SAM ต้อนรับ 4 พันธมิตรใหม่ ร่วมผสานพลัง “’โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM”
SAM ต้อนรับ 4 พันธมิตรใหม่ ร่วมผสานพลัง “’โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” แก้หนี้ครัวเรือน สร้างโอกาสคนไทย พลิกฟื้นการเงิน คืนชีวิตดีมีสุข
นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงินพันธมิตรรายใหม่เข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มเติมอีก 4 แห่ง ประกอบด้วย 1.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 2.บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท แคปปิตอล จำกัด 3.บริษัท เมืองไทย เพย์ เลเทอร์ จำกัด และ 4.บริษัท วิง มันนี่ จำกัด ส่งผลให้ปัจจุบัน “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” มีจำนวนสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการจากเดิม 32 แห่ง เป็น 36 แห่ง หรือครอบคลุมสถาบันการเงินของประเทศไปแล้วกว่าร้อยละ 90
“ SAM ขอแสดงความยินดีกับลูกหนี้ของสถาบันการเงินพันธมิตรใหม่ 4 แห่งดังกล่าวข้างต้นและขอถือโอกาสนี้เป็นตัวแทนประชาชนขอบคุณสถาบันการเงินทุกแห่งที่เข้าร่วมโครงการ เชื่อว่าสถาบันการเงินทุกแห่งในโครงการต่างมีความเห็นตรงกันว่าหลักเกณฑ์ คุณสมบัติและเงื่อนไขของ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” มีความพิเศษที่ให้โอกาสลูกหนี้สามารถเลือกผ่อนชำระได้ตามความสามารถและช่วยเหลือประชาชนได้แท้จริง อีกทั้งสถาบันการเงินทุกแห่งล้วนมีความตั้งใจ และเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นในการเข้ามาให้ความช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากการเป็นหนี้เสีย โดยเฉพาะลูกหนี้ประเภทบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ที่มียอดค้างชำระมากกว่า 120 วัน ให้มีกำลังในการแก้ปัญหาหนี้สินของตัวเองและสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศ อันจะนำมาซึ่งการฟื้นตัวและความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม” นางสาวนารถนารี กล่าวเพิ่มเติม
ด้านธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจส่งกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน และเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จึงให้ความสำคัญในการดูแลช่วยเหลือลูกค้าแก้ไขปัญหาหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยความร่วมมือกับ SAM ในโครงการคลินิกแก้หนี้ครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญในการช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลที่เป็นหนี้เสีย ให้สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ โดยสามารถเลือกวางแผนการผ่อนชำระที่เหมาะสมกับตนเอง สอดคล้องกับรายรับและรายจ่าย เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน โดยโครงการนี้ สำหรับลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคล แบบไม่มีหลักประกัน ค้างชำระเกิน 120 วัน ยอดหนี้ไม่เกิน 2 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนนานได้สูงสุดถึง 10 ปี
นางจงรัตน์นรี จิตรสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วิง มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “เป็นหนี้ ไม่หนี มาแก้หนี้กับกรีนวิงเงินด่วน เราขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันและสนับสนุนโครงการ “คลินิกแก้หนี้ by SAM” คืนความมั่นคงทางการเงินสู่ประชาชน พร้อมช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาด้านการเงินอย่างมืออาชีพ เราพร้อมทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่ไว้วางใจได้ โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนในจังหวัดเชียงรายและพะเยา ได้รับโอกาสในการปรับโครงสร้างหนี้ และกลับเข้าสู่ระบบการเงินอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนเพราะเราเข้าใจว่าทุกปัญหามีทางออก กรีนวิงเงินด่วน พร้อมเดินเคียงข้างคุณสู่ความมั่นคงทางการเงิน”
“โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-19.00 น. ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว รัชโยธิน (โซนลิฟท์แก้ว) ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ (BTS สถานีรัชโยธิน) หรือสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือ แอดไลน์ @debtclinicbysam และ Facebook คลินิกแก้หนี้ by SAM หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่Call Center 1443
ทั้งนี้ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐภายใต้กำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีบทบาทในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพโดยยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อขับเคลื่อนระบบสถาบันการเงินให้เติบโตอย่างมั่งคั่งและยั่งยืน
ส่วน “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” เริ่มดำเนินการครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 จากความคิดริเริ่มของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ ชมรมสินเชื่อส่วนบุคคล ชมรมธุรกิจบัตรเครดิต SAM และสถาบันการเงินต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการฯ ร่วมกันจัดตั้ง “โครงการแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน” หรือเรียกว่า “คลินิกแก้หนี้” โดยมอบหมายให้บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เป็นหน่วยงานกลางเชื่อมโยงระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันให้มีโอกาสแก้ไขปัญหาหนี้สินกับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ได้เบ็ดเสร็จครบวงจรในที่เดียว อีกทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างโอกาสให้แก่ประชาชนในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้และบริหารจัดการชำระหนี้ของตนเองได้อย่างเหมาะสมตามความสามารถที่แท้จริ งเพื่อให้ประชาชนที่มีปัญหาหนี้สินเหล่านั้นกลับมาดำเนินธุรกิจและประกอบอาชีพของตนได้ตามปกติ อันจะส่งผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
หลักเกณฑ์คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
· ลูกค้าที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย (NPL) บัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ
· เป็นหนี้เสียค้างชำระเกินกว่า 120 วัน (ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือนปัจจุบันมีสถานะค้างชำระ ตั้งแต่ 121-150 วัน ขึ้นไป)
· เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 70 ปี
· มียอดหนี้เสียรวมไม่เกิน 2 ล้าน
ความพิเศษของ โครงการ
· อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเพียงร้อยละ 3-5 ต่อปี
· ระยะเวลาผ่อนนานสูงสุดถึง 10 ปี
· มีทางเลือกการปรับโครงสร้างหนี้ 3 ทางเลือก
- ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี
- ผ่อนชำระนานกว่า 4 ปี ไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี
- ผ่อนชำระนานกว่า 7 ปี ไม่เกิน 10 ปี