สแกนเนียชูนักขับ หัวใจงานขนส่งอย่างยั่งยืน บริการฝึกอบรมขับขี่

สแกนเนียชูนักขับ หัวใจของงานขนส่งอย่างยั่งยืน บริการฝึกอบรมการขับขี่ ควบคู่สุดยอดรถบรรทุกสแกนเนียรุ่นโมเดลปี 2023

บริการฝึกอบรมและที่ปรึกษาการขับขี่ของสแกนเนีย ช่วยให้นักขับดึงประสิทธิภาพสูงสุดของรถมาใช้ได้เต็มที่ ขับขี่สบายขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น คุ้มค่าและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างชัดเจน สนับสนุนผู้ประกอบการขนส่งขับเคลื่อนธุรกิจให้มีกำไรมากขึ้น แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โครงการทดสอบ พิสูจน์แล้วสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้ลูกค้าได้ถึง 36% หรือประมาณ 243,500 บาทต่อคัน ต่อปี

นายอำนาจ ทองทัย ผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมพนักงานและที่ปรึกษาด้านการขับขี่ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด เปิดเผยว่า ทางสแกนเนียให้ความสำคัญกับนักขับซึ่งเป็นหัวใจหลักของธุรกิจขนส่ง ซึ่งการใช้รถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถประหยัดน้ำมัน และมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยสำหรับผู้ที่ซื้อรถสแกนเนียทุกคนจะสามารถส่งคนขับเข้าฝึกอบรมเบื้องต้นได้ เป็นการสอนการใช้งานระบบต่างๆ ของรถ การดูแลบำรุงรักษารถประจำวัน รวมถึงทักษะการขับขี่ที่ปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ หากควบคู่กับข้อมูลการขับขี่จากระบบ Fleet Management System (FMS) ที่เชื่อมต่ออยู่ในตัวรถ จะสามารถช่วยวิเคราะห์การขับขี่เพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นได้
“สมัยก่อนผู้เชี่ยวชาญหรืออาจารย์ผู้ฝึกสอนอาจจะต้องไปนั่งกับคนขับเป็นวัน ๆ เพื่อดูว่าแต่ละคนขับรถเป็นอย่างไร และบางครั้งก็ไม่สามารถเห็นพฤติกรรมจริงของผู้ขับขี่ แต่ด้วยระบบ FMS ในตัวรถ ที่จะส่งข้อมูลของรถและการขับขี่ให้ทุกๆ วันจันทร์ ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นข้อมูล เช่น การเหยียบคันเร่งออกตัวแรงบ่อย การเบรกกระทันหัน ระยะเวลาติดเครื่องจอดพัก เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อที่จะร่วมกันให้คำปรึกษาการขับรถได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีลูกค้าที่ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เพราะการขับขี่ที่ถูกวิธีสามารถลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการค่อนข้างเยอะ”
นอกจากนั้นนายอำนาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อปี 2022 ทางสแกนเนียมีโครงการทดสอบที่ชื่อว่า Ecolution ขึ้นมา เพื่อมุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจขนส่งที่สนใจในเรื่องของการขับขี่แบบประหยัดน้ำมันเพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัทผู้ให้บริการด้านการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ต้องใช้ความปลอดภัยสูง เพื่อทำการทดสอบประสิทธิภาพสูงสุด


