‘คอมมาร์ต คอมเทค’จุดพลุท้ายปี
โชว์ “นวัตกรรมบันเทิง-องค์กร”
“คอมมาร์ต คอมเทค 2015” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เปิดฉากแล้ว ภายใต้แนวคิด “Smart Entertainment & Smart Solution” โชว์นวัตกรรมเกี่ยวกับความบันเทิง พร้อมนำเสนอโซลูชันระดับองค์กร เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เป็นสื่อกลางให้ผู้บริโภคพบกับผู้ให้บริการและจำหน่ายสินค้าไอซีที กระตุ้นเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมไอซีทีไทยโค้งสุดท้ายของปี 2558 คาดยอดซื้อขายสะพัด 2,800 ล้านบาทมีผู้เข้าชมงานมากราว 8 แสนคน
นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อและดิจิทัล บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานเปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดไอทีของไทยในปี 2558 นี้ดีขึ้นจากปี 2557 แม้ในช่วงต้นปียังทรง ๆ ตัวเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัญหาการเมืองและยังไม่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ จนในช่วงไตรมาสที่3-4 มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าตลาดช่วยทำให้ตลาดฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 4 คาดว่าจะเติบโตขึ้นประมาณ2% มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาทจากประมาณ 3,000 ล้านบาทในปี 2557
ดาวรุ่งของปี 2558 ได้แก่ โน๊ตบุ๊คกลุ่มเกมมิ่ง ที่มาแรงแซงสมาร์ทโฟนไปซึ่่งมีการเติบโตคงที่ แม้มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ จากค่ายแอปเปิล ไอโฟน6 ไอโฟน6Sและไอโฟน 6S plus แต่ไม่แรงเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ ส่วนทิศทางตลาดในปีหน้าคาดว่า โน๊ตบุ๊คเน้นเกมมิ่งจะมาแรงเหมือนเดิมแม้ราคาไม่ได้ถูก โดยบางรุ่นอาจมีราคาแพงเกินหลักแสนบาท ในขณะที่แทบเล็ตจะลดบทบาทลงไป ซึ่งในปี 2558นี้ตลาดหดตัวลงไปประมาณ 10-15% ปีหน้าคาดว่าจะลดลงต่อเนื่อง
สำหรับการจัดงานคอมมาร์ต คอมเทค ครั้งล่าสุดซึ่งเป็นครั้งที่ 35 ของปีที่ 15 จัดภายใต้แนวคิด “Smart Entertainment & Smart Solution” โดยมีพันธมิตรทางธุรกิจเข้าร่วมแสดงเทคโนโลยีภายในงานมากมาย อาทิ Advice, ASUS, ANET, BOL, CSC, Dell, EMC, EPSON, Garena, HOLLYWOOD HD, HUAWEI, intel, IT CITY, J.I.B COMPUTER, Lenovo, MSI, SIS, SPEED COMPUTER, SPVi และ SVOA ซึ่งถือเป็นอีกครั้งที่งานคอมมาร์ตทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้ผู้บริโภคมาพบกับผู้ให้บริการและจำหน่ายสินค้าไอซีที ช่วยให้เกิดการซื้อขาย สร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นพลังส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไอซีทีไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2558 โดยตลอดปีนี้งานคอมมาร์ตได้มีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับตลาดและสภาวะเศรษฐกิจเรื่อยมา ส่วนงานในปีหน้าทางผู้จัดงานกำลังเตรียมสรรหาสิ่งใหม่ มาพัฒนาให้รูปแบบของงานดียิ่งขึ้น เพื่อช่วยส่งเสริมให้วงการไอซีทีบ้านเรายังคงแข็งแกร่ง เป็นแรงขับเคลื่อนอุตสาหกรรมต่อไป
ไฮไลท์ของงานได้แก่ ในส่วน Smart Solution ที่มีการนำเสนอโซลูชันระดับองค์กร ซึ่งมีพันธมิตรด้านไอซีทีขององค์กรระดับชาติ อาทิ ANET, BOL, EMC, NCB และ HUAWEI มานำเสนอโซลูชันหลากหลายทั้งด้านความปลอดภัยของการใช้ระบบคลาวด์ต่างๆ การให้คำปรึกษาการแบ็กอัพข้อมูลภายในองค์กร รวมทั้งการทำระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์สำหรับองค์กรจากผู้เชี่ยวชาญ, เทคโนโลยี CPU ใหม่ ๆ อย่างการเปิดตัว intel Core 6 Generation , PC Streaming ,ไอโฟนรุ่นใหม่ ๆ และการเปิดตัว Windows 10 ของ Microsoft
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์รองรับระบบ 4G ซึ่งเป็นผลจากการเปิดประมูลคลื่นความถี่ 4G ในไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะทำให้เกิดความต้องการจับจ่ายสินค้ากลุ่มไอซีทีที่รองรับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด โดยงานคอมมาร์ต คอมเทค เป็นงานแรกๆ ที่จัดแสดงและจำหน่ายสินค้า รวมถึงบริการต่างๆ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดตรงนี้ก่อนใคร
ในส่วนของ Smart Entertainment จะมีการแสดงนวัตกรรมเกี่ยวกับความบันเทิงที่แรกและที่เดียวในเมืองไทย มาให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด อาทิ เครื่องชมภาพยนตร์ 9 มิติ เครื่องเดียวในเมืองไทย ที่บูธ J.I.B ,โน้ตบุ๊กสั่งงานด้วยท่าทาง ซึ่งเป็นเทคโนโลยี RealSense ใหม่ล่าสุดจาก intel, การเปิดตัวของ Microsoft Surface Pro 4 ตัวแรกในเมืองไทยและ ASUS ZenWatch 2
สำหรับความน่าสนใจอื่น ๆ ภายในงาน ยังรวมถึงการตรวจเช็คเครดิตบูโรฟรี การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการลูกหนี้ที่มีประสิทธิภาพ กิจกรรมแข่งขันกีฬา eSports เกม League of Legends หาตัวแทนไปชิงแชมป์ที่เกาหลี โดย Garena รวมถึงกิจกรรม Smart Workshop ที่มีประโยชน์กับผู้เข้าชมงาน อาทิ How to “Hack Facebook” แฮกเฟซบุ๊ก รู้ทัน ป้องกันได้!, สร้างขุมทรัพย์ผ่าน YouTube ทำได้จริง และ Startup ยุคใหม่ เขียนแผนธุรกิจโดนใจ ได้เงินทุน เป็นต้น
ทั้งนี้คาดว่าจะมียอดขายสะพัดภายในเวลา 4 วันของการจัดงานประมาณ 2,800 ล้านบาทใกล้เคียงกับครั้งที่ผ่านมา โดยกลุ่มสินค้าขายดีที่สุดได้แก่ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งและ PC Streaming ในขณะที่คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 800,000 คน
นางสาวลษิดา สุทธาโรจน์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (
ในโอกาสเดียวกันนายพรชัยยังเปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัท เออาร์ไอพี ในปี 2558นี้ว่า ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงพอสมควร แต่ได้มีการปรับตัวโดยขยายธุรกิจใหม่ ๆ ด้านมีเดีย การจัดอีเวนท์และเพิ่มไลน์ธุรกิจใหม่ ๆ เช่น ดาต้าไดรฟ์ เป็นต้นและการปรับเรื่องค่าใช้จ่าย โดยรายได้ในช่วงไตรมาสที่ 2-3 ไม่ดีนัก แต่ในไตรมาสที่ 4 คาดว่าจะดีขึ้น ไม่ติดลบและทำให้รายได้ตลอดปี 2558 เสมอตัวหรือโตขึ้นเล็กน้อยราว 1-2% จากยอดขายประมาณ 800 ล้านบาท
ขณะที่ในปีหน้า 2559 ตั้งเป้าบริษัทฯจะมีรายได้เติบโตราว 10% โดยจะมาจากงานอีเวนท์ ที่มีประมาณ 4-5 งาน นอกจากนี้ยังมีงานเซอร์วิสส่วนราชการและธุรกิจใหม่ ๆ