“พรรครักษ์ผืนป่าฯ” สู้ศึกเลือกตั้ง ดึง “มาร์ค พิทบูล” แคนดิเดตนายก
“พรรครักษ์ผืนป่าฯ” สู้ศึกเลือกตั้ง ดึง “มาร์ค พิทบูล” แคนดิเดตนายก ประกาศกร้าวพร้อมแฉทุกความโกง “โกง=ประหาร” ผลักดันทุกนโยบายเพื่อผืนป่าไทย
“พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย” กระโดดร่วมศึกเลือกตั้ง 66 เปิดตัว “มาร์ค พิทบูล” แคนดิเดตนั่งนายก ชู 5 นโยบายพรรคฯ ปราบโกง “โกง=ประหาร”, ปฏิรูปหน่วยงานราชการ, สร้างอาชีพมั่นคง, ปฏิรูปการศึกษา, คืนความเป็นธรรมให้สังคม พร้อมยืนหยัดข้างพี่น้องประชาชนในการรักษาผืนป่า และธรรมชาติของประเทศให้อยู่อย่างยั่งยืน
นายประเสริฐ อภิปุญญา หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย กล่าวถึง ทิศทางและนโยบายพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ในการเลือกตั้งปี 2566 โดยพรรคฯ มีนโยบายหลัก 5 ข้อ ได้แก่ 1. การปราบโกง, 2. การปฏิรูปหน่วยงานราชการ, 3. สร้างอาชีพที่มั่นคง, 4. ปฏิรูปการศึกษาให้มีคุณภาพ และ 5. คืนความเป็นธรรมให้สังคม พร้อมเปิดตัว นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ “มาร์ค พิทบูล” คนดังในโลกออนไลน์ ผู้ยืนหยัดประกาศความเป็นธรรมให้กับประชาชนในทุกวิถีทาง จนมีแฟนคลับผู้ให้การติดตามและสนับสนุนนับล้าน เป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคฯ ด้วย
ทั้งนี้พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย มีจุดแข็งทางด้านองค์ความรู้ในเรื่องป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งน้ำ รวมถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่น และมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ด้านบริหารจัดการ ด้านชุมชน ดังนั้นในการทำหน้าที่ตรงนี้ การที่เราเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก โครงสร้างในการบริหารจัดการไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนหรือขั้นตอนเยอะ ดังนั้นจะมีเวลาใกล้ชิดกับชุมชน ถ้าผู้สมัครของพรรคได้รับเลือกให้เป็นผู้แทน หรือเป็น ส.ส. ในการทำหน้าที่ตรงนี้ ทางพรรคจะวางบทบาทเป็น พี่เลี้ยงให้กับคนในชุมชน เพื่อให้คำปรึกษา แนะนำ ถึงสิทธิและหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้เกิดประโยชน์ ต่อชุมชน รวบรวมข้อมูลความรู้เหล่านี้มาตกผลึก และถ่ายทอด แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ให้เกิดเป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์ที่สามารถต่อยอดได้ต่อไป ขณะเดียวกัน พี่เลี้ยง เมื่อเวลาอยู่ในชุมชนคนนี้ ก็จะทำหน้าที่ เป็นผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. นำความต้องการของชุมชน หรือปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในชุมชนที่ต้องให้หน่วยงานภาครัฐดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์หรือบรรเทาความเดือดร้อนของชุมชน
ซึ่งหลังจากได้ทำการจับหมายเลขผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อแล้ว ทางพรรคมีรายชื่อผู้ลงสมัครในเขตต่าง ๆ ดังมีรายชื่อต่อไปนี้ นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ “มาร์ค พิทบูล” ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ได้หมายเลข 49 พร้อมนั่งแท่นแคนดิเดตนายกของพรรคฯ, นายสมใจ นวลนุ่น ผู้สมัคร จ. กระบี่ เขต 2 เบอร์ 1 , นายวินัย ผดุงเจริญ จ.ฉะเชิงเทรา เขต 1 เบอร์ 10 เเละนายจิรจิตต์ นามจันดี จ. ขอนแก่น เขต 5 เบอร์ 13
