“ไทย สเตมไลฟ์” ครบรอบ 20ปี เดินหน้าพัฒนา “สเต็มเซลล์” ยกระดับคุณภาพชีวิต
“ไทย สเตมไลฟ์” ครบรอบ 20ปี เดินหน้าพัฒนา “สเต็มเซลล์” ยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมจับมือประเทศอาเซียนขยายฐานลูกค้า
เมื่อ 19 ก.ย. บริษัทไทย สเตมไลฟ์ จำกัด จัดงานครบรอบ 20ปี ที่ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ โดยมี พันตำรวจตรี พญ. เทพจงจิต อาวเจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทย สเตมไลฟ์ จำกัด กล่าวกับผู้ร่วมงานว่า เรามีเป้าหมายการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการ “ปรับวิสัยทัศน์พัฒนานวัตกรรมธนาคารสเต็มเซลล์มุ่งสู่ “ธนาคารสเต็มเซลล์อันดับ 1 ในการวิจัยและพัฒนาด้านสเต็มเซลล์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และนำพาประเทศให้เป็นผู้นำในด้านการดูแลสุขภาพในทุกมิติ เพราะเรามีความเชื่อว่า “สุขภาพเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่สุดของมนุษย์ “ ที่พร้อมให้การดูแลผู้รับบริการในทุกระดับ และในตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ไทย สเตมไลฟ์ คือ ธนาคารสเต็มเซลล์เอกชนแห่งแรก และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรทางการแพทย์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล ไม่เคยหยุดนิ่งในการวิจัยและพัฒนาสเต็มเซลล์ พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ในการทำธุรกิจ ภายใต้แนวคิด “Beyond Stem Cell Banking”
พันตำรวจตรี พญ. เทพจงจิต อาวเจนพงษ์ ยังได้ประกาศถึงการก่อสร้างอาคารใหม่ของไทย สเตมไลฟ์ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการเก็บรักษาและวิจัยสเต็มเซลล์ที่ทันสมัยที่สุด พร้อมยกระดับห้องปฏิบัติการให้ได้มาตรฐานระดับโลก GMP (Good Manufacturing Practice) เพื่อรับรองคุณภาพและความปลอดภัยในการผลิตสเต็มเซลล์ ทั้งหมดนี้เพื่อให้เราสามารถมอบบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า และรักษาความเป็นผู้นำระดับสากลอย่างมั่นคง
ด้าน ดร.นพ. คอนสแตนตินอส ปาปาโดพูลอส ที่ปรึกษา แพทยศาสตร์บัณฑิต ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต แพทย์เฉพาะทางสาขาระบบต่อมไร้ท่อ และเมตาบอลิซึม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาวิชาต่อมไร้ท่อ ได้บรรยายเชิงเจาะลึกถึงการพัฒนาและวิจัยด้านสเต็มเซลล์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้หัวข้อ “Unleashing the Power of Regeneration” และภายในงานมีช่วง เสวนา หัวข้อ “Stem Cells Transforming Lives” โดยได้รับเกียรติจากครอบครัวของ คุณมิว-นิษฐา และ คุณเซนต์-ธราภุช คูหาเปรมกิจ ที่ได้กล่าวถึงประสบการณ์ดีๆ ในการใช้สเต็มเซลล์เพื่อฟื้นฟูร่างกาย โดยเล็งเห็นว่าการเก็บสเต็มเซลล์นั้น เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของลูกที่คุ้มค่าสำหรับลูกน้อย และครอบครัวในอนาตค อีกทั้งมีการเล่าถึงประสบการณ์เเห่งความประทับใจ
คุณวารัทชญา อรรถอนุกูล คุณแม่ของ “น้องภาคิณ” หรือ นายภาคิณ อรรถอนุกูล ปัจจุบันอายุ 16 ขวบ โดยป่วยเป็น “โรคธาลัสซีเมีย” เมื่ออายุได้เพียงหนึ่งขวบ ซึ่ง ณ ตอนนั้น มีวิธีเดียวในการรักษาน้องภาคิณให้หายขาดได้ คือการปลูกถ่ายไขกระดูกเท่านั้น โดยนำเซลล์ต้นกำเนิดจากบุตรคนน้องนำไปปลูกถ่ายเพื่อรักษาบุตรคนพี่ ปัจจุบัน น้องภาคิณ หายป่วย..จากโรคธาลัสซีเมียมา ครบ 16 ปีแล้วค่ะ
ไทย สเตมไลฟ์ เป็นบริษัทเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย ที่ให้บริการเก็บแช่แข็งเซลล์ต้นกำเนิด ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2548 โดยมีความต้องการในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของกิจการธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดในประเทศไทย ด้วยระบบด้านห้องปฏิบัติการและการให้บริการ แก่ผู้ที่ประสงค์จะฝากเก็บทั้งเซลล์ต้นกำเนิดจากรก และของผู้ใหญ่ที่ได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพ และมีระบบการควบคุมคุณภาพตาม มาตรฐานสากล โดยด้วยความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 20,000 ครอบครัว จากทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไทย สเตมไลฟ์ได้มีการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาค เช่น กัมพูชา เวียดนาม ลาว และพม่า เพื่อยืนหยัดในฐานะผู้นำในการเก็บและฝากสเต็มเซลล์ทั้งในประเทศไทยและ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมื่อต้นปี 2567 ได้ลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรที่เวียดนาม เพื่อเป็นตัวแทนหลักในการให้บริการด้านสเต็มเซลล์แบบครบวงจร เพื่อขยายฐานลูกค้าในประเทศเวียดนาม ส่วนแนวทางการดำเนินงานในอนาคต ไทย สเตมไลฟ์ มีแผนยกระดับคุณภาพให้เป็นห้องปฏิบัติการระดับโลกที่ได้มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่รับรองคุณภาพและความปลอดภัยในการผลิตสเต็มเซลล์เพื่อใช้ในการรักษา
สิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเป็นผู้นำในการเก็บรักษาสเต็มเซลล์และให้บริการทางการแพทย์ที่ทันสมัยและปลอดภัยสูงสุด ซึ่งจะมีการร่วมมือกับทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ด้านเซลล์บำบัด เป็นทางเลือกใหม่ของการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ที่มีคุณภาพ กระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ และยกระดับวงการแพทย์ไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก ต่อไป.