พาณิชย์ลั่นกลองรบนำทัพ
นักธุรกิจไทยรุกมัณฑะเลย์
ภายใต้ยุทธศาสตร์ Deepening ASEAN เจาะลึกทั่วทุกเมืองที่มีศักยภาพ พาณิชย์เปิดฉากรุกเมืองใหม่ในเมียนมา นำทัพ นักธุรกิจไทยรุกมัณฑะเลย์ ศูนย์กลางเศรษฐกิจอันดับสองของเมียนมา สร้างเครือข่ายและโอกาสการค้าการลงทุน ขยายตลาดและภาคบริการ แสวงหาวัตถุดิบ รวมทั้ง เสริมองค์ความรู้และพัฒนาทักษะให้นักธุรกิจไทย ใช้ประโยชน์จากการเปิดอาเซียน
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ปรับแผนจัดทัพบุกเจาะตลาดอาเซียน ภายใต้กลยุทธ์ “Deepening ASEAN” รุกตลาด ASEAN และตลาดศักยภาพสูงรายเมือง เจาะ Segments ใหม่ๆ และ Niche Markets เน้นการขยายการบุกเจาะตลาดในทุกหัวเมืองหลัก นอกเหนือจากเมืองหลวง โดยเริ่มจากกิจกรรมแรก คือ งาน Thailand Week ณ เมืองมัณฑะเลย์ ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งเมืองมัณฑะเลย์ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญอันดับสองรองจากกรุงย่างกุ้ง สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของจำนวนผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงอีกทั้งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมซึ่งประกอบด้วยท่าเรือ และสนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์ (Mandalay International Airport)
เพื่อติดอาวุธทางองค์ความรู้ก่อนการเข้าร่วมงานฯ กรมฯ ได้จัดกิจกรรมติวเข้มในวันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2558 เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้แก่นักธุรกิจ SMEs ผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมงาน Thailand Week ณ เมืองมัณฑะเลย์ และสมาชิก DITP AEC Club รวมกว่า 170 รายผ่านการเสวนา “Key to Success : ไขความลับธุรกิจ พิชิตตลาดเมียนมา” ณ โรงแรมบางกอกชฎา
งานThailand Week ณ เมืองมัณฑะเลย์นี้ ได้รับเกียรติจากอัครราชทูตไทยประจำกรุงย่างกุ้ง (นายชัยณรงค์ กีรติยุตวงศ์) และรัฐมนตรีพาณิชย์ประจำรัฐมัณฑะเลย์ (H.E. Mr. Aung Zan) เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดงานฯ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ห้างสรรพสินค้า Diamond Plaza, Mandalay ภายใต้ Concept: The New Era of Thai – Myanmar Trade and Investment มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานจำนวน 114 บริษัท 128 คูหา แบ่งกลุ่มสินค้าเป็น 6 ประเภท ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม วัสดุก่อสร้าง ฮาร์ดแวร์ เครื่องจักรกล ชิ้นส่วนยานยนต์ แฟชั่น (เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ) สุขภาพและความงาม ของใช้ภายในบ้าน ของใช้ในครัวเรือน รวมถึงกลุ่มธุรกิจบริการ (สปา โรงแรม ร้านอาหาร) มีผู้เข้าชมงานกว่า 23,000 ราย
สินค้าที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรกล และกลุ่มธุรกิจบริการ เกิดมูลค่าซื้อขายเกือบ 10 ล้านบาท ถือได้ว่าประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย เนื่องจากเป็นกิจกรรมแรกที่เปิดตลาดสินค้าไทยในเมืองใหม่ ซึ่งสินค้าไทยยังไม่เป็นที่คุ้นเคย
“ทั้งนี้ กรมฯ จะจัดงาน Thailand Week และ Mini Thailand Week อย่างต่อเนื่อง เพื่อบุกเมืองใหม่ หรือเมืองที่กำลังเติบโตมาก ได้แก่ เมียวดี มะริด และทวายในเมียนมา ไฮฟอง เกิ่นเทอ และฮานอย ในเวียดนาม เสียมราฐ พระสีหนุ และเกาะกงในกัมพูชา สุราบายาในอินโดนีเซีย หลวงพระบาง สะหวันนะเขต และจำปาสักในสปป.ลาว เซบู และดาเวาในฟิลิปปินส์ และเซอลังงอร์ในมาเลเซีย” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกล่าว
เมียนมาถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากมีประชากรหนาแน่นกว่า 64 ล้านคน ประกอบกับมีพื้นที่ติดกับจีน อินเดีย บังคลาเทศ ลาว และไทย หรือเรียกได้ว่าเป็นประเทศที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชียใต้ ทำให้ได้เปรียบในเรื่องภูมิศาสตร์ที่เอื้อต่อการติดต่อทางการค้า การส่งออก และการนำเข้า รวมถึงการส่งสินค้าผ่านแดนไปยังประเทศต่างๆ นอกจากนี้ เศรษฐกิจเมียนมาถือได้ว่ามีความโดดเด่น ดังจะเห็นได้จาก GDP ในปี 2558 ที่มีมูลค่ากว่า 65 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมีการขยายตัวสูงถึงร้อยละ 8.5 และมีโอกาสจะเติบโตแบบก้าวกระโดดเมื่อผ่านการเลือกตั้งในวันที่ 8 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้
ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม หรือขยายธุรกิจสู่ตลาดในภูมิภาคอาเซียน สามารถติดต่อ รับบริการข้อมูลการค้า การลงทุน กฎระเบียบ ตลอดจนคำปรึกษาเชิงลึกได้ที่ศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในอาเซียน (AEC Business Support Center) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร. 02 507 8218 ถึง 20 อีเมล์aecplus.tdc@gmail.com หรือ Facebook: DITP AEC Club
ภาพ-จากhttp://globalnewlightofmyanmar.com/