“รินไน” ยกไทยฐานผลิตส่งออกเพื่อนบ้าน
รินไน ยกไทยฐานผลิตเพื่อส่งออกเพื่อนบ้าน
พร้อมเดินหน้าบุกตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นเต็มตัว ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำอุ่นใหม่ 3 รุ่น ชูจุดขายดีไซน์อิตาลี พร้อมใส่ใจคุณภาพและความปลอดภัยในทุกรายละเอียด
นายไทจิ อุเมมูระ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รินไน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำร้อน เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม กล่าวถึงความสำเร็จของแบรนด์ รินไน และการผลักดันไทยเป็นฐานการผลิตสำหรับประเทศเพื่อนบ้านว่า รินไน ดำเนินธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นมากว่า 103 ปี ประสบความสำเร็จในการเป็นแบรนด์สินค้าอันดับ 1 ในกลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือน ปัจจุบัน รินไน ดำเนินธุรกิจอยู่ใน 34 ประเทศ มีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายอยู่ทั่วโลกกว่า 80 ประเทศ โดยผลิตภัณฑ์หลักประกอบด้วย 3 กลุ่ม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน อาทิ เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เตาอบ ผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำร้อน และผลิตภัณฑ์ทำความร้อนในที่อยู่อาศัย ฮีตเตอร์ และระบบทำความร้อนใต้พื้น (Space Heating) ที่สามารถครองอันดับ 1 กลุ่มเครื่องใช้ในครัวประเภทใช้แก๊สในอินโดนีเซียและเกาหลี รวมถึงครองอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำร้อนในตลาดอเมริกาและออสเตรเลียอีกด้วย
ทั้งนี้ หัวใจสำคัญที่ทำให้แบรนด์รินไนครองใจผู้บริโภคทั่วโลกได้นั้น คือ คำมั่นสัญญาที่ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2561 ที่มุ่งเน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแก่ผู้บริโภคและผู้ใช้งาน (Creating a healthier way of living) โดยในด้านการผลิตนั้น รินไน คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น จะเป็นผู้วางนโยบาย ดูแลการบริหารงาน รวมถึงมาตรฐานและคุณภาพผลิตภัณฑ์ ส่วนในภูมิภาคอาเซียนประเทศไทยนับเป็นฐานการผลิตสำคัญที่นอกจากจะผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศแล้ว ยังส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ พม่า กัมพูชา และยังเป็นฐานในการผลิตชิ้นส่วนเตาแก๊สให้กับโรงงานในหลายประเทศปีละกว่า 3.5 ล้านชิ้น นอกจากไทยแล้วในภูมิภาคอาเซียน รินไน ยังมีโรงงานในประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม เพื่อผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่ไม่เหมือนกันด้วย
นายสมพล ปรีชาวุฒินันท์ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท รินไน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จของ รินไน ในปี 2566 และแผนรุกตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นในช่วงปลายปีว่า ภาพรวมตลอดปียังถือว่าเป็นปีที่ดี เป้าหมายต่างๆ ยังเป็นไปตามที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในทุกกลุ่ม ทั้งเครื่องดูดควัน เครื่องทำน้ำร้อนแบบหม้อต้ม เตาแก๊สและไฟฟ้า ส่วนผลประกอบการคาดว่าน่าจะสูงกว่า 850 ล้านบาท แม้การส่งออกไปยังต่างประเทศจะได้รับผลกระทบจากภาวะสงคราม เงินเฟ้อและความไม่เสถียรของค่าเงินในแต่ละภูมิภาค
