บีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท ศิริราช
ใช้จ่ายสะดวกปลอดภัย-ได้บุญ
ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลบัตร เปิดตัว “บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท ศิริราช” บัตรเดียวที่รวมคุณลักษณะของบัตรเดบิตวีซ่า บัตรเอทีเอ็ม และบัตรแรบบิทไว้ในใบเดียวกัน ผู้ถือบัตรสะดวกสบายและปลอดภัยด้วยชิพอัจฉริยะเมื่อจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการ เป็นบัตรโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสและถอนเงินสด พร้อมรับความคุ้มครองอุบัติเหตุและยังได้ร่วมทำบุญช่วยผู้ป่วยยากไร้ศิริราช
ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ก่อนจะมาเป็น “บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท ศิริราช” มีแนวคิดว่า รพ.ศิริราชมีผู้ป่วยอยู่ในการดูแลเป็นจำนวนมาก รวมถึงผู้ป่วยยากไร้ โดยศิริราชได้สืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ได้พระราชทานโรงพยาบาลศิริราช ให้เป็นโรงพยาบาลของแผ่นดิน เพื่อบรรเทาทุกข์แก่ชาวสยาม และสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จ พระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในการให้บริการและความสะดวกแก่ผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ยากไร้ให้ได้รับการรักษาที่มีคุณภาพดีขึ้น
แต่ละปีศิริราชมีค่าใช้จ่ายเป็นเงินกว่า 1,000ล้านบาท ซึ่งใช้เพื่อการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ และการมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาแพทย์ อีกทั้งให้การช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาส รวมทั้งการช่วยเหลือนอกเหนือจากสิทธิที่ผู้ป่วยจะได้รับ เช่น สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม ตลอดจนผู้ที่ไม่มีสิทธิ เช่น บุคคลต่างด้าว และแม้กระทั่งสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการส่งผู้ป่วยกลับบ้าน
ประกอบกับที่ผ่านมาสังคมไทยมีปัญหาด้านความแตกแยกมาก แต่ความจริงแล้วคนไทยใส่ใจในการให้ จึงอยากให้ลูกหลานชาวไทยได้เห็นความใจดีของคนไทย และคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนใจดีร่วมบริจาคผ่านกิจวัตรประจำวัน เป็นการปลูกฝัง “ค่านิยมการให้” แก่คนไทยรุ่นใหม่ให้ฝังลึกอยู่ใน DNA หลังจากนั้นได้มองหาพาร์ทเนอร์เพื่อทำให้ความฝันนี้เป็นจริงและในที่สุดได้มาร่วมมือกับ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
ด้านดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ช่วยตอบโจทย์ได้ 2 อย่าง โดยเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผู้ถือบัตรได้รับบริการที่ปลอดภัย สะดวก ขณะเดียวกันยังได้ต่อยอดเพื่อช่วยเหลือสังคมผ่านทางศิริราชด้วย ซึ่งสังคมไทยมีปัญหาความแตกแยกมามาก รัฐบาลเองก็ได้พยายามปลูกฝังค่านิยมการให้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีแก่สังคมไทย
นอกจากนี้ยังสอดพ้องกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่ต้องการผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้บัตรเดบิตใช้จ่ายแทนเงินสดและสร้างการรับรู้แก่ประชาชนเพิ่มขึ้น ในการใช้ตู้เอทีเอ็มว่ายังสามารถใช้ทำธุรกรรมอย่างอื่นที่นอกเหนือจากการกดเงินได้ เช่น ซื้อกองทุน เป็นต้น โดยปัจจุบันยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตยังไม่สูง อยู่ที่ประมาณ 5% ส่วนยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตของธนาคารกรุงเทพดีกว่าตลาดเล็กน้อย ส่วนบัตรที่มีชิพอัจฉริยะของธนาคารเวลานี้อยู่ที่ 5 ล้านใบ
สำหรับบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท แรบบิท ศิริราช มีความปลอดภัยสูงด้วยชิพอัจฉริยะ มีประโยชน์หลายอย่าง เป็นบัตรเดียวที่รวมคุณลักษณะของบัตรเดบิตวีซ่า บัตรเอทีเอ็ม และบัตรแรบบิทไว้ในใบเดียวกันและผู้สมัครใช้บัตรใบนี้ยังเหมือนได้ทำบุญร่วมกันกับทางธนาคารด้วย สิทธิประโยชน์ของบัตรมีดังนี้
-ทุกการสมัครบัตรใหม่ ธนาคารร่วมบริจาค 100 บาท ให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
-การชำระค่าธรรมเนียมรายปีทุกปีต่อไป ธนาคารร่วมบริจาค 50 บาท
-ทุกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร ธนาคารร่วมบริจาค 0.2% ของยอดใช้จ่าย ซึ่งชำระได้สูงสุดวันละ 150,000 บาท
-ผู้ถือบัตรสามารถรับสิทธิประโยชน์จากประกันภัยอุบัติเหตุแบบคุ้มค่า ด้วยความคุ้มครองการเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุสูงสุดถึง 200,000 บาท
-สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุด 5,000 บาทต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี
-ให้ความคุ้มครองครอบคลุมอุบัติเหตุทั่วไป การขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ และการถูกฆาตรกรรมหรือถูกทำร้ายร่างกาย โดยผู้ถือบัตรไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ เมื่อเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลคู่สัญญากว่า 200 แห่งทั่วประเทศ
-กดเงินผ่านบัวหลวงเอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ กว่า 9,200 เครื่องทั่วประเทศ กำหนดวงเงินในการถอนและโอนผ่านบัวหลวง เอทีเอ็มต่อวันได้ด้วยตนเองสูงสุด 500,000 บาท
-ใช้จ่ายผ่านร้านค้าที่มีสัญลักษณ์วีซ่าและสัญลักษณ์แรบบิท พร้อมรับส่วนลดและสิทธิประโยชน์จากร้านค้าแรบบิทที่ร่วมรายการ
-ใช้เป็นบัตรโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส(BTS)และรถด่วนพิเศษบีอาร์ที(BRT)
ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ประสิทธิ์กล่าวว่า ทางธนาคารกรุงเทพทำบัตรเสร็จเร็วจึงได้เริ่มเปิดให้สมัครมานับจากวันที่ 7 กันยายน 2558 จากเดิมตั้งใจเปิดในวันมหิดล 24 กันยายน ปรากฎว่า ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ในเวลาเพียง 5 สัปดาห์มีผู้สมัคร 1.2 แสนใบซึ่งถือว่า ทะลุเป้าที่ตั้งไว้สำหรับ 1 ปี ได้รับเงินบริจาคจากธนาคาร 12 ล้านบาท จึงอยากปรับเป้าใหม่สำหรับ 1 ปีไว้ที่ 30 ล้านบาท แต่สิ่งที่มีคุณค่ากว่าตัวเงินคือ ด้านสังคม ซึ่งจะมีคนจำนวน 300,000 คนได้พลังแห่งความสุข
สำหรับผู้ที่สนใจและต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมทำบุญบริจาคให้กับศิริราช เพียงมีอายุระหว่าง 16-65 ปี ตามวันเดือนปีเกิดที่ระบุในบัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทางในกรณีเป็นชาวต่างประเทศ ซึ่งมีค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท ค่าธรรมเนียมรายปี 599 บาทต่อปี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ หรือบริการบัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ www.bangkokbank.com ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพมีสาขาอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ชั้น 1สาขาท่าน้ำศิริราช บนถนนวังหลัง และสาขาบางกอกน้อย