“ณัชพล” ส่งHARU BANGKOK
ชิงเค้กตลาดอาหารญี่ปุ่นในไทย
ตลาดอาหารญี่ปุ่นเดือด “ณัชพล ตันเจริญ” ทุ่ม 15 ล้านบาท เปิดตัว “HARU BANGKOK” ในชื่อร้าน “HARU Izakaya & Sushi Bar” ร้านอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่สไตล์โมเดิร์นอิซากายะ (Modern Izakaya) ที่กำลังได้รับความนิยมในญี่ปุ่น เจาะกลุ่มลูกค้าครอบครัว คนทำงานและวัยรุ่นในไทยด้วยสโลแกน “กินดื่มครบ จบในที่เดียว” พร้อมร่วมมหาวิทยาลัยมหิดลช่วยคำนวณปริมาณแคลอรีเสร็จสรรพทุกเมนู ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง
นายณัชพล ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท “HARU BANGKOK” หลังจากเว้นว่างจากงานทางการเมือง หันมาลงสนามธุรกิจอาหารญี่ปุ่นอย่างเต็มตัว โดยเปิดร้าน “HARU Izakaya & Sushi Bar” ณ ถนนเลียบทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ที่ถือเป็นย่านศูนย์กลางแห่งใหม่ มีทั้งห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก โรงภาพยนตร์ ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน และสำนักงานต่างๆ
“การเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากความชอบและหลงใหลในวัฒนธรรมและอาหารของญี่ปุ่นแบบขนานแท้ จากประสบการณ์จริง ทำให้เกิดแนวความคิดที่จะบุกตลาดอาหารญี่ปุ่น โดยนำสไตล์ “โมเดิร์นอิซากายะ”(Modern Izakaya) ที่กำลังได้รับความนิยมในญี่ปุ่น มาเจาะกลุ่มลูกค้าในไทยที่มีไลฟ์สไตล์ในการรับประทานอาหารใกล้เคียงกัน มุ่งเป้ากลุ่มครอบครัว คนทำงานและวัยรุ่น อาหารมีความหลากหลายทั้งสำหรับผู้ใหญ่ ผู้หญิงและเด็กทำให้สามารถเลือกรับประทานได้ตามความต่างของวัยและรับประทานได้ทั้งครอบครัว
โดยคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบของอาหาร ความสด สะอาด รสชาติ มีให้เลือกมากกว่า 240 เมนู พร้อมร่วมมหาวิทยาลัยมหิดลคำนวณปริมาณแคลอรีเสร็จสรรพกำกับไว้ทุกเมนู ช่วยตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง นอกจากนี้ยังรองรับงานจัดเลี้ยงหรือปาร์ตี้ทั้งแบบ indoor และ outdoor กลายเป็นจุดขายและจุดแข็งของร้าน”
นายณัชพล กล่าวต่อว่า ปัจจุบันคนไทยไปญี่ปุ่นกันมากขึ้นเนื่องจากไม่ต้องวีซ่า ค่าใช้จ่ายถูกกว่าเดิม ขณะเดียวกันคนไทยยังรับประทานอาหารญี่ปุ่นมากขึ้นและมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยยังมีการเติบโตระหว่าง 10-15% ต่อปีแม้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว
สำหรับร้านอาหารญี่ปุ่นในสไตล์ “โมเดิร์นอิซากายะ” จะเน้นการสังสรรค์ดื่มกินเป็นส่วนใหญ่ สอดคล้องกับสโลแกนของทางร้านที่ว่า “กินดื่มครบ จบในที่เดียว” ครอบคลุมในอาหารทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นอาหารจานร้อนสไตล์อิซากายะ (ปิ้ง ผัด ทอด ย่าง นึ่ง อบ ราเมง), ซูชิและซาซิมิ, และคอกเทลบาร์ในสไตล์ญี่ปุ่น
ทั้งนี้ร้าน “HARU Izakaya & Sushi Bar” ใช้งบลงทุนไปกว่า 15 ล้านบาท เป็นร้านแบบ Stand Alone ออกแบบเป้นอาคารชั้นเดียวบนพื้นที่ 1 ไร่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการร้านนั่งดื่ม ที่มีพื้นที่กว้างขวางจอดรถได้มากกว่า 40 คัน และยังอยู่ในบริเวณถนนสายหลักเส้นใหม่มีทางด่วนตัดผ่าน และยังอยู่ในย่านศูนย์กลางเมืองใหม่ โดยอาคารออกแบบด้วยแนวคิดการพับกระดาษของญี่ปุ่น(โอริกามิ) เป็นรูปนกกระเรียนเก๋ไก๋และมีความหมายดี หมายถึง “การมีสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาว” ส่วนภายในตกแต่งสไตล์เดียวกันและให้มีสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิและดอกซากุระที่เป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่นแฝงอยู่ในหลายมุม
แม้ทางบริษัทฯ มีแผนที่จะคืนทุนภายใน 2-3 ปี อย่างไรก็ดีนายณัชพลกล่าวว่า หลังจากเปิดบริการมาเป็นเวลา 4 เดือน กระแสตอบรับที่ดี อาจจะคืนทุนได้ภายในเวลา 1-2 ปีเท่านั้น โดยอนาคตอาจขยายสาขาเพิ่มภายใน 2-3 ปีหากมีโอกาสพบทำเลที่ดี ซึ่งมองไว้แถว ๆ ถนนตัดใหม่ราชพฤกษ์ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มเติมในกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงในเมียนมา ลาวและเวียดนาม โดยใช้เม็ดเงินลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
ผู้สนใจที่จะลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นรสชาติสไตล์ “โมเดิร์นอิซากายะ” สามารถไปได้ที่ร้าน“HARU Izakaya & Sushi Bar” ถนนเลียบทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ในซอยโยธินพัฒนา (หลังอาคารชิครีพับบลิค) โดยเปิดให้บริการวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 11:30 น. – 14:00 น. และเวลา 17:00 น. – 23:00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 11:30 น. – 23:00 น.
สามารถโทรสำรองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 02-515-0058-9 หรือเบอร์ 098-278-2266 และสามารถติดตามข่าวสาร–โปรโมชั่นได้ที่ LINE: @HaruBangkok Facebook : HARUBangkok และ Instagram : HARUBangkok หรือทางเวปไซค์ได้ที่www.HaruBangkok.com