เที่ยวไหนดี… #สุขทันทีที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์-เพชรบุรี
ในปีนี้ต้องยอมรับว่า รัฐบาลโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทำงานกันตัวเป็นเกลียวเพื่อเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวไทย หวังให้ทะลุเป้าที่ต้องดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยให้ได้ 36.7 ล้านคนและทำรายได้ให้ประเทศ 3.5 ล้านล้านบาทในปี 2567 นี้ หรืออย่างน้อยให้ได้ใกล้เคียงกับยุคก่อนโควิด-19 ในปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่มีนักท่องเที่ยวมาไทยเยอะมาก ทุบสถิติสูงสุดเฉียด40 ล้านคน
เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน จะทำได้สำเร็จหรือไม่คงต้องเป็นกำลังใจและช่วยกันเพื่อให้ทำได้สำเร็จ ซึ่งตัวเลขกลางปี 2567 (1 มกราคม – 30 มิถุนายน) จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ต่างชาติมาไทยแล้วมากกว่า 17 ล้านคน มีรายได้จากการใช้จ่ายแล้วมากกว่า 8 แสนล้านบาท
พี่จีนยังเป็นเบอร์ 1 มาเที่ยวไทย ตามด้วยมาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย จีนมาแล้วมากกว่า 3 ล้านคน คาดว่าสิ้นปีน่าจะได้ใกล้เคียงเป้าที่ตั้งไว้ที่ 7.3 ล้านคน
แต่เราจะตั้งความหวังที่นักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเดียวไม่ได้ เราชาวไทยเองต้องช่วยกัน ไทยเที่ยวไทยให้สนุกสนาน ที่สำคัญ ไปเที่ยวแล้วช่วยส่งต่อจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่อ ๆ ไปให้โลกรู้ จะเป็นคุณูปการต่อประเทศชาติได้อย่างมากมาย
ไทยมีทั้งเมืองหลัก เมืองรอง น่าเที่ยว สำหรับจังหวัดอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก อย่าง “ประจวบคีรีขันธ์” เป็นอีกเมืองน่าเที่ยวและยังสามารถแวะไปเที่ยวเพชรบุรี ที่อยู่ใกล้เคียงกันได้ด้วย ทั้งสองเมืองจัดเป็นเมืองรองที่มีธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมแหล่งท่องเที่ยวน่าไปเยือนหลายแห่ง
มาดูตัวอย่างจุดท่องเที่ยวน่าไปของประจวบฯกัน
“วัดห้วยมงคล”
จุดแรกต้องไปวัดกันก่อนเลย วัดมีชื่อของประจวบฯ ต้อง “วัดห้วยมงคล” ตั้งอยู่ในตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเร็ว ๆนี้ระหว่างวันที่ 10-11 สิงหาคมที่ผ่านมามีงาน “ห่มผ้าหลวงปู่ทวดครั้งที่ 11” ครบรอบ 2 ทศวรรษ หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ วัดห้วยมงคล จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาค ภาคกลาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 มีประชาชนไปท่องเที่ยวร่วมเป็นจำนวนมาก ผู้เขียนไม่พลาดที่จะแวะไปสักการะเพื่อเป็นสิริมงคลด้วยเหมือนกัน
ปีนี้เป็นครั้งแรกที่มีการประกอบพิธีในเวลากลางคืน พร้อมประดับตกแต่ง ด้วยระบบแสงสีเสียงงดงามตระการตา เพิ่มความเข้มขลังให้กับงานพิธี และยังช่วยหลบแสงร้อนแรงในเวลากลางวันได้ เป็นกุศโลบายดีเยี่ยมเพื่อช่วยให้ประชาชนได้มีสมาธิในการร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งในช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 67 เป็นพิธีสวดตัดเคราะห์ต่อชะตา และเย็นวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 67 เป็นพิธีห่มผ้าองค์หลวงปู่ทวด
นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการททท. สำนักงานประจวบคีรีขันธ์
ที่พิเศษสุดสำหรับปีนี้คือ ผู้ที่ร่วมพิธีรับบุญทันตา รับหลวงปู่ทวดพิมพ์ใหญ่หลังเตารีดโบราณ ที่ผ่านพิธีปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง 15 รูป กลับไปบูชาเป็นสิริมงคลท่านละ 1 องค์ เป็นปลื้มกันไป
ใครที่พลาดโอกาสไปงานบุญสำคัญนี้ไม่ต้องเสียใจ ปีหน้าติดตามข่าวสารและไปใหม่ได้ แต่ถึงไม่มีงานก็ไปเที่ยวสักการะหลวงปู่ทวดกันได้ตลอดทั้งปี
นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการททท. สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีสินค้า บริการและกิจกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย สำหรับททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ โดยนำเสนอผ่านแนวคิด 5 Must Do in Prachuap Hhiri Hhan ได้แก่ Must Taste, Must Buy ,Must See, Must Seek ,Must Beat เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในทุกมิติผ่านกลไกการท่องเที่ยว กระจายประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้ในช่วงนี้ฤดูกรีนซีซั่น สิงหาคม-กันยายน มีการจัดกิจกรรมสำคัญหลายอย่าง เช่น งานวิจิตร 5 ภาค@ประจวบคีรีขันธ์ 17-25 สิงหาคม 2567 ณ อำเภอหัวหิน, งานท่องเที่ยวบางสะพาน ตำนานเมืองทอง ครั้งที่ 15 วันที่ 23 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567 บริเวณที่ว่าการอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์,- งานชวนวิ่ง ปล่อยปู กินลม ชมทะเล@เขาตะเกียบ อำเภอหัวหิน วันที่ 7 กันยายน 2567และ กิจกรรมงานประมงไทยชวนวิ่งที่บางสะพาน อำเภอบางสะพาน 20-22 กันยายน 2567
“วัดเขากะโหลก”
ใครที่สนใจไปเที่ยวงานกิจกรรมของจังหวัดประจวบฯ สามารถติดตามข่าวสารของททท.กันได้ และระหว่างการเดินทางอย่าลืมแวะจุดท่องเที่ยวอื่น ๆได้ตามเส้นทาง
สำหรับวัดอีกแห่งหนึ่งที่ผู้เขียนชวนให้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคล ได้แก่ “วัดเขากะโหลก” ซึ่งเป็นวัดเล็ก ๆ แต่มีโบสถ์หรือวิหารสวยงามทีเดียว บรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบน่าไปมาก โดยเฉพาะสายมูที่กำลังมองหาสิ่งมงคลกลับไปบูชา ต้องไม่ลืมแวะไปวัดนี้กัน วัดตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เมื่อไปถึงแล้ว สิ่งที่เห็นโดดเด่นเป็นโบสถ์หรือวิหารขนาดเล็ก ด้านหน้าทางเข้ามียักษ์ 2 ตนเฝ้าอยู่และมีพญานาคเป็นกำแพงโดยรอบ ด้านในสามารถเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้หลายอย่างรวม ทั้งกรมหลวงชุมพร เสร็จพ่อร.5 หลวงพ่อหว่าง อุตุตโม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดเขากะโหลก
ส่วนด้านข้างเป็นร้านค้ามีของดีสำหรับให้เช่าไปบูชา ไปชมแล้วจะเห็นองค์รูปจระเข้หลายขนาด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจระเข้ในตำนานว่า เป็นมหาเศรษฐีขี้เหนียวคนหนึ่งที่ไม่เคยทำบุญทำทาน ได้เงินทองมากก็ใส่โอ่งฝังไว้ที่ท่าน้ำ เมื่อตายไปแล้วไปเกิดเป็นจระเข้ และวนเวียนแถวท่าน้ำเพราะห่วงสมบัติ ต่อมาไปเข้าฝันลูกชายให้เอาสมบัติที่ท่าน้ำไปทำบุญ ผ่านการทอดกฐิน ถวายวัดและสร้างบุญกุศลอื่น ๆ เพื่อเป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา ระหว่างนำองค์กฐินแห่ไปทางเรือ จระเข้ตัวนั้นว่ายน้ำตามไปด้วย แต่เหนื่อยอ่อนแรงไปไม่ไหว ลูกชายและภรรยาจึงวาดรูปจระเข้ที่ธง แล้วยกขึ้นไว้ในวัดที่ไปทอดกฐิน
เมื่อพระสวดให้พรจบ จระเข้ตัวนั้นได้ขาดใจตาย คราวนี้ไปเกิดเป็นเทพที่ร่ำรวย สัญลักษณ์ของการทำมาค้าขึ้น ปลอดภัยต่ออันตราย เวลามีทอดกฐินเราจึงได้เห็นธงรูปจระเข้ ปรากฏตามวัดต่าง ๆ ใครอยากทำมาค้าขายคล่องตัวรุ่งเรือง ต้องแวะไปทำบุญเพื่อทำนุบำรุงวัดเล็ก ๆ แห่งนี้กัน ส่วนจะสนับสนุนวัตถุมงคล คงแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคลไป
“สถานีใหม่หัวหิน”
อีกจุดที่ต้องไปชม เห็นจะเป็น สถานีใหม่หัวหิน ที่มีโทนสีแดงสลับสีครีมแนววินเทจสวยสะดุดตา ซึ่งเวลานี้ได้กลายเป็นจุดเช็คอินอีกแห่งของจังหวัดประจวบฯไปเสียแล้ว
