กสิกรตั้งเป้า59 สินเชื่อโต6-7%
ชูผู้นำด้านดิจิทัล-แบงก์AEC+3
ธนาคารกสิกรไทย ตั้งเป้าปี 59 สินเชื่อรวมโต 6-7% บนพื้นฐานจีดีพีโต 3% ชูยุทธศาสตร์มุ่งเป็นผู้นำพร้อมกวาดลูกค้าดิจิทัล แบงกิ้งใหม่ 3 ล้านบัญชี พร้อมตอกย้ำการเป็นธนาคารแห่งAEC+3 เร่งขยายเครือข่ายและบริการข้ามชาติรองรับโอกาสทางธุรกิจในภูมิภาค เตรียมยกระดับสาขาในจีนเป็นธนาคารท้องถิ่น ขยายสาขาในลาว เปิดสาขาในกัมพูชา เวียดนามและเมียนมา และเชื่อมต่อโยงธนาคารพันธมิตร (Partner Bank) ตั้งเป้าสินเชื่อต่างประเทศจากปี 58 กว่า 80%
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ทิศทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2559 คาดการณ์ว่า จีดีพีจะขยายตัวราว3.0% โดยการลงทุนของภาครัฐยังเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จากการผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 20 โครงการ มูลค่ารวม 1.77ล้านล้านบาท ขณะที่ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายประจำปี รัฐบาลตั้งงบประมาณรายจ่ายลงทุนทั้งสิ้น 5.44 แสนล้านบาท สูงกว่าปี 2558 ถึง 20.7%
รวมทั้งมาตรการต่าง ๆที่จะช่วยเอื้อให้เศรษฐกิจโต ทั้งมาตรการช่วยเหลือทางการเงินแก่เอสเอ็มอี มาตรการกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่การค้าชายแดน และซุปเปอร์คลัสเตอร์ (Border Special Economic Zones & Cluster Based Special Economic Zones) ซึ่งจะสนับสนุนให้ธุรกิจการค้าในพื้นที่ดังกล่าวยังคงมีการขยายตัวและเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) จะยิ่งดีขึ้น มีกาารค้าขายมากขึ้น ในขณะที่กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม (CLMV) ยังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูงเป็นตลาดที่มีศักยภาพเพื่อการค้าการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาคนี้
ขณะเดียวกันภาคท่องเที่ยวยังเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมที่สำคัญของไทยในปี 2559 ด้วย โดยในปี 2558 ตัวเลขจากกรมการท่องเที่ยวพบว่า เดือนมกราคม-กันยายนมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาไทยถึง 22.14 ล้านคน เป็นชาวเอเชียถึง 72.4% เป็นจีนสูงถึง 27.6% ยุโรป 17.8% สร้างรายได้ให้ประเทศมากกวา 1.2 ล้านล้านบาทหรือประมาณ 10-12% ของGDP ด้านการส่งออกคาดว่าจะโตประมาณ 2% และเชื่อว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลงมาถึงจุดต่ำสุดแล้วและเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น แม้เศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตในกรอบจำกัด แต่การค้ากับอาเซียนยังอยู่ในเกณฑ์ดี มีการค้าขายกับไทยสูงราว 20% สิ่งเหล่านี้จะช่วยหนุน GDP ไทยเติบโตถึง 3%
ธนาคารกสิกรไทย จึงกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานของธนาคารในปี 2559 ให้สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศและแนวโน้มของภูมิภาค ประกอบด้วย สินเชื่อโดยรวมเติบโตที่ 6-7% อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวม (Cost to Income Ratio) ที่ 45-47% และอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL) ที่ระดับ 3.5-3.6% จากปลายปี 2558 อยู่ที่ 2.8% แต่ยังอยู่ในระดับที่จัดการได้
พร้อมตอกย้ำเป้าหมายการเป็นธนาคารหลักของลูกค้า (Customer’s Main Bank) ในทุกกลุ่มลูกค้า ยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และเดินหน้ายุทธศาสตร์การเป็นธนาคารแห่งเออีซีบวกสามเพื่อตอบรับศักยภาพของตลาดในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิผลและทันต่อภาวการณ์เพื่อให้ธุรกิจเติบโตและสร้างผลตอบแทนอย่างมั่นคงในระยะยาว
ด้านนายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปี 2559 ธนาคารกสิกรไทยได้มุ่งเน้นยุทธศาสตร์ 4 ด้านหลัก เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้ ดังนี้
1. การเป็นธนาคารหลักของลูกค้า (Customer’s Main Bank)ในทุกกลุ่มลูกค้า และมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยธนาคาร ครองความเป็นผู้นำการเป็นธนาคารหลักของลูกค้าในเกือบทุกเซกเมนท์ และมีสัดส่วนสูงขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
2. การเป็น “AEC+3 Bank” เพื่อตอบสนองต่อโอกาสทางธุรกิจจากการเกิด AEC และโอกาสทางธุรกิจกับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ธนาคารฯ มีกลยุทธ์ในด้านธุรกิจข้ามประเทศที่มุ่งเน้นขยายการให้บริการ เพื่อรองรับลูกค้าที่ขยายธุรกิจและการลงทุนในกลุ่มประเทศAEC+3 ด้วยบริการทางการเงินระหว่างประเทศแบบครบวงจร (Seamless Cross Border Solution) 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ บริการ Regional Value Chain Solution ที่เชื่อมโยงธุรกิจของลูกค้า เพื่อประสิทธิภาพการบริหารจัดการสูงสุดภายในเครือข่ายธุรกิจ มุ่งเน้นในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก คือ กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคและบริการ และกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์