อย่างไรก็ตามทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยที่มีอยู่อย่างจำกัด ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำรงชีพของมนุษย์ ในปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้ลดลง ทรัพยากรดินเสื่อมโทรม ความหลากหลายทางชีวภาพถูกคุกคาม ทรัพยากรน้ำยังไม่สามารถจัดสรรได้ตามความต้องการอย่างเต็มศักยภาพ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ได้นำเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน Sustainable Development Golds (SDGs) มาเป็นแนวทางในการดำเนินนโยบาย และผลักดันการดำเนินงานในการอนุรักษ์ผืนป่า ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและป่าไม้ การรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่า ส่งเสริมให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น กระตุ้นจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการสร้างกลไกการมีส่วนร่วม สร้างเครือข่ายทุกระดับอายุในชุมชนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชุมชนอีกด้วย
ทางด้าน นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ “มาร์ค พิทบูล” กล่าวว่า โดยสิ่งแรกที่พรรคตั้งใจอยากผลักดันให้เกิด คือ การลงปฏิญาณร่วมกันของทุกพรรค ในนโยบายการปราบโกง ซึ่งควรผลักดันให้เป็นเป็นวาระแห่งชาติ ถือคำมั่นที่ว่า โกง=ประหาร พร้อมผลักดันกฎหมายให้มีประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน การปราบโกงจะช่วยให้ประเทศดีขึ้นในอีกระดับ เน้นการทำงานอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากคนโกง หรือถูกโกง ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่า หากทำการปราบโกงได้จะทำให้ประเทศไทยของเรา และเศรษฐกิจของเราดีขึ้นทันที เนื่องจากประเทศไทยถูกทุจริตไปร้อยละ 30-40 ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลมาก เพราะฉะนั้นทางพรรคจึงอยากจะเน้นเรื่องนี้ที่เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก
ต่อมา คือ การปฏิรูปหน่วยงานราชการ เน้นการทำงานของหน่วยงานภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เน้นคนที่ทำงานจริง เน้นการแก้ปัญหาที่ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การจ้างงานจ้างอาชีพ ให้มีอาชีพกันมากขึ้น พร้อมกับการปฏิรูปการศึกษา พัฒนาสถาบันอาชีวะให้ให้เก่งอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะทางด้านภาษา เพื่อสามารถทำงานกับต่างประเทศได้ พัฒนาสายอาชีวะในบ้านเราให้โกอินเตอร์มากยิ่งขึ้น และมีคุณภาพชีวิตการทำงานที่ดีขึ้นด้วยภาษาต่างชาติ สุดท้ายคืนความเป็นธรรมให้สังคม สังคมประเทศเราจะน่าอยู่ยิ่งขึ้น ถ้าเราไม่มีการโกง และช่วยเหลือพี่น้องประชาขนให้มีงานมีอาชีพและมีกินให้มากที่สุด
นายณัชพล กล่าวอีกว่า เรามีเป้าหมายเพื่อเป็นหนึ่งเสียงสำคัญ ที่จะพูดความจริงเป็นตัวแทนของประชาชนทุกคน ปกป้องสิทธิของประชาชนเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเศรษฐกิจสีเขียว ในเรื่องการทำงานด้านสิ่งแวดล้อม ผืนป่า และชุมชน ต้องเริ่มจากตัวเรา รอบบ้าน รอบชุมชน สร้างการมีจิตสำนึกร่วมกันในชุมชน เพื่อกลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจชาติให้เป็นสีเขียว เพิ่มพื้นที่ป่า เกษตรกรรมให้กับประชาชน เน้นการแจกอาชีพ ให้มีที่ดินทำกินและช่วยกันดูแลรักษาผืนป่า ปลูกป่าให้มีพื้นที่สีเขียว เน้นการพัฒนาพื้นที่ให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจชุมชน
“ที่ผ่านมาปัญหาของประเทศไทย เกิดจากประชาชนไม่มีที่ดินทำกิน ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทย มีที่ดินจำนวนมาก เเต่กลับไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ นโยบายของทางพรรคจึงมุ่งเน้น แนวทางเพื่อให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในพื้นที่ป่า เพื่อไม่ทำให้เกิดการเผา ทำลายป่า โดยการแจกอาชีพให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณป่า กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกของการเป็นเจ้าของ เพื่อดูแล และปกป้อง พื้นที่ทำกินของทุกคน” นายณัชพล กล่าวสรุปในตอนท้าย