“HSG Laser” เปิดตัวฐานการผลิตใหม่ในไทย
“HSG Laser” เปิดตัวฐานการผลิตใหม่ในไทย มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งเชิงกลยุทธ์ของบริษัทในภูมิภาค ตั้งเป้ากำลังการผลิตรวมทั่วโลก 10,000 หน่วย
HSG Laser ผู้ให้บริการชั้นนำด้านอุปกรณ์ขึ้นรูปโลหะ ได้เปิดตัวฐานการผลิตใหม่ทั้งหมดในกรุงเทพฯ ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ธีม “Growing Global, Linking Local” ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งเชิงกลยุทธ์ของบริษัทในภูมิภาค
ด้วยกลยุทธ์การทำให้เป็นสากลในระยะ 2.0 HSG Laser ตั้งเป้าที่จะเจาะลึกการตั้งหลักในตลาดท้องถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฐานการผลิต HSG ในประเทศไทยที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่จะมีบทบาทสำคัญในการขยายนี้ โดยขับเคลื่อนการก่อสร้างสายการผลิตตัดด้วยเลเซอร์ที่ครอบคลุม กลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะครอบคลุมหมวดหมู่ต่างๆ รวมถึงการตัดเรียบ การตัดท่อ การตัดแผ่น ห้าแกน 3 มิติ และโซลูชันระบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้ HSG Laser สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลกด้วยอุปกรณ์ตัดเลเซอร์ระดับมืออาชีพและราคาไม่แพง ฐานการผลิตในประเทศไทยคาดว่าจะบรรลุกำลังการผลิต 3,000 หน่วยต่อปี ซึ่งส่งผลให้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะทะลุกำลังการผลิตรวมทั่วโลก 10,000 หน่วย
นอกเหนือจากการพัฒนาความสามารถในการผลิตแล้ว HSG Laser ยังสร้างความร่วมมือกับบริษัทในท้องถิ่นเพื่อรองรับการเติบโตของระบบการผลิตทางอุตสาหกรรมระดับสูงของประเทศไทย ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรเหล่านี้ HSG Laser มีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนการจ้างงานในท้องถิ่นและกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค
Alpha Chang ผู้ก่อตั้งและประธาน HSG Laser เน้นย้ำว่าวิสัยทัศน์ของแบรนด์ HSG Laser คือการเป็นผู้ให้บริการอุปกรณ์และโซลูชั่นการขึ้นรูปโลหะชั้นนำของโลก โดยกล่าวว่า “ที่ HSG เราทำมากกว่าการสร้างรูปร่าง เราสร้างความไว้วางใจ เรา มุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือที่สุดของลูกค้าทั่วโลกของเรา”
ด้วยการมุ่งเน้นที่การวิจัยและพัฒนา HSG Laser ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในอุตสาหกรรม ณ เดือนพฤษภาคม 2567 บริษัทมีการติดตั้งแล้วกว่า 25,000 เครื่องทั่วโลก และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า 20,000 รายทั่วโลก ความมุ่งมั่นของ HSG Laser ในการส่งมอบคุณภาพที่ยอดเยี่ยมได้รับการสนับสนุนจากความสามารถในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ความมุ่งมั่นนี้ได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมโดยการมุ่งเน้นไปที่การวิจัยในญี่ปุ่น การยอมรับอย่างกว้างขวางในยุโรปและอเมริกา และการจัดตั้งโรงงาน