อาคารสถานีใหม่อยู่ห่างจากสถานีเดิมประมาณ 30-40 เมตร เพิ่งประกาศเปิดใช้ช่วงเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา เป็นอาคาร 3 ชั้นขนาดใหญ่รวมชั้นใต้ดิน มีการออกแบบสอดคล้องกับสถาปัตยกรรมของสถานีเดิม ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมวิกตอเรีย แต่โครงสร้างประกอบด้วยเหล็กกับคอนกรีต
ด้านบนเป็นหลังคาโปร่งโล่ง มีรถไฟทางคู่ยกระดับสูงประมาณ 14 เมตร เพื่อหลีกเลี่ยงทางตัดรถไฟในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เพิ่มความปลอดภัยและช่วยให้การเดินรถไฟรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้อาคารใหม่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างทั้งลิฟต์ บันไดเลื่อน ห้องสุขา ห้องพักรอสำหรับพระสงฆ์ ห้องให้นมบุตร ห้องรับฝากสิ่งของและอื่น ๆ
ส่วนสถานีรถไฟหัวหินเดิมอายุ 112 ปี เวลานี้ได้มีการอนุรักษ์ไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ไปแล้ว ซึ่งทางกรมศิลปากรจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูป เช็กอินภายในสถานีได้และอนุญาตให้ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ ท่องเที่ยวของเมืองก็สามารถติดต่อไปได้
“บ้านศิลปินหัวหิน”
“บ้านศิลปินหัวหิน” เป็นอีกสถานที่ต้องห้ามพลาด หลังจากแวะไปทำบุญไหว้พระกันแล้ว แวะมาหาความรื่นรมย์จรรโลงใจกันได้ที่บ้านศิลปินหัวหิน ซึ่งตั้งอยู่เลขที 82 หมู่ 14 ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่กว้างขวางทีเดียวขนาด 9 ไร่ และเป็นที่รวมผลงานศิลปะให้ชมหลายอย่าง ทั้งภาพเขียน ภาพสีน้ำ ภาพสีน้ำมัน ภาพสีอะคริลิก งานประติมากรรม รูปปั้น งานไม้แกะสลัก ผลงานประดิษฐ์โลหะ ของตกแต่งบ้าน ของเก่า และของสะสมต่างๆ
เดินชมเพลินกันเหนื่อยแล้ว แวะไปที่ร้านกาแฟ บรรยากาศดีริมน้ำนั่งพักผ่อน หรือร่วมทำเวิร์คช้อปงานศิลปะได้ เช่น ร้อยลูกปัด หรือวัดภาพ
ได้เสพงานศิลป์กันคุ้มค่ามากทีเดียว เมื่อเทียบกับค่าเข้าชมงานศิลปะที่ประเมินค่าไม่ได้ โดยคนไทย/ต่างชาติ ผู้ใหญ่มีค่าเข้าชมเพียง 40 บาท เด็ก 20 บาท เท่านั้น เปิดให้เข้าชมทุกวัน (ปิดทุกวันจันทร์ ยกเว้นวันหยุดต่อนื่อง) ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น.
เร็ว ๆนี้บ้านศิลปินหัวหินจะร่วมกับ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดเทศกาล “เทศกาลศิลปะร่วมสมัยประจวบคีรีขันธ์ : Prachuap Khiri Khan Art Festival 2024” ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2567 นี้ ณ บ้านศิลปินหัวหิน แห่งนี้ เวลา 10:00 – 17:00 น. คนรักงานศิลปะต้องลงตารางไว้ได้เลย
“ล่องเรือคลองเขาแดง”
นอกจากไปเที่ยววัด ชมงานศิลปะแล้ว ประจวบคีรีขันธ์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวให้ชมธรรมชาติหลายแห่ง “ล่องเรือคลองเขาแดง” หรือที่เรียกกว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” จัดเป็นอีกจุดท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อ.กุยบุรี จ.ประจวบ ที่ต้องลอง เชื่อแน่ว่าจะต้องเพลิดเพลินกับความงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ให้และยังได้ช่วยเหลือสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นไปด้วย
โดยจุดที่เป็นไฮไลท์ระหวางล่องเรือ มีทั้งหินจระเข้ ผาแดง หินแปดเซียน หินหน้าลิง พร้อมได้เห็นหมู่บ้านชาวประมง เรือประมงตามวิถีของคนในท้องถิ่น อีกทั้งได้ชมพรรณไม้เขตป่าชายเลนชนิดต่าง ๆ หรือหากโชคดีอาจได้เห็นนกยางโทนใหญ่ ค่างแว่นถิ่นใต้ หรือปลาตีนที่บางคนอาจจะยังไม่เคยเห็น
ที่สุดยอดอีกจุดคือ จุดวิวปากอ่าว เป็นช่วงตัดระหว่างเขตน้ำกร่อยที่จะออกสู่ทะเล ถ่ายรูปแล้วจะได้ภาพท้องฟ้าและทะเลสวยงามมาก ๆ นับว่า ได้ชม แชะ กันเพลินจนลืมเวลากันทีเดียว ซึ่งการล่องเรือไปและกลับใช้เวลาประมาณ 50 นาที
สามารถมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปี และไปได้ตั้งแต่เช้า เพราะเปิดบริการระหว่าง 8.00-16.30 น. ค่าบริการราคา 500 บาท/ลำ จำนวนไม่เกิน 6 คน 40-20 บาท ต่างชาติ 200 บาท ซึ่งมีประกันเพื่อความปลอดภัยพร้อม และมาแล้วอย่าลืมอุดหนุนผลผลิตจากทะเลของชาวบ้านในชุมชนให้เขามีรายได้ ไม่ต้องไปขายพื้นที่ห่างไกล
“สิรินาถราชินี ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน”
จุดชมธรรมชาติร่มรื่นอีกแห่ง ที่ผู้เขียนแนะนำว่าต้องไปชมกัน คือ “สิรินาถราชินี ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน” เพราะเป็นพื้นที่ป่าชายเลนกว้างใหญ่ไพศาล ที่ถูกพลิกฟื้นขึ้นมาจากนากุ้งร้างเสื่อมโทรม นับเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์อย่างมาก
ศูนย์การเรียนรู้ฯแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเก่า-คลองคอย ตำบลปากน้ำปราณ เดิมเป็นพื้นที่สัมปทานนากุ้งในช่วงปี 2524-2539 และด้วยน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ทรงห่วงใยสถานการณ์ป่าชายเลนบริเวณปากน้ำปราณบุรี นำไปสู่การปลูกป่าชายเลนอย่างจริงจัง ตั้งแต่ปี 2540 ตามโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ โดยความร่วมมือของชาวชุมชนปากน้ำปราณและบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
พรรณไม้ที่ปลูกอาทิ โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ ต้นแสม ต้นโปรง ตาตุ่มทะเลและอื่น ๆ จนสามารถสร้างระบบนิเวศป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ และยังได้ต่อยอดเป็นศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์ศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลน และห้องเรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรป่าชายเลน สำหรับนักเรียน นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป ทำให้กลายเป็นอีกจุดท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติที่สามารถมาได้ทุกวัน
แวะไปแล้วอย่าลืมไปให้อาหารน้อง ๆ กันด้วยนะคะ (ตัวเงินตัวทอง)
“วัดถ้ำแจง เพชรบุรี”
เมื่อมาเที่ยวประจวบฯแล้ว หากมีเวลาอาจแวะเที่ยวจุดใกล้เคียงในจังหวัดเพชรบุรีที่เป็นทางผ่านได้ จุดที่ไปแล้วเชื่อว่าจะต้องประทับใจ ตื่นตาตื่นใจกันอย่างแน่นอน ต้องไปที่ “วัดถ้ำแจง” เพื่อไปสักการะ “พ่อปู่พญาเพชรคีรี มหามุนี ศรีสุทโธนาคราช” องค์พญานาค ที่ถือเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งของจ.เพชรบุรี ด้วยมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สูงราว 31 เมตร ลำตัวกว้างขนาด 2 เมตร ออกแบบให้ดูเข้มขลัง และมีสีสันสดใสงดงาม
ภายในวัดมีบริการจำหน่ายดอกไม้ธูปเทียน พร้อมบายศรี ให้เลือกกัน ราคาเริ่มต้นที่ 49 บาท กราบไหว้บูชาพ่อปู่เสร็จแล้ว เดินไปลอดใต้ท้องเพื่อรับพรกันต่อตามที่ต้องการ เช่น จุดรับพรให้พ่อปู่ช่วยปกปักรักษา หนุนชีวิตให้รุ่งเรือง การเงินมั่นคง การงานมั่นคง ให้มีทรัพย์สมบัติ เงินทอง ไหลมา หรือเพื่อให้สมหวังในความรัก
วัดตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เดินทางไม่ยาก อย่าลืมแวะไปสักการะเพื่อเป็นสิริมงคล
โดยภาพรวมแล้ว อาจกล่าวได้ว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายจุดที่น่าสนใจ ทั้งที่เป็นธรรมชาติ ทะเล ป่า เขาและด้านศิลปะวัฒนธรรม วัดวาอาราม และยังสามารถแวะไปเที่ยวจังหวัดเพชรบุรีใกล้เคียงได้อีก เล่าทั้งวันก็คงจะไม่หมด
ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังไม่ได้รวมร้านค้า ร้านอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดที่รอให้ไปลิ้มลองอาหารอร่อย ๆ กัน ..
ซึ่งเป็น “Must Taste” 1 ใน 5 Must Do in Prachuap Hhiri Hhan..
#สุขทันทีที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์-เพชรบุรี