ยอดจดทะเบียนธุรกิจก.ย.58
เพิ่มขึ้น 8% จำนวน 390 ราย
พณ.เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจเดือนกันยายน 2558 มีผู้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,302 ราย เพิ่มขึ้น 390 ราย หรือเพิ่ม 8% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม ที่มีจำนวน 4,912 ราย แต่น้อยกว่า 777 ราย หรือ 13% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2557 ซึ่งมีจำนวน 6,079 ราย สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือนกันยายน 2558 มีจำนวน 1,878 ราย คาดทั้งปีมีธุรกิจจัดตั้งกว่า 60,000 ราย
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในกันยายน 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 45,515 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 32,275 ล้านบาท คิดเป็น 244% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2558 ซึ่งมีจำนวน 13,240 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 15,404 ล้านบาท คิดเป็น 51% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2557 ซึ่งมีจำนวน 30,111 ล้านบาท
ประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 575ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 238 ราย ธุรกิจขายส่งเครื่องจักร จำนวน 134 ราย ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหารจำนวน 133 ราย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ จำนวน 123 ราย
ปัจจุบัน ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้น 1,283,032 รายมูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 19.51 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 615,510 ราย มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 15.34 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 435,141ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,111 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 179,258 ราย
สำหรับการจดทะเบียนจัดตั้ง ห้างหุ้นส่วนบริษัท ในไตรมาส 3/2558 (ก.ค.-ก.ย.) มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท 15,602 ราย เพิ่มขึ้นจาก ไตรมาส 2/2558 (เม.ย.-มิ.ย.) 10% และลดลงจากไตรมาส 3/2557 (ก.ค.-ก.ย.) 8% ซึ่งคาดว่าแนวโน้มการจดทะเบียนตลอดทั้งปี 2558 จะมีนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจมากกว่า 60,000 ราย
และจากการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในปี 2558 ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ปรับตัวลดลงที่ 2.7 แต่ธุรกิจยังคงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐภายใต้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยมีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการลงทุนและการจ้างงาน รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในการประกอบธุรกิจ ประกอบกับมาตรการการเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐบาลในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนภาครัฐ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
แต่อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจในด้านต่างๆ เช่น ราคาน้ำมัน ภัยแล้ง ราคาสินค้าเกษตร การบริโภคภาคเอกชน เป็นต้น ซึ่งจะมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และส่งผลต่อการจดทะเบียนธุรกิจโดยรวม
สำหรับเรื่องที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดข้ามเขตจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2557 นั้น โดยในเดือนกันยายน 2558 มีการยื่นขอจดทะเบียนข้ามเขต จำนวน 847 ราย จากการจดทะเบียนทั่วประเทศ จำนวน 5,302 ราย หรือคิดเป็น 16%
นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังได้เปิดให้บริการโปรแกรมตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของนิติบุคคลโดยสามารถค้นหาจากรายชื่อหรือเลขทะเบียนของนิติบุคคล รวมทั้งข่าวสาร กิจกรรม โครงการต่างๆ และสถานที่ให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าผ่านมือถือ (Application : DBD e-Service) โดยระบบจะแสดงผลเป็นภาษาไทย ซึ่งสามารถใช้งานผ่านระบบปฏิบัติการ IOS และ Android โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2557 เป็นต้นมา เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลได้ด้วยตนเอง ซึ่งมีสถิติผู้ใช้บริการระบบจนถึง วันที่ 30 กันยายน 2558 รวมทั้งสิ้น 692,573 ครั้ง โดยในเดือนกันยายน 2558 มีการเข้าใช้ระบบนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 64,147 ครั้ง คิดเป็น 10%
อีกทั้งยังคงส่งเสริมให้มีการใช้ e-Commerce เพื่อประกอบธุรกิจและขยายตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรมได้ออกเครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered) เพื่อยืนยันการมีตัวตนของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 13,584 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (ส.ค.58) 513 ราย คิดเป็น 4% ประกอบด้วยนิติบุคคล 3,563 ราย คิดเป็น 27% บุคคลธรรมดา 10,021 ราย คิดเป็น 73% และมีเว็บไซต์ที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 15,363 เว็บไซต์ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (ส.ค.58) 551 เว็บไซต์ คิดเป็น 4% โดยธุรกิจที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ธุรกิจคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต จำนวน 2,519 เว็บไซต์ คิดเป็น 17% 2) ธุรกิจแฟชั่น/เครื่องแต่งกาย/เครื่องประดับ จำนวน 2,481 เว็บไซต์ คิดเป็น 16% และ 3) ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ จำนวน 1,890 เว็บไซต์ คิดเป็น 12%
ซึ่งการได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ กรมได้ประสานขอความร่วมมือกับตลาดกลางออนไลน์ให้กำกับดูแลสมาชิกให้มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย เพราะหากปฏิบัติไม่ถูกต้องจะมีโทษปรับ และอาจถูกพิจารณางดให้บริการเข้าขายสินค้าในตลาดกลางด้วย เพื่อเป็นการกระตุ้นการขยายตัวของการซื้อขายทางออนไลน์ของไทยให้เติบโตในอัตราก้าวกระโดดเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ
ปัจจุบันกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการรับงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี XBRL มาสนับสนุนการให้บริการรับงบการเงินผ่านทางเว็บไซต์กรม www.dbd.go.th>เลือก “ระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing)” โดยสถิติผู้ใช้บริการจนถึง วันที่ 30 กันยายน 2558 มีผู้สมัครลงทะเบียน จำนวน 360,208 ราย มาแสดงตัวตนต่อเจ้าหน้าที่ จำนวน 141,890 ราย และเปิดสิทธิ์ใช้งานแล้วจำนวน 92,213 ราย โดยกรมได้กำหนดว่าในปี 2559 ให้นิติบุคคล ทุกรายต้องนำส่งงบการเงินรอบปี 2558 ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ซึ่งกรมจะอำนวยความสะดวกในการจัดทำฐานข้อมูลงบการเงินปี 2557 ในรูปแบบ XBRL ให้นิติบุคคลทุกรายที่นำส่งงบการเงินแล้ว เพียงแค่บันทึกงบการเงินเฉพาะปี 2558 ปีเดียว โดยไม่ต้องบันทึกข้อมูลงบการเงินรอบปีก่อนหน้าอีก
ทั้งนี้ นิติบุคคลที่จะส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing จะต้องยื่นคำขอรับ Username และ Password และเอกสารหลักฐานได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยบริการของกรมทุกสาขา ทั่วประเทศ โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.dbd.go.th >เลือก “ระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing)” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร.02-547-4376, 02-547-4390, 098-830-4376 หรือสายด่วน 1570 โทรสาร. 02-547-4372 และ e-Mail : efiling.training@gmail.com
สุดท้ายนี้ กรมยังได้เปิดให้บริการใหม่อีกหนึ่งบริการ คือ การออกหนังสือรับรองนิติบุคคลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อย่างเต็มรูปแบบ โดยสถิติการใช้บริการจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2558 มีผู้ยื่นขอรับบริการทั้งสิ้น 2,113 คำขอ จำนวน 2,168 ฉบับ แบ่งเป็นส่วนกลาง 1,350 คำขอ 1,396 ฉบับ ส่วนภูมิภาค 763 คำขอ 772 ฉบับ