บริการ Investment Solution ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนเพื่อรองรับความต้องการของธุรกิจไทยที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ผ่านการจับคู่ธุรกิจและการควบรวมกิจการ และบริการ Trade and Payment Solution ให้บริการการโอนและชำระเงิน ผ่านการสร้าง Border Trade Solution เช่น การจัดตั้งศูนย์ธุรกิจการค้าชายแดนที่แม่สอดเพื่อตอบรับกับนโยบายการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการสร้าง Digital Cross Border Payment Solution ด้วยการจับมือกับพันธมิตรพัฒนาระบบการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านระบบดิจิทัล แบงกิ้งเพื่อรองรับการชำระเงินและโอนเงินข้ามประเทศ
นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยเดินหน้าขยายช่องทางการให้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการยกระดับสาขาในประเทศจีนให้เป็นธนาคารท้องถิ่น ขยายสาขาในลาว เปิดสาขาในกัมพูชา เวียดนามและเมียนมา ซึ่งในปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีเครือข่ายบริการ ประกอบด้วย สาขาในต่างประเทศ 6 สาขา ได้แก่ สาขาเซินเจิ้น สาขาย่อยหลงกั่ง เซินเจิ้น สาขาเฉิงตู สาขาฮ่องกง สาขาลอสแองเจิลลิส สาขาหมู่เกาะเคย์แมน ธนาคารท้องถิ่น 1 แห่ง คือที่ สปป.ลาว สำนักผู้แทน9 แห่ง ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ คุนหมิง โตเกียว ย่างกุ้ง ฮานอย โฮจิมินห์ จาการ์ตา และ พนมเปญ ธนาคารพันธมิตร 72 แห่ง ใน 11 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เยอรมัน อิตาลี ลาว เวียดนาม กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และ จีน
ทั้งนี้ใในปี 2559 ธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าหมาย สินเชื่อต่างประเทศเติบโต 80% และตั้งเป้าหมายรายได้สุทธิจากต่างประเทศ เติบโต40%
3. การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อครองความเป็นผู้นำการให้บริการดิจิทัล แบงกิ้ง (Digital Banking) และยกระดับความสามารถของธนาคาร (Digital Transformation) ซึ่งในปี 2558 ธนาคารยังคงสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในโลกดิจิทัล ด้วยส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ที่38% ในด้านจำนวนผู้ใช้งานดิจิทัล แบงกิ้ง จากรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 โดย ณ เดือนกันยายน 2558 ธนาคารมีปริมาณธุรกรรมผ่านระบบบริการดิจิทัล แบงกิ้ง จำนวน 770 ล้านธุรกรรม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 50 %
ทั้งนี้ ธนาคารประมาณการยอดผู้ใช้งานดิจิทัลแบงกิ้งรวมของธนาคาร ณ สิ้นปี 2558 จะอยู่ที่ประมาณ 9 ล้านบัญชี สำหรับปี 2559 ธนาคารตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานดิจิทัลแบงกิ้ง รายใหม่อีกกว่า 3ล้านบัญชี หรือขยายตัวจากปี 2558 ประมาณ 30%
4. การตอกย้ำเรื่องบริการที่เป็นเลิศตามแนวคิด “บริการทุกระดับประทับใจ” และการเสริมสร้างตำแหน่งทางการตลาดนี้ให้แข็งแกร่ง โดยจากผลการสำรวจ Brand Equity Index ธนาคารมีคะแนนเป็นอันดับหนึ่งในปี 2557 ทั้งในลูกค้ากลุ่มบรรษัท ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และลูกค้าบุคคล สำหรับปี 2559 ธนาคารมุ่งเน้นการเสริมสร้าง แบรนด์ เพื่อเน้นย้ำการให้บริการที่เป็นเลิศ ตามแนวคิด “บริการทุกระดับประทับใจ”
ธนาคารกสิกรไทย จึงกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานของธนาคารในปี 2559 ให้สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศและแนวโน้มของภูมิภาค ประกอบด้วย สินเชื่อโดยรวมเติบโตที่ 6-7% อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวม (Cost to Income Ratio) ที่ 45-47% และอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL) ที่ระดับ 3.5-3.6%
พร้อมทั้งตอกย้ำเป้าหมายการเป็นธนาคารหลักของลูกค้า (Customer’s Main Bank) ในทุกกลุ่มลูกค้า ยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และเดินหน้ายุทธศาสตร์การเป็นธนาคารแห่งAEC+3 เพื่อตอบรับศักยภาพของตลาดในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิผลและทันต่อภาวการณ์เพื่อให้ธุรกิจเติบโตและสร้างผลตอบแทนอย่างมั่นคงในระยะยาว
ด้านนายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปี 2559 ธนาคารกสิกรไทยได้มุ่งเน้นยุทธศาสตร์ 4 ด้านหลัก เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้ ดังนี้
1. การเป็นธนาคารหลักของลูกค้า (Customer’s Main Bank)ในทุกกลุ่มลูกค้า และมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยธนาคาร ครองความเป็นผู้นำการเป็นธนาคารหลักของลูกค้าในเกือบทุกเซกเมนท์ และมีสัดส่วนสูงขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา