจการที่ผ่านการประเมินของกระทรวงวิทย์ฯแล้วและจะมีอีกหลายมาตรการตามมา
ด้านดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สนช. กล่าวว่า “โครงการ “นวัตกรรมดี… ไม่มีดอกเบี้ย” เป็นกลไกการเงินที่สำคัญกลไกหนึ่งในการนำร่องขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ หรือช่วงเริ่มต้นสู่กระบวนการผลิตจริง โดยอาจเป็นโครงการที่เกิดจากการขยายผลของการสร้างต้นแบบ หรือการทดสอบนำร่องและพัฒนาออกสู่ตลาดในระยะแรก
ทั้งนี้ สนช. จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนดอกเบี้ยเงินกู้แทนผู้ประกอบการนวัตกรรม ในวงเงินสนับสนุนดอกเบี้ยสูงสุด 5 ล้านบาทต่อโครงการ ระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี และสถาบันการเงินจะเป็นผู้รับผิดชอบวงเงินกู้ให้กับผู้ประกอบการนวัตกรรมสูงสุดที่ 40 ล้าน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกิดการทำนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ได้อย่างกว้างขว้างมากยิ่งขึ้น”
ความร่วมมือครั้งที่ผ่านมา (ปี 2553 – 2558) สนช. ได้สนับสนุนโครงการนวัตกรรมภายใต้กลไก “นวัตกรรมดี…ไม่มีดอกเบี้ย” ไปแล้วทั้งสิ้น 47 โครงการ คิดเป็นมูลค่าดอกเบี้ยกว่า 55 ล้านบาท จากวงเงินกู้กว่า 350 ล้านบาท
สำหรับการขยายระยะเวลาความร่วมมือ ในครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 โดย สนช. และสถาบันการเงินพันธมิตรทั้ง 7 แห่งจะมีการวางแผนในการจัดกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์โครงการร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น การจัดตั้งคณะทำงานการส่งเสริมโครงการ “นวัตกรรมดี… ไม่มีดอกเบี้ย” ในแต่ละสถาบันการเงินให้เข้าถึงฐานลูกค้าหรือผู้ประกอบการที่สนใจจะพัฒนาธุรกิจนวัตกรรม และการจัดกิจกรรมเพื่อขยายผลธุรกิจนวัตกรรมที่ได้รับการสนับสนุนในโครงการ “นวัตกรรมดี… ไม่มีดอกเบี้ย” เช่น การจัด Business Matching การจัดงาน Expo สินค้านวัตกรรม เป็นต้น
ทั้งนี้สนช.ตั้งเป้าว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนของผู้ประกอบการนวัตกรรมที่มีศักยภาพให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้กว่า 1,500 ล้านบาท ใน 3 ปีและมีโครงการที่ได้รับการสนับสนุนในเฟสที่2 นี้ราว 100 โครงการ หรือประมาณ 20 โครงการต่อปี
อนึ่งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สนช.ให้การช่วยเหลือSMEs ไปประมาณ 1,000 โครงการ อยู่ในโครงการ “นวัตกรรมดี…ไม่มีดอกเบี้ย” ประมาณ 20% เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 165,000 ล้านบาท
ในโอกาสเดียวกันนี้ ภายในงานพิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ได้มีผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมหลายแห่งที่เคยรับโอกาสดีๆจากโครงการ “นวัตกรรมดี…ไม่มีดอกเบี้ย” นำผลิตภัณฑ์ของตนมาจัดแสดงด้วย