ส่วนแผนการตลาดปลายปีถึงต้นปีหน้านั้น รินไน ตัดสินใจเดินหน้ารุกตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นอย่างเต็มตัว จากความพร้อมของ รินไน (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำอุ่นน้ำร้อนระบบไฟฟ้า ที่จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ มีกำลังการผลิตประมาณ 200,000 เครื่องต่อปี ถือเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกของผู้ผลิตเครื่องทำน้ำอุ่นของประเทศไทยด้วย โดยตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นในประเทศนั้น ยังมีช่องว่างและมีโอกาสเติบโตไปได้อีกมาก ทั้งจากที่อยู่อาศัยใหม่และการเปลี่ยนเครื่องใหม่ รวมถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่นิยมอาบน้ำอุ่นเพื่อความผ่อนคลาย ส่วนการเลือกเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในช่วงเวลานี้ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับฤดูกาล บางพื้นที่ยังมีสภาพอากาศที่หนาวและมีความต้องการผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำอุ่นสูง
สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำอุ่นใหม่ที่ส่งลงตลาดครั้งนี้ มีการเปิดตัวพร้อมกันถึง 3 รุ่น โดยชูจุดขายผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบจากดีไซน์เนอร์ชาวอิตาลี พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานด้วยมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์และความปลอดภัยที่เป็นไปตามข้อกำหนดจาก รินไน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น อาทิ แทงค์ทองแดง ที่ไม่เกิดปัญหาการหลอมละลาย มีความทนทานสูง ทำความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ระบบการตัดไฟคุณภาพสูงเมื่อมีไฟรั่ว แผงวงจรได้รับการทดสอบจากสถาบันที่น่าเชื่อถือว่าทนทานต่อการเกิดไฟกระชาก ฯลฯ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 รุ่น ประกอบด้วย
รุ่น FON (ฝน) ที่ได้รับการออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชาวอิตาลี โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสายฝนที่โปรยปราย โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู ฝักบัวที่สามารถปรับสายน้ำได้ถึง 5 ระดับ สร้างความรู้สึกเหมือนการอาบน้ำท่ามกลางธรรมชาติ มีขนาดให้เลือกทั้ง 3,500 วัตต์ และ 4,500 วัตต์ ในราคาเริ่มต้น 3,390 บาท
รุ่น KIN 550(RB) กำลังไฟ 5,500 วัตต์ ดีไซน์สี Matte Black ดูเท่และมีเสน่ห์เข้ากับห้องน้ำทุกสไตล์ พร้อมกับชุด Rain Shower อาบอุ่นได้อย่างผ่อนคลาย ในราคา 8,890 บาท
รุ่น KIN 450(S) กำลังไฟ 4,500 วัตต์ ดีไซน์คลาสสิก เรียบง่าย พร้อมชุดฝักบัวโครเมียมที่ปรับสายน้ำได้ 3 ระดับ ในราคา 4,390 บาท
ทั้ง 3 รุ่น มีวางจำหน่ายแล้วที่ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศไทย
ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2567 นั้น รินไน ยังคงมุ่งเน้นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้บริโภค ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ มีเทคโนโลยี และความปลอดภัย ในราคาที่เหมาะสม โดยจะไม่มุ่งเน้นการแข่งขันเรื่องราคา ส่วนกลุ่มลูกค้านั้นจะเพิ่มน้ำหนักในกลุ่มเชิงพาณิชย์ (B2B) มากขึ้น ทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำร้อนระบบแก๊สสำหรับกลุ่มธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ร้านแฟรนไชน์ซักรีดที่เริ่มทำตลาดไปบ้างแล้วและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับครัวเชิงพาณิชย์ อาทิ เตาย่างซาลาแมนเดอร์ หม้อทอดไฟฟ้าและแก๊สสำหรับกลุ่มร้านอาหารและโรงแรม ส่วนกลุ่มที่อยู่อาศัยก็จะมีการส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ลงตลาดเช่นกัน ทั้งเตาไฟฟ้าและแก๊สรุ่นใหม่ เครื่องดูดควัน เครื่องทำน้ำอุ่น ฯลฯ
ผู้สนใจข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ รินไน สามารถติดตามได้ที่ www.rinnaithailand.com, Facebook Rinnai Thailand – Official Fanpage, Line official account @rinnaithai หรือ โทร. 0-2312-1438-40