พาณิชย์เผยส่งงบผ่านเน็ตพุ่ง
มุ่งสู่ “งบฯไร้กระดาษ”100%
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ปลื้ม ! นิติบุคคลตื่นตัว ภายใน 1 เดือน สมัครเข้าระบบนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) ล้นหลาม กว่า 4 แสนราย ย้ำ !! สมัครทางอินเทอร์เน็ตแล้วต้องเข้ายืนยันตัวตนกับกรมฯ ด้วยจึงจะครบถ้วนสมบูรณ์ คาดปี ‘59 งบการเงินปราศจากกระดาษ 100 % ช่วยลดต้นทุน นำข้อมูลใช้ได้ทันที ดันไทยขึ้น “ประเทศทำธุรกิจง่าย” ลำดับต้นๆ ของเอเชีย ดึงต่างชาติลงทุน
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “จากการที่กรมฯ ได้แจ้งเตือนนิติบุคคลคงอยู่ทั่วประเทศกว่า 6.2 แสนราย ให้สมัครเข้าระบบนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) โดยขอรับรหัสผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) ภายในวันที่ 30 กันยายน 2558 ปรากฏว่าหลังสิ้นสุดระยะเวลา มีนิติบุคคลสมัครเข้าระบบฯ จำนวน 360,194 ราย คิดเป็นร้อยละ 58 จากจำนวนนิติบุคคลคงอยู่ทั้งหมด และเข้ายืนยันตัวตนพร้อมอนุมัติการใช้งานฯ แล้ว จำนวน 141,890 ราย คิดเป็นร้อยละ 40 จากจำนวนนิติบุคคลที่สมัครเข้าระบบฯ”
“กรมฯ จึงขอเตือนผู้ที่สมัครเข้าระบบนำส่งส่งงบการเงินฯ ทางอินเทอร์เน็ตแล้ว ต้องเข้ายืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วยจึงจะครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ นิติบุคคลสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (สนามบินน้ำ) สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า เขต 1 – 6 หรือ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าทุกจังหวัดและทุกสาขาทั่วประเทศ โดยเอกสารที่ต้องใช้ในการยืนยันตัวตน ประกอบด้วย 1) แบบคำขอ Username และPassword 2) หนังสือแสดงความตกลงในการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ มติที่ประชุมคณะกรรมการที่ให้นำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ 3) หนังสือมอบอำนาจ ติดอากรแสตมป์ 10 บาท 4) สำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ 5) สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ 6) แสดงบัตรประชาชนตัวจริงของผู้รับมอบอำนาจหรือผู้ยื่นคำขอ ทั้งนี้ เพื่อให้การยืนยันตัวตนของนิติบุคคลเป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์”
“สำหรับนิติบุคคลอีกกว่า 2 แสนราย ที่ยังไม่ได้สมัครเข้าระบบนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) และยังไม่ได้ขอรับ Username และ Password ให้เร่งดำเนินการสมัครฯ โดยด่วน ! ทางwww.dbd.go.th >> หัวข้อ “บริการออนไลน์” >> “ระบบนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing)” และหลังจากสมัครฯ ทางอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว ให้เข้ายืนยันตัวตนกับกรมฯ ด้วยเช่นกัน โดยจะผ่อนผันเวลาการสมัครฯ และยืนยันตัวตนฯ ให้อีกระยะหนึ่ง เพื่อให้นิติบุคคลได้ปรับตัวและเตรียมพร้อมสำหรับการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ รอบปีบัญชี 2558 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ กรมฯ จะดำเนินการกำกับดูแล พร้อมติดตามให้นิติบุคคลสมัครเข้าระบบฯ ยืนยันตัวตนฯ และนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องทุกขั้นตอนเพื่อให้ นิติบุคคลปฏิบัติได้อย่างถูกต้องต่อไป”
การนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e–Filing) นอกจากจะเป็นการช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและงบประมาณในการบริหารจัดการเอกสารทั้งด้านสถานที่จัดเก็บและการดูแลรักษาแล้ว ยังเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายแก่ผู้ประกอบการในการลดปริมาณการใช้กระดาษและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม สำหรับประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการสามารถนำงบการเงินไปทำการวิเคราะห์และประเมินทิศทางแนวโน้มของธุรกิจได้ทันที นับเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ได้เปรียบคู่แข่งขัน ซึ่งเหมาะสมกับสถานการณ์ของโลกธุรกิจในปัจจุบันที่ต้องการข้อมูลด้านต่างๆ อย่างรวดเร็ว สามารถนำไปใช้งานได้อย่างทันท่วงที
โดยผลลัพธ์ที่ได้จากการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ง่ายต่อการประกอบธุรกิจลำดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักลงทุนชาวต่างชาติให้เข้ามาลงทุนประกอบกิจการในประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้น ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรต่างๆ ต้องผนึกกำลังกันในการขับเคลื่อนประเทศให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความได้เปรียบในสภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจของโลกที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง