เตือนออกพรรษา “เมาไม่ขับ”
วัยรุ่น15-24 ปีเจ็บ-ตายสูงปี57
นพ. อำนวย กาจีนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรคเผย ช่วงเทศกาลออกพรรษาปี 2558 ประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางกลับยังภูมิลำเนาและใช้ยานพาหนะจำนวนมาก ทั้งรถยนต์ รถโดยสารสาธารณะ และรถจักรยานยนต์ สธ. เน้นรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ย้ำเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ เมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ไม่สวมหมวกนิรภัย สาเหตุบาดเจ็บและเสียชีวิต
ทั้งนี้จากข้อมูลของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนช่วงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงออกพรรษา จำนวน 1,176 ราย ซึ่งสูงกว่าช่วงเข้าพรรษา 3 เดือนที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 1,072 ราย (เพิ่มขึ้น 8.84%) และข้อมูลการเฝ้าระวังการบาดเจ็บ ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่า ในเดือนออกพรรษา ปี 2557 จำนวนผู้ขับขี่ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตที่มีแอลกอฮอล์ร่วมด้วยมีจำนวน 1,526 ราย สูงกว่าช่วงเข้าพรรษา 3 เดือนที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเฉลี่ย 1,337 ราย(เพิ่มขึ้น 12.41%) รวมทั้งจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตโดยรวมก็มีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่มีงานประเพณี งานบุญในหลายพื้นที่ และที่สำคัญยังพบว่าในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว กลุ่มอายุที่มีการบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุดคือ 15-24 ปี (บาดเจ็บ 1,109 ราย เสียชีวิต 30 ราย) หรือคิดเป็น 30% ของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมดในเดือนตุลาคม
นายแพทย์อำนวย กล่าวต่อว่า ผู้ขับขี่ถือเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในการป้องกันและลดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ที่สำคัญต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮลล์ทุกชนิดขณะขับขี่ และขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และต้องเพิ่มความระมัดระวังในงานบุญหรืองานประเพณีตามหมู่บ้านต่างๆ รวมถึงขอความร่วมมือผู้นำชุมชนในการตั้งด่านชุมชนที่ปากทางเข้าหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีการจัดงาน เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และตักเตือน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นไม่ให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เน้นจักรยานยนต์ต้องใส่หมวกกันน็อค/ไม่ให้ขับรถเร็ว หรือหากดื่มแล้วต้องห้ามขับขี่ยานพาหนะ ใช้ด่านสกัดกั้นการเมาแล้วขับรถออกไปสู่ถนนใหญ่ที่มีรถใช้ความเร็วสูง
ในโอกาสเทศกาลออกพรรษาปีนี้ ขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความปลอดภัย อย่าลืมคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง สำหรับผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ทั้งผู้ขับขี่และโดยสาร อย่าลืมสวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง ที่สำคัญหากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หากเป็นไปได้ไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเอง เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายแทรกซ้อนได้ เช่น เกิดความพิการ โดยเฉพาะในผู้ที่บาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง กระดูกต้นคอ ซึ่งบางครั้งอาจไม่มีบาดแผลปรากฏให้เห็น จึงขอให้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร 1669 ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญ จะเกิดความปลอดภัยกับผู้บาดเจ็บมากขึ้น หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422