เทคนิคการทำตาสองชั้นสวย ๆสไตล์ไอดอลเกาหลี
ปัจจุบันการ ทำตาสองชั้น เป็นที่นิยมศัลยกรรมกันอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยเสริมความสวยงามแล้ว ยังช่วยปรับวิสัยทัศน์ในการมองเห็น รวมไปถึงการเสริมโหงวเฮ้งตาให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย การทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น มีเทคนิคการทำที่หลากหลาย โดยใครจะใช้เทคนิคใด ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อน เลือกที่ปลอดภัยเเละได้ชั้นตาที่สวยถูกใจ มากที่สุด ซึ่งการ ตาสองชั้น ที่สวย ต้องมีรูปลักษณ์ที่พอดีกับใบหน้า มีระดับขั้นตาและความโค้งที่ได้ระดับและแลดูเป็น ธรรมชาติ ทั้งนี้ ตาเกาหลี คือรูปแบบที่สามารถแก้ปัญหาตามที่เราต้องการได้
รูปอ้างอิง ตาสวยลุคไหนก็เอาอยู่
ปัญหาสำหรับคนที่ควรทำตาสองชั้น
รูปลักษณ์ดวงตาที่มีปัญหา ควรได้รับการศัลยกรรมตกแต่งแก้ไข มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ คนตา ชั้นเดียว ต้องการมีตาสองชั้น ส่วนมากเป็นคนเอเชีย ประเภท หนุ่มตี๋ สาวหมวย เป็นกลุ่มคนที่ชั้นตามีไขมัน มากกว่าปกติ ทำให้เกิดปัญหาด้านการมองเห็น และ อาจเกิดอาการหนังตาตกเมื่ออายุมากขึ้น จึงนิยมทำตาสองชั้น เพราะช่วยให้ ผู้หญิงแต่งหน้าง่ายขึ้น อีกทั้งเสริมเสน่ห์ให้ชั้นตาดูโตกว่าเดิม คนชั้นตาไม่เท่ากัน ปกติคนกลุ่มนี้ มีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่ขนาดของสองข้างไม่เท่ากัน เนื่องจากหนัง ตาตกลงมาทับชั้นตา ทำให้ตาสองข้างดูไม่เท่ากัน ตาดูง่วงตลอดเวลา เวลาลืมตาจะมองไม่เห็นชั้นตา คนตาสองชั้นหลบใน เกิดจากหนังตาชั้นบนตกลงมา เวลาลืมตาจะมองไม่เห็นชั้นตาที่ชัดเจน ทำให้ เเต่งตายาก และใช้เวลาในการเเต่งหน้านาน นอกจากนี้ ยังมี คนตาตุ่ย คนมีดวงตาเล็ก คนหนังตาตก คนตาดูง่วง และ คนมีกล้ามเนื้อตาอ่อนเเรง เพราะมีสภาวะกล้ามเนื้อตาทำงานได้ไม่เต็มที่ เกิดจาก การยืด ของกล้ามเนื้อตา ทำให้กล้ามเนื้อตาไม่แข็งแรง ไม่สามารถพยุงหนังตา จึงลืมตาได้ไม่สุด เป็นต้น
ชั้นตาของคนไทย และคนเอเชียเป็นแบบไหน แก้ไขอย่างไรดี
คนเอเชีย ส่วนใหญ่มีตาชั้นเดียว และ ตาสองชั้นหลบใน โดยเฉพาะผู้มีเชื้อสายจีน หนุ่มตี๋ สาวหมวย มักพบปัญหาในการแต่งหน้า อย่างการกรีดอายไลน์เนอร์ที่ยากกว่าปกติ บางคนตาตก ทำให้บุคลิกไม่สดใส หน้าตาดูง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา บางคนแก้ปัญหาเบื้องต้น ด้วยการติดสติกเกอร์ตาสองชั้น ซึค่งนอกจากดูไม่เป็นธรรมชาติแล้ว ยังอาจเสี่ยงต่อบริเวณผิวตาแพ้จนติดเชื้ออีกด้วย ดังนั้น หากใครที่กำลัง หาวิธีแก้ไขปัญหาอย่างถาวร การทำตาสองชั้น นับเป็นแนวทางที่ช่วยตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ยิ่งได้แพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญ จากคลินิกที่มีความน่าเชื่อ ถือ การที่จะได้ชั้นตาสวยเนียนเป็นธรรม ชาติแบบถาวร ก็ไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
รูปอ้างอิง เช็คปัญหาตาไม่เท่ากัน
เทคนิคทำตาสองชั้น
1. เทคนิคกรีดสั้น เป็นการเปิดแผลขนาดเล็ก เหมาะกับผู้มีอายุน้อยและมีหนังตาส่วนเกินที่ ไม่มาก ข้อดีคือ แผลเล็กและหายไว ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน แต่ก็มีข้อพึงระวัง สำหรับผู้มีบริเวณหนัง ตาส่วนเกินเยอะ ในบางเคสเมื่อทำไปเป็นระยะเวลานาน บริเวณชั้นตาอาจตกหรือตาไม่เท่ากันได้ เพราะ เทคนิคกรีดสั้น ไม่มีการตัดหนังตาหรือ ไขมันเปลือกตา ส่วนเกินออก ดังนั้น ควรให้แพทย์ที่มี ประสบการณ์ช่วยประเมิน ว่ากับเหมาะเราหรือไม่
2. เทคนิคกรีดยาว เป็นการตกแต่งหนังตา พร้อมเก็บไขมันเปลือกตาส่วนเกินออกไป เหมาะกับผู้มีหนัง ตาส่วนเกินเยอะหรือหนังตาตก เพราะสามารถแก้ไขปัญหาหนังตาส่วนเกิน เน้นให้เห็นชั้นตาชัด และหนังตา ไม่ตกซ้ำในระยะยาว แต่ก็มีข้อพึงระวัง อาจเกิดอาการบวมค่อนข้างนานและ ใช้เวลาพักฟื้น ยาวนานกว่ากว่ากรีดสั้น ใครที่สนใจทำตาสองชั้นเทคนิคกรีดยาว อาจต้องวางแผนวันหยุดให้ดี เพื่อจะ ได้มีเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัด
3. เทคนิคจัดเรียงไขมันชั้นตา / เลาะไขมันขั้นตา เหมาะกับผู้มีอายุน้อย แผลที่ได้จะเล็ก ใช้ พักฟื้นไม่นาน สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็ว แต่ก็มีข้อพึงระวังเช่นเดียวกับ เทคนิคกรีดสั้น โดยควรได้รับการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน เพราะระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดหนังตาตกได้ หากได้รับการประเมินที่ผิดพลาด
4. เทคนิคเปิดหัวตา ช่วยให้ดวงตาดูหวานและตาดูกลมโตมากขึ้น เพราะเป็นการ ผ่าตัดเนื้อที่ คลุมบริเวณ หัวตา เป็นเทคนิคที่เหมาะกับคนเอเชียอย่างมาก โดยเฉพาะชาวไทยที่มีตาชั้นเดียวหรือตาสองชั้นหลบใน แพทย์มัก ใช้เทคนิคนี้ร่วมกับการทำตาสองชั้น
คู่มือเตรียมพร้อม ก่อนทำตาสองชั้นและการดูเเลหลังทำ
*การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมตาสองชั้น
1.งดอาหารเสริม วิตามิน C,E น้ำมันตับปลา สมุนไพร 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
2.ผู้มีโรคประจำตัว ให้ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลก่อนเริ่มผ่าตัด
3.นอนให้เพียงพอ ไม่ต้องงดอาหารก่อนผ่าตัด
4.เตรียมแว่นตากันแดด เพื่อป้องกันฝุ่นละออง
5.หลังศัลยกรรม ไม่แนะนำให้ขับรถกลับเอง
*การดูแลตัวเองหลังทำตาสองชั้น
1.หลังผ่าตัด 48 ชั่วโมงแรก วางเจลเย็นประคบเพื่อให้หายเร็วขึ้น โดยใช้ผ้าก๊อซรองก่อน ระวังไม่ให้แผลเปียก ถ้ามีเลือดซึมสามารถใช้ผ้าก๊อซกดที่แผลเบา ๆ จนกว่าเลือดจะหยุดซึม
2.นอนหมอนสูงกว่าปกติใน 1-2 คืนแรกของการผ่าตัด เพื่อลดอาการบวม
3.ทำความสะอาดแผลวันละ 1-2 ครั้ง โดยใช้ไม้พันสำลีสะอาดชุบน้ำเกลือ แล้วเช็ดคราบเลือดซึมบริเวณแผล
4.ป้ายยาฆ่าเชื้อชนิดขี้ผึ้งที่แผลบ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
5.ห้ามแผลโดนน้ำอย่างเด็ดขาด จะทำให้แผลติดเชื้อได้
6.หลังผ่าตัดวันที่ 3 เป็นต้นไป หากมีรอยเขียวช้ำ ให้ประคบอุ่น จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น สามารถสลับประคบเย็นเพื่อช่วยให้ลดบวมเร็วขึ้น ถ้าไม่มีรอยเขียวช้ำให้ประคบเย็นต่อไป
7.ยาละลายลิ่มเลือดหรือวิตามิน สามารถกินได้หลังผ่าตัดวันที่ 3 หรือเมื่อไม่มีเลือดซึมแล้ว
8.หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง แอลกอฮอล์ อาหารทะเล 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลนูนคัน
9.กินยาฆ่าเชื้อจนหมดตามที่แพทย์สั่ง ยาแก้ปวดกินเฉพาะเวลามีอาการ
10.ออกไปข้างนอกให้ใส่แว่นตากันลมฝุ่น สิ่งสกปรก
11.มาตัดไหมตามนัด 5-7 วัน
12.หลีกเลี่ยงการใช้สายตาหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1-2 วัน