สวทช./สพฐ.-สกอ.สัมมนา
แนะแหล่งเรียนรู้แบบดิจิทัล
สวทช./สพฐ.-สกอ.จัดสัมมนา “การศึกษาแบบเปิดเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตภายใต้แผนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” ประชาสัมพันธ์ภาครัฐกำลังขับเคลื่อนระบบการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต และคลังทรัพยากรการศึกษาดิจิทัลแบบเปิด ที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลและองค์ความรู้ของประเทศในรูปแบบดิจิทัล เพื่อการเรียนรู้ทุกระดับ เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโลกแห่งการเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต ทุกที่ ทุกเวลา
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยโครงการระบบสื่อสาระออนไลน์เพื่อการเรียนรู้ทางไกลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวโรกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) โดยโครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย ในนาม “คณะทำงานการเรียนรู้ตลอดชีวิตภายใต้คณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” จัดสัมมนาวิชาการเรื่อง “การศึกษาแบบเปิดเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ภายใต้แผนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” (Lifelong Learning Space for Thailand Digital Economy) เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ระบบการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต และคลังทรัพยากรการศึกษาดิจิทัลแบบเปิด ที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลและองค์ความรู้ของประเทศในรูปแบบดิจิทัล ตั้งแต่ความรู้ขั้นพื้นฐานจนอุดมศึกษา ความรู้วิชาการจนภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงความรู้ได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียมกัน ทุกที่ ทุกเวลา มุ่งสู่การใช้ดิจิทัลเพื่อสังคมและทรัพยากรความรู้ (Digital Society) ได้อย่างแท้จริง
ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประธานเปิดงาน กล่าวว่า “ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมภาคเศรษฐกิจดิจิทัลและวางรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลให้ขับเคลื่อนที่จะทำให้ทุกภาคเศรษฐกิจก้าวหน้าไปได้ทันโลกและสามารถแข่งขันในโลกสมัยใหม่ได้ ซึ่งแนวทางการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 1 ใน 5 ด้านนั้นคือ การส่งเสริมและพัฒนาการใช้ประโยชน์จากดิจิทัล (Digital Society Promotion) ที่เกี่ยวกับการสร้างสังคมดิจิทัลที่มีคุณภาพใน 4 ประเด็นคือ (1) การพัฒนาประชาชนที่สามารถใช้เทคโนโลยีอย่างฉลาด มีความรับผิดชอบและเท่าทันสื่อ (2) การลดความเหลื่อมล้ำดิจิทัล เช่น การบูรณาการนำระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบโทรคมนาคม ระบบการเรียนอีเลิน์นนิงไปสู่ชุมชนชายชอบที่ห่างไกลมากๆ หรือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยผู้ที่บกพร่องทางการเรียนรู้เขียนหนังสือได้ ซึ่งในเรื่องเหล่านี้ทางคณะทำงานกำลังดำเนินการอยู่
(3) การแปลงสื่อต่างๆให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล และมีการจัดเก็บ/ จัดแสดงอย่างฉลาด เพื่อให้สังคมมี digital content พร้อมสำหรับการเรียนรู้ และ (4) การพัฒนาบริการดิจิทัลเพื่อสังคม โดยมีบริการเร่งด่วนที่สุดคือ บริการการศึกษา/ การเรียนรู้แบบเปิดเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต อันเป็นที่มาของงานสัมมนาในครั้งนี้”
“โครงการการศึกษาแบบเปิดเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ Lifelong Learning Space ที่คณะทำงานการเรียนรู้ตลอดชีวิตภายใต้คณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ นับเป็นอีกกลไกหนึ่งที่สำคัญที่ช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตของสังคมไทยในโลกยุคใหม่ยุคดิจิทัลนี้ โดยโครงการนี้จะมุ่งเน้นการบูรณาการและเชื่อมโยงคลังสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ในทุกระดับการศึกษา จากการศึกษาพื้นฐานไปสู่ความรู้ระดับอุดมศึกษา จากความรู้วิชาการสู่ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อเป็นช่องทางและโอกาสการเรียนรู้ด้วยตนเองตามอัธยาศัยที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา”
“การบูรณาการภายในหน่วยงานและบูรณาการข้ามหน่วยงานของทั้ง 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงวิทย์ กระทรวงไอซีที และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดแหล่งเรียนรู้ดิจิทัลเพื่อประชาชนไทย เป็นการเปิดมิติการเข้าถึงความรู้ และเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เวลาใด ในขณะเดียวกันเมื่อเชื่อมโยงโครงการดังกล่าวเข้ากับการขับเคลื่อนของคณะทำงานอื่นๆ ภายใต้คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เช่น การขยายโครงข่ายบรอดแบนด์เข้าถึงทุกหมู่บ้าน จะส่งผลให้เกิดความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยในยุคดิจิทัลนี้ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป” ประธานเปิดงาน กล่าวสรุป
ทั้งนี้โครงการการศึกษาแบบเปิดเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) มีจุดเด่นคือ เป็นการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ อันได้แก่ โครงการระบบสื่อสาระออนไลน์ฯ ของ สวทช. และ สพฐ. โครงการ DLIT ของ สพฐ. โครงการ Thai MOOC ของ สกอ. เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนและการศึกษาตามอัธยาศัยด้วยเทคโนโลยีออนไลน์แบบเปิดเพื่อมหาชนอย่างเป็นรูปธรรม เน้นความร่วมมือและแบ่งปันความรู้ ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างอิสระเสรี ตามแนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.learn.in.th/