“ดอยคำ” มุ่งมั่นสู่ วิถีสีเขียว ชูความกรีน ผ่านร้านดอยคำ สาขาที่ 33 ณ เอสซีจี สนง.ใหญ่
“ดอยคำ” มุ่งมั่นสู่ วิถีสีเขียว (Living Green) ชูความกรีน ผ่านร้านดอยคำ สาขาที่ 33 ตั้งเป้าดำเนินธุรกิจเพื่อโลกที่ดียิ่งขึ้น มอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2566
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด บริษัทต้นแบบธุรกิจเพื่อสังคมดำเนินงานตามศาสตร์พระราชา เปิดร้านดอยคำ สาขาเอสซีจี สำนักงานใหญ่ นับเป็นสาขาที่ 33 ภายใต้คอนเซ็ปต์ วิถีสีเขียว (Living Green) ตามนโยบายการดำเนินงานของดอยคำ ณ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่
โอกาสนี้ นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา อดีตผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด นางชนันนัทธ์ พลปัถพี รองผู้จัดการใหญ่ ด้านขายและการตลาด บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด นายอานนท์ พุกกะณะสุต Workplace Solutions Office Director ให้เกียรติมาร่วมชมร้านดอยคำ สาขาล่าสุดนี้
ภายในร้านได้ออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานด้วยการใช้แสงจากธรรมชาติ รวมถึงการนำวัสดุและอุปกรณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ในร้าน อาทิ ถาดวางดอยคำ ที่ผลิตจากฝาขวดที่ผ่านการ อัพไซคลิ่ง (Upcycling) แก้วน้ำกระดาษ หลอดพลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) สามารถย่อยสลายได้ ถุงกระดาษผลิตจากกระดาษรีไซเคิล (Recycled Paper) พร้อมสนับสนุนลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาซื้อเครื่องดื่มดอยคำ ด้วยการลดราคา 5 บาทต่อเมนู
พร้อมกันนี้ ได้จัดวางเก้าอี้อเนกประสงค์ทรงโอ่ง กรวยจราจร และกระถางต้นไม้รักษ์โลก โดยทั้งหมดมาจากการอัพไซคลิ่ง (Upcycling) กล่องยูเอชทีผ่านกิจกรรม แกะ ล้าง เก็บ ภายใต้โครงการสร้างโลกสีเขียว ซึ่งได้เริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2561 – 2565 ตลอด 5 ปี สามารถรวบรวมกล่องยูเอชทีได้จำนวนทั้งสิ้น 2,697,046 กล่อง ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 91,810.89 กิโลกรัม คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kgCo2eq)
รวมถึงชั้นวางสินค้า “The Mountain” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อแบรนด์ “ดอยคำ” ซึ่งแปลว่า ภูเขาแห่งทองคำ ทำให้มีแนวคิดเป็นภาพสามเหลี่ยม ที่มีความรู้สึกเหมือนภูเขา ผลงานที่ออกมาจึงเป็นโครงชั้นวางสินค้าทรงสามเหลี่ยม ขณะที่ชั้นวางสินค้า เป็นไม้แปรรูปสังเคราะห์ ผลิตจากขยะพลาสติก นำมารีไซเคิลผสมสารเติมแต่งและวัสดุเหลือใช้ในการเกษตร ขึ้นรูปเป็นชิ้นงานโดยการทำร่องด้วยเครื่องกลึง (CNC: Computer Numerical Control) ทำให้เกิดเป็นชั้นวางสินค้าที่มีร่องเส้นภูเขาสวยงาม ปัจจุบันได้นำมาวางสินค้าตราดอยคำ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม
โปรโมชันเปิดร้าน ซื้อสินค้าตราดอยคำครบ 300 บาท ขึ้นไป รับฟรี สเปรย์แอลกอฮอล์ กลิ่นมะเขือเทศ 35 มล. จำนวน 1 ชิ้น มูลค่า 75 บาท ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 2565 – 31 ธ.ค. 2565
ซื้อสินค้าตราดอยคำ รวมเครื่องดื่ม อาหาร น้ำสกัดเย็น และชุดของขวัญปีใหม่ดอยคำ 2566 ครบ 500 บาท รับฟรีคูปองแทนเงินสดมูลค่า 50 บาท (จำกัด 50 ใบ) ครบ 800 บาท รับฟรีคูปองแทนเงินสดมูลค่า 100 บาท (จำกัด 50 ใบ) คูปองใช้ซื้อสินค้าที่ร้านดอยคำ สาขาเอสซีจี สำนักงานใหญ่ เท่านั้น
สมัครสมาชิกใหม่ รับฟรี แก้วสลัชชี พร้อมน้ำผลไม้ 200 มล. จำนวน 1 กล่อง รวมมูลค่า 134 บาท ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 2565 – 31 ม.ค. 2566 นอกจากนั้น ยังมีสินค้าตราดอยคำราคาพิเศษอีกมากมาย
สำหรับ ร้านดอยคำ สาขาเอสซีจี สำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณหลังอาคารสำนักงานใหญ่ 1 (ใกล้กับ Health Center) ขนาดพื้นที่ 100 ตารางเมตร จำหน่ายผลิตภัณฑ์และเครื่องดื่ม ดอยคำ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากโครงการส่วนพระองค์ของพระบรมวงศานุวงศ์ ได้แก่ มูลนิธิโครงการหลวง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ร้านภัทรพัฒน์ เปิดให้บริการ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 07.00 – 17.00 น. ปิดบริการ เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ดูสาขาร้านดอยคำสาขาทั่วประเทศ ได้ที่ bit.ly/3Y8PybP หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมของดอยคำได้ที่คลิก https://www.doikham.co.th/
เกี่ยวกับดอยคำ
จากพระราชวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงต้องการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรชาวไทยภูเขาให้ดีขึ้น ทรงส่งเสริมการปลูกพืชผลไม้เมืองหนาวแทนการปลูกฝิ่น พร้อมทรงมีพระราชดําริให้จัดตั้งสหกรณ์ชาวเขา และโรงงานหลวงอาหารสําเร็จรูปขึ้น เพื่อรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรอย่างเป็นธรรม และแปรรูปผลผลิต ภายใต้ตราสินค้า “ดอยคํา” รวมถึงจัดให้มีการค้นคว้า วิจัย และพัฒนา โดยจัดตั้งเป็น นิติบุคคลภายใต้ชื่อ “บริษัท ดอยคําผลิตภัณฑ์อาหาร จํากัด” ดําเนินกิจการในรูปแบบ “ธุรกิจเพื่อสังคม” ในปี พ.ศ. 2537 ดอยคำตระหนักอยู่เสมอว่าผลกำไรที่แท้จริงคือ การได้เห็นคนไทยทุกคนกินดี อยู่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะนั้นย่อมหมายถึงความสุขที่ยั่งยืนของคนไทยทุกคน…ดังปรัญชาที่ว่า “เกษตรเพื่อชุมชน ผลิตผลเพื่อคนไทย”