“Ecolution ถือเป็นโครงการขับขี่ประหยัดน้ำมันเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยสิ่งสำคัญต้องใช้ระบบ FMS เต็มรูปแบบเพื่อนำข้อมูลเชิงลึกมาวิเคราะห์ร่วมกับที่ปรึกษาการขับขี่ของสแกนเนียอย่างใกล้ชิด ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวมีระยะเวลาประมาณ 6 เดือน โดยเริ่มจากการเลือกโมเดลรถที่เหมาะสมกับรูปแบบการขนส่ง เราเลือกทดสอบกับรถสแกนเนีย 2 คัน นักขับ 4 ท่าน เพื่อให้ผลประเมินชัดเจน โดยก่อนโครงการตั้งเป้าหมายประหยัดน้ำมันดีขึ้นไว้ที่ 10% แต่หลังจบโครงการสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ถึง 36% หรือหากคำนวณเป็นเงินประมาณ 243,500 บาทต่อคัน ต่อปี รวมทั้งลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ได้ถึง 19 ตัน ตลอดโครงการ ซึ่งด้านปรึกษาการขับขี่นั้น มีทั้งภาคทฤษฎี การประชุมเพื่อวิเคราะห์การขับขี่จากข้อมูลร่วมกันและภาคปฏิบัติที่ผู้เชี่ยวชาญของสแกนเนียขึ้นรถไปกับนักขับมืออาชีพของลูกค้าขนส่งจริงกับลูกค้า”
ด้านนายณรงค์ฤทธิ์ อิทธิสารรณชัย ผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนการขาย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด เปิดเผยว่า รถสแกนเนียขึ้นชื่อเรื่องประหยัดน้ำมันด้วยระบบขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยม ทนทาน พร้อมหัวเก๋งที่ออกแบบและทดสอบมาแล้วว่าลู่ลมที่สุด อีกทั้งมีความปลอดภัยสูง ผ่านมาตรฐานความแข็งแรงสูงสุดในยุโรป มาพร้อมกับระบบช่วยทรงตัวESP ควบคุมเบรคด้วยไฟฟ้าEBS ระบบป้องกันการลื่นไถล ที่ติดมากับตัวรถเป็นมาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีระบบเบรคเสริมรีทาร์เดอร์เอกสิทธิ์เฉพาะของสแกนเนีย สำหรับการขนส่งที่ต้องลงเขาลาดชัน นอกจากนั้นยังมีภายในที่หรูหรา สะดวกสบาย หน้าจอดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว แสดงข้อมูลชัดเจนครบถ้วน


“ในโมเดลปี 2023 จุดเด่นหลัก ๆ ที่พัฒนาขึ้นคือ เกียร์ลูกใหม่ ที่นอกจากจะน้ำหนักเบาลงถึง 75 กิโลกรัมแล้ว ยังเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวล ต่อเนื่อง ทำความเร็วได้มากขึ้นในรอบเครื่องต่ำด้วยเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ ประหยัดน้ำมันดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมเพิ่มแรงบิดฉุดลากขึ้นอีก 25% นอกจากนั้นยังมีถังน้ำมันตัวใหม่ที่สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในถังได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้คุณไปได้ไกลกว่าที่เคย ไฟหน้า ไฟท้ายLED เต็มรูปแบบ เหมาะกับทุกการขนส่ง โดยเฉพาะการเข้าคลังหมวดขนส่งวัตถุอันตราย ระยะการมองเห็นดีขึ้น เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่”
สนใจสอบถามรายละเอียดการทดสอบและรถสแกนเนียเพิ่มเติมได้ที่
https://www.scania.com/th/th/home/campaigns/scania-champion.html หรือโทรศัพท์ 02-017-9200
Scania เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชั่นการขนส่ง ร่วมกับพันธมิตรและลูกค้าผลักดันการเปลี่ยนไปสู่ระบบการขนส่งที่ยั่งยืน Scania ก่อตั้งขึ้นในปีพ. ศ. 2434 มีสำนักงานในกว่า 100 ประเทศและมีพนักงาน 51,000 คน ทั่วโลก มีศูนย์วิจัยและพัฒนาในสวีเดน โดยมีสาขาในบราซิลและอินเดีย การผลิตจะเกิดขึ้นในยุโรปละตินอเมริกาและเอเชีย พร้อมศูนย์การผลิตระดับภูมิภาคในแอฟริกาเอเชียและยูเรเซีย Scania เป็นส่วนหนึ่งของ TRATON SE สำหรับการเยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติม: www.scania.com
เกี่ยวกับ Scania ในประเทศไทย
ในประเทศไทย Scania เริ่มต้นด้วยการนำเข้ารถบรรทุกเพื่อจัดหน่าย โดยบริษัท โฟฟร้อนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในปี พ. ศ. 2529 และในปี 2543 บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด ก่อตั้งขึ้นเป็นบริษัท ในเครือของ Scania ประเทศสวีเดน ในปี 2552 ได้ลงทุนในสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 16 ไร่ ดำเนินงานเป็นสำนักงานขายและศูนย์บริการหลังการขายที่ครบวงจร ขณะนี้เรามี 11 สาขาในประเทศไทย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่: www.scania.co.th