“แก้วใจ ไพร่ฟ้า…สยามบรมราชกุมารี”

“แก้วใจ ไพร่ฟ้า…สยามบรมราชกุมารี”


สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบำเพ็ญพระราชกิจจานุกิจนานัปการอันเป็นประโยชน์หลักของบ้านเมือง ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่ทรงสืบสานต่อจากพระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในรัชกาลปัจจุบัน เมื่อพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ เช่น การพระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลเฝ้าฯ การพระราชทานปริญญาบัตร การถวายผ้าพระกฐิน การเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในโอกาสวันสำคัญทางศาสนา เป็นต้น ทรงมีโครงการในพระราชดำริส่วนพระองค์หลายหลากโครงการ ซึ่งโครงการในระยะเริ่มต้นนั้น มุ่งเน้นทางด้านการแก้ปัญหาการขาดสารอาหารของเด็กในท้องถิ่นทุรกันดาร และพัฒนามาสู่การให้ความสำคัญทางด้านการศึกษาเพื่อการพัฒนาราษฎร


พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านอักษรศาสตร์และดนตรีไทย ซึ่งพระองค์ได้นำมาใช้ในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และให้การอุปถัมภ์ศิลปวัฒนธรรมของประเทศ จากพระราชกรณียกิจในด้านนี้ พระองค์จึงได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระสมัญญาว่า “เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย” และ “วิศิษฏศิลปิน”

ในด้านศาสนา ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ มีพระหฤทัยมั่นคงในพระรัตนตรัยและสนพระหฤทัยศึกษาหาความรู้ด้านศาสนาพุทธและศาสนาอื่นอย่างแตกฉาน พระองค์ทรงริเริ่มให้มีการฟื้นฟูประเพณีฉลองวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นประเพณีที่เคยมีขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยได้ทรงประกาศเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนร่วมกันจุดโคมประทีป และส่งบัตรอวยพรที่มีข้อธรรมะ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปได้ทราบถึงประวัติและความสำคัญของวันวิสาขบูชา รวมทั้งยังเป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยพระองค์ยังได้พระราชทานโคลงพระราชนิพนธ์ “คืนวิสาข์” ให้กระทรวงวัฒนธรรมพิมพ์แจกแก่พุทธศาสนิกชนในบัตรอวยพรวันวิสาขบูชา 100,000 ใบ

“เพ็ญเดือนสิบห้าค่ำ คืนวิสาข์
ห้วงแห่งเนรัญชรา ใหญ่กว้าง
แท่นกุศะนามา ติณชาติ
โพธิ์พฤกษ์แหล่งสมสร้าง สืบถ้วนบารมี
สิบทัศพลันเปี่ยมท้น พุทธธรรม
ลุอนุตรสัม- โพธิพร้อง
โปรดหมู่สัตว์น้อมนำ เนื่องสวัสดิ์
ไป่เกลือกกลั้วเสพส้อง กิเลสสิ้นบ่วงมาร”
นายอิทธิพล คุณปลื้ม กล่าวว่าเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนาร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีตักบาตร เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยเชิญชวนผู้นำทางศาสนา หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนพสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศ ร่วมกันบำเพ็ญกุศลถวายพระราชกุศล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในส่วนกลาง กรมการศาสนา ร่วมกับ วัดปทุมวนาราม จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีตักบาตร ในวันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน 2566 เวลา 08.00 น. ณ ศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
ในส่วนภูมิภาค ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ และการเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนนำหลักธรรมจากมหาชาติเวสสันดรชาดกมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน อันเป็นการเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจ สามารถดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน ของทุกปี กรมการศาสนายังได้จัดกิจกรรมบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณี เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เพื่อส่งเสริมให้พสกนิกรชาวไทยได้แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยการบำเพ็ญความดีถวายพระราชกุศล และร่วมสืบสานประเพณีการบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณี ซึ่งได้จัดต่อเนื่องมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปี โดยในปีนี้กรมการศาสนาได้ร่วมกับวัดยานนาวา เขตสาทร จัดกิจกรรมฯ ขึ้นในวันที่ 31 มีนาคม 2566 รวมทั้งร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดและวัดในพื้นที่ จัดกิจกรรมในส่วนภูมิภาค จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ วัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้จัดกิจกรรมฯ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา และจะจัดกิจกรรมฯ ณ วัดพิชโสภาราม จังหวัดอุบลราชธานี วัดปางล้อ วัดในสอย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และวัดราชบุรณะ จังหวัดชุมพร ต